ตอนที่ 226 ยั่วยุ
หลี่อวิ่นกังถอนหายใจออกมา “การที่ข้าคิดเช่นนั้นบางทีเจ้าอาจจะคิดว่าข้าเห็นแก่ตัว แต่ทว่าในยามนี้ฝ่าบาทกลับถึงบีบให้ถอยหลังทีละก้าว เจ้าเองก็รู้ว่ายามนี้กำลังของพรรคมังกรเหินสำคัญกับเขามากเพียงใด”
“ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เคยคิดว่าท่านเห็นแก่ตัวแม้แต่น้อย ที่ท่านอ๋องทำไปทั้งหมดก็ล้วนคิดแทนฝ่าบาททั้งสิ้น แล้วท่านคิดจะทำอย่างไรต่อไปเจ้าคะ”
หลี่อวิ่นกังจับไหล่บอบบางไว้มั่น “ชูเซี่ยนางเป็นหัวหน้าพรรคมังกรเหิน จริงที่ว่าตลอดระยะเวลาห้าปีมานี้นางไม่ได้ข้องเกี่ยวกับพรรคมังกรเหินอีก แต่ตราบใดที่นางยังมีตราพรรคอยู่ในมือทุกคนในพรรก็ล้วนต้องยึดมั่นในคำสั่งของนาง ดังนั้นข้าจึงอยากให้ฝั่งศัตรูลงมือกับชูเซี่ยก่อน แล้วให้ทางเราหรือไม่ทางฝ่าบาทยื่นมือเข้าช่วย หากว่ามีใครคิดทำร้ายชูเซี่ยแล้วล่ะก็พรรคมังกรเหินย่อมไม่มีทางอยู่เฉยได้แน่ ผู้ที่เป็นศัตรูกับชูเซี่ยก็ย่อมเป็นศัตรูกับพรรคมังกรเหินไปด้วย ถึงตอนนั้นต่อให้พรรคมังกรเหินไม่ได้สนับสนุนฝ่าบาท แต่ฝ่าบาทเองก็ย่อมสามารถยืมอำนาจของพรรคมาช่วยตัวพระองค์เองได้”
หลี่เฉินเย่นคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆแต่ทว่าในใจของเขาเองก็รู้สึกผิดเหลือเกิน
ชูเซี่ยเป็นแม่บุญธรรมของบุตรชายและบุตรสาวของเขาทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณของจวนอ๋องอีกด้วย การที่เขาทำเช่นนี้ หลอกใช้ชูเซี่ยก็ไม่ได้ทำเพื่อตนเองเสียหน่อย แต่ทว่าในใจของเขาก็ยังอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกผิดอยู่ดี
เย่เอ๋อได้ฟังแผนการของสามีตนก็เงยหน้าขึ้นถาม “แล้วชูเซี่ยจะเป็นอันตรายหรือไม่เจ้าคะ”
หลี่อวิ่นกังเองก็ไม่ได้มั่นใจ “ข้าเองก็ไม่มั่นใจ แต่ทางเราเองก็ต้องคุ้มครองนางให้ดีที่สุดก็คงไม่มีปัญหาอะไรกระมัง ชูเซี่ยเป็นหัวหน้าพรรคมังกรเหินอีกทั้งข้างกายนางยังมีเชียนซานคอยดูแล ไม่น่าห่วงหรอก”
เย่เอ๋อทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้าออกมาแรงๆ “อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้าว่าเราอย่าให้นางไปเสี่ยงอันตรายเลย หากว่าชูเซี่ยเป็นอะไรขึ้นมาพวกเราจะต้องผิดต่อนางตลอดชีวิตแน่เจ้าค่ะ”
หลี่อวิ่นกังคิดไปคิดมาก็เห็นด้วยกับนาง “ถ้าช่นนั้นเจ้าก็ลองคิดแผนดูเถิดแต่ตอนนี้เราต้องให้ชูเซี่ยย้ายมาอยู่ที่จวนอ๋องของเราเสียก่อน”
คนพวกนั้นคงไม่กล้ามาวุ่นวายถึงจวนอ๋องเจิ้งกั๋วของเขาแน่
“ดูๆไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเจ้าค่ะ ชูเซี่ยนางไปๆมาๆจนชิน หากจะรั้งให้นางอยู่ในจวนอ๋องของเราเกรงว่านางจะจับพิรุธได้นะเจ้าคะ”
“เดี๋ยวข้าจะไปหาจูฟางหยวนสักหน่อยก็แล้วกันเพราะเขาเป็นสหายรักของชูเซี่ยอาจจะพอพูดจาเกลี้ยกล่อมนางได้ มิฉะนั้นฝ่าบาทจะต้องเคลื่อนไหวแผนการของตนได้ลำบากแน่ตราบใดที่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลังเช่นนี้”
“ก็ดีเจ้าค่ะ ท่านก็ไปหาคุณชายจูลองคุยกับเขาดูสักหน่อยเถิด”
หลี่อวิ่นกังไปหาจูฟางหยวนจริงๆแต่ทว่าอีกฝ่ายดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย “กลัวอะไร ชูเซี่ยไม่จำเป็นต้องไปอยู่ที่จวนอ๋องของท่านหรอก ถ้าพวกมันจะมาก็ดาหน้ากันเข้ามาได้เลย”
“เกรงว่าจะเกิดเรื่องกับชูเซี่ย” หลี่อวิ่นกังเอ่ยท้วง
จูฟางหยวนยกมือตบโต๊ะอย่างแรง “กลัวอะไร คนที่สามารถทำร้ายนางได้ยังไม่เกิดมาหรอก ท่านคิดว่าพวกพรรคมังกรเหินตายกันหมดแล้วหรืออย่างไร อีกอย่างต่อให้ไม่มีพรรคมังกรเหินก็ไม่มีทางที่ศัตรูหน้าไหนจะทำร้ายชูเซี่ยได้หรอก ท่านคิดว่าวิชาเข็มทองนางทำได้เพียงรักษาคนแต่ไม่อาจทำร้ายคนได้งั้นหรือ? หากว่าให้นางลงมือขึ้นมาคนพวกนั้นอยู่ไม่สู้ตายแน่”
หลี่อวิ่นกังพอจะรู้ว่าชูเซี่ยมีความสามารถอยู่บ้างแต่ทว่าจูฟางหยวนก็กล่าวเกินไปหน่อยกระมัง เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ชูเซี่ยช่วยเหลืออานเหยียนนางเองก็ทุ่มสุดตัวสุดท้ายก็บาดเจ็บสาหัสไม่ใช่หรือ
“ลองปรึกษาเรื่องนี้กับเชียนซานหน่อยดีหรือไม่ ให้เชียนซานจัดคนมาให้ความคุ้มครองชูเซี่ยหน่อยก็ดี”
“ข้ากลับคิดว่าพวกท่านทุกคนดูจะกังวลเกินไปหน่อยกระมัง นี่มันเรื่องไม่ใช่เรื่องแท้ๆ อย่าได้คิดเชียวว่าชูเซี่ยเป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอ เรื่องบางเรื่องความสามารถของนางและความเข้มแข็งของนางมีมากกว่าพวกเราเสียอีก นางแข็งแกร่งกว่าที่พวกท่านคิดด้วยซ้ำไม่ว่าผู้ใดก็ทำอันตรายนางไม่ได้หรอก” จูฟางหยวนยังคงเอ่ยยืนกราน
“ต่อให้แข็งแกร่งเพียงใดก็เป็นสตรีผู้หนึ่งอยู่ดี พวกขุนนางเฒ่ามีทั้งเงินทองและอำนาจอยู่ในมือมากมายไม่ใช่คนที่นางจะรับมือได้ง่ายๆเลย”
“คงไม่ได้มาหาเรื่องชูเซี่ยพร้อมอาวุธครบมือกระมัง หากว่าอีกฝ่ายคิดจะมาเกลี้ยกล่อมนางด้วยคำพูดแล้วล่ะก็ก็คงไม่มีอะไรน่าวิตกหรอก ต่อให้อีกฝ่ายพูดจาแย่เพียงใดชูเซี่ยก็สามารถทำหูทวนลมไม่สนใจพวกเขาอยู่แล้ว ข้าว่าพวกท่านเองก็ไม่ต้องวิตกกังวลมากนักหรอก ท่านกลับไปทูลแก่ฝ่าบาทเถิดว่าชูเซี่ยนางรับมือได้แน่นอน นับตั้งแต่นางเป็นแม่คน หลายปีมานี้เพื่อเลี้ยงดูลูกๆของนางแล้วนางกลายร่างเป็นแม่เสือสาวไปเรียบร้อยแล้วล่ะ”
หลี่อวิ่นกังรู้สึกกังวลไม่น้อย “จริงหรือ”
จูฟางหยวนเช็ดดาบพลางเอ่ยขึ้น “ไม่เชื่อหรือ? ถ้าเช่นนั้นเรามาลองทดสอบกันดูเถิด”
“ทดสอบอย่างไร”
จูฟางหยวนเก็บดาบเข้าฝักก่อนจะเอ่ย “ตามข้ามา”
หลี่อวิ่นกังมองตามชายหนุ่มอย่างสงสัย จูฟางหยวนจึงเอ่ยขึ้นอีก “ไม่ต้องถามมาก รอดูฉากเด็ดก็พอแล้ว”
ชายหนุ่มเดินออกไปที่ลานบ้านก่อนจะเรีบกข้ารับใช้คนหนึ่งมาและยื่นก้อนเงินให้เขาหนึ่งข้อ “เจ้าไปหาแผ่นหนัง...”
จูฟาหยวนก้มหน้าลงเอ่ยกระซิบกระซาบข้างหูของข้ารับใช้นั้นอีกสองสามคำจากนั้นอีกฝ่ายก็พยักหน้าและเดินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...