ตอนที่ 228 พี่ใหญ่ของแต่ละฝ่าย
จูฟางหยวนเอ่ยขึ้น “เชียนซาน เจ้าไปกินยาผิดมาหรือถึงได้หาว่าข้าไปจ้างคนมาป่วนพวกเจ้าน่ะ”
ชายหนุ่มปรายตามองหลี่อวิ่นกังเล็กน้อย
หลี่อวิ่นกังยิ้มขำ “ไม่ต้องปิดแล้วล่ะ ชูเซี่ยนางจับได้แล้ว เจ้านี่ก็ใช่ จะหาก็ควรหาคนที่ฝีมือพอไปวัดไปวาได้สิ จะไปหายอดฝีมือมาทำไมกัน เชียนซานเกือบได้รับบาดเจ็บแล้วรู้หรือไม่”
จูฟางหยวนยิ้มบาง “พวกเขาน่ะหรือเป็นยอดฝีมือ ถ้าเช่นนั้นข้าก็นับว่าเป็นยอดฝีมือด้วยงั้นสิ แต่ก็ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ แต่ข้าก็นึกไม่ถึงว่าเชียนซานเองก็อยู่ที่นี่ด้วย”
ชายหนุ่มโบกไม้โบกมือ “คนพวกนี้ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ ข้าบอกแล้วแท้ๆว่ารอให้ข้าพาเด็กๆมาก่อนแล้วจึงค่อยลงมือ นี่อะไรกัน เมื่อครู่พวกเขาลงไม้ลงมือด้วยงั้นหรือ?”
เชียนซานส่งเสียงฮึดฮัด “เจ้ายังคิดจะรอให้เด็กๆมาก่อนจึงค่อยลงมืออีกหรือ เกินไปหน่อยกระมัง ช่วงนี้ชีวิตของเจ้าว่างมากนักหรือไง!”
เชียนซานกล่าวจบก็ทำท่าจะลงไม้ลงมือกับอีกฝ่าย
จูฟางหยวนรีบร้อนกระโดดหลบ “อย่าได้ลงไม้ลงมือเชียว ข้าก็แค่อยากพิสูจน์ให้ท่านอ๋องว่าแท้จริงแล้วชูเซี่ยสามารถคุ้มครองตนเองได้ก็เท่านั้น”
“โดยใช้วิธีพิสูจน์ของเจ้างั้นหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่ทำให้ข้าบาดเจ็บ? หากว่าเกิดพวกเขาพลั้งมือทำให้เด็กๆบาดเจ็บขึ้นมาเจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือไงกัน” เชียนซานคำราม
จูฟางหยวนเพ่งมองใบหน้าของนางก็เห็นว่ามุมปากของเชียนซานมีคราบเลือดอยู่จริงๆจึงตกใจไม่น้อย “จริงหรือนี่ คนพวกนั้นสามารถทำร้ายเจ้าได้ด้วยหรือ ข้าออกเงินเพียงแค่หนึ่งตำลึงเท่านั้นก็สามารถจ้างยอดฝีมือได้แล้วงั้นหรือ ข้านึกว่าพวกเขาเป็นคนฝีมือธรรมดาเสียอีก”
ชูเซี่ยฟังมาถึงตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจแล้ว “เงาคนที่ยืนขวัญเสียอยู่หน้าประตูเมื่อครู่คือคนที่จูฟางหยวนจ้างมา ส่วนกลุ่มยอดฝีมือก่อนหน้านั้นก็คือคนที่ต้องการมาส่งคำเตือนถึงข้าจริงๆสินะ”
นางหันไปทางจูฟางหยวน “เจ้าต้องการพิสูจน์ให้ท่านอ๋องเห็นว่าข้าสามารถดูแลตนเองได้ก็เพราะพวกท่านรู้ว่ามีคนต้องการทำร้ายข้าใช่หรือไม่”
จูฟางหยวนก็พยักหน้า “ใช่แล้ว วันนี้ท่านอ๋องมาหาข้าบอกว่าฝ่าบาทอยากให้เจ้าย้ายไปอยู่ที่จวนอ๋องเจิ้งกั๋วชั่วคราวเพราะว่ามีคนกำลังคิดร้ายกับเจ้าน่ะ”
ชูเซี่ยได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองหลี่อวิ่นกังก็เห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้ายืนยัน “ไม่ผิด เป็นเช่นนั้น”
เจิ้งกั๋วอ๋องยิ้มขื่น “เจ้าก็รู้ดีว่าขอเพียงเป็นเรื่องของเจ้าเชียนก็กังวลอยู่เสมอ เขากลัวว่าจะมีคนคิดร้ายกับเจ้า”
สีหน้าของชูเซี่ยฉายแววเหนื่อยล้าก่อนจะหันกายเดินเข้าบ้าน “เข้ามาก่อนค่อยพูดคุยกันเถิดเจ้าค่ะ”
หากว่าจะมีใครสักคนมาคิดร้ายนางจริง เหตุผลก็คงเป็นเพราะคู่แฝดกระมัง
แสดงว่าเชียนก็คงป่าวประกาศในท้องพระโรงแล้วกระมัง มิฉะนั้นคนพวกนั้นก็ยังคงคิดว่านางเป็นเพียงสนมของอดีตฮ่องเต้เท่านั้น ไม่มายุ่งวุ่นวายกับนางหรอก
จูฟางหยวนให้เชียนซานพาคู่แฝดไปเดินเล่นก่อนจากนั้นชายหนุ่มจึงค่อยตามเข้ามาสมทบ
หลี่อวิ่นกังที่อยู่ในบ้านก็เอ่ยถาม “ถ้าอย่างไรเจ้าเองก็ย้ายมาอยู่ในจวนอ๋องของข้าตามที่เชียนต้องการเถิดนะ”
ชูเซี่ยส่ายศีรษะช้าๆ “ไม่ ไม่จำเป็นหรอกเจ้าค่ะ เรื่องมาจนถึงบัดนี้แล้วข้าก็ไม่คิดจะหลีกหนีอีกแล้วล่ะเจ้าค่ะ ให้พวกเขามาหาข้าเถิดข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้าทำผิดอะไรนักหนา”
จูฟางหยวนปากไวขึ้นมา “เจ้าไม่ผิดที่ไหนกัน เจ้าคือพระสนมของอดีตฮ่องเต้ต่อมายังให้กำเนิดลูกที่เกิดจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน สำหรับพวกเขาแล้วเจ้าเป็นคนที่ทำผิดศีลธรรมอย่างไม่น่าให้อภัยด้วยซ้ำ เจ้าทำยังกับไม่รู้ว่ายุคอดีตผู้คนต่างก็หัวโบราณกันเพียงใด”
“ผิดศีลธรรม?” ชูเซี่ยยิ้มออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความขบขัน “เดิมทีข้าเป็นภรรยาของหลี่เฉินเย่นอยู่ก่อนแล้ว เป็นอดีตฮ่องเต้ที่บีบบังคับให้ข้าต้องถวายตัวเข้าวัง ตำแหน่งกุ้ยเฟยข้าเคยปรารถนาเสียที่ไหน อีกอย่างพวกขุนนางต่างก็รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร นี่มันเป็นแค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่งเพียงเท่านั้น แค่คำพูดลอยๆที่อดีตฮ่องเต้ตรัสออกมาถือเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร พวกเขาเองก็ไม่เคยนับถือข้าในฐานะหวังกุ้ยเฟยเสียด้วยซ้ำ ยังมีอีก ข้าจะคลอดลูกของผู้ใดมันก็เป็นเรื่องของข้า
เกี่ยวข้องกับผู้อื่นเสียที่ไหน”
“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าคิด แต่พวกตาเฒ่าหัวโบราณมันไม่ได้คิดกันเช่นนั้นน่ะสิ” จูฟางหยวนเอ่ยท้วง “ความจริงแล้วข้าก็ไม่เห็นด้วยนักหรอกเรื่องที่จะให้เจ้าไปอยู่จวนอ๋อง ทว่าหากเจ้าคิดว่าการรับมือขุนนางพวกนั้นเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าเจ้าก็ไปอยู่จวนอ๋องดีกว่า”
หลี่เฉินเย่นหันไปมองจูฟางหยวน “เพราะอะไรเจ้าจึงไม่อยากให้นางไปอยู่จวนอ๋องกับข้า?”
จูฟางหยวนลากเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งเข้ามานั่งใกล้ๆพวกเขา “ไปจวนอ๋องเป็นเพียงการหลีกเลี่ยงปัญหาไม่ใช่การแก้ปัญหาเสียหน่อย”
“นางอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...