ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 244

ตอนที่ 244 มองเห็นความผิดผกติ

ชูเซี่ยยื่นน้ำชาให้เขา “นั่งลงดื่มชากัน ถ้าไม่มีอะไรเจ้าไม่มาหาข้าถึงที่หรอก มาแล้วก็แปลว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน”

เหลียงกวางเสียงรับถ้วยชา พลันขอบคุณ ถือถ้วยชาไว้ ไม่ได้ดื่ม ราวกับว่ากำลังลังเลอยู่ว่าจะเปิดปากพูดอย่างไรดี

ชูเซี่ยไม่ได้เร่งเขา หลังจากที่ดื่มน้ำชาไปหลายคำแล้ว พลันหยิบมันเทศบนโต๊ะมากิน

เหลียงกวางเสียงเห็นอย่างนั้น ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นายหญิง นี่ของเหลือจากเมื่อวานใช่ไหม อย่ากินเลย เดี๋ยวท้องเสีย”

ชูเซี่ยพูดว่า “ของเช้าวันนี้ ยังกินได้ คืนนี้อยู่คนเดียว กินอะไรรองท้องหน่อยก็พอ เดี๋ยวข้ามีธุระต่อ”

หล่อนพูดจบ พลันเงยหน้ามองเขา “ใช่แล้ว เจ้าก็ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม หรือเอาอย่างนี้ ข้าผัดผักสักสองอย่าง”

เหลียงกวางเสียงโบกมือ “ไม่ลำบากนายหญิงแล้ว ข้าน้อยกินมันเทศด้วยดีไหม”

ชูเซี่ยยิ้ม “เจ้ากินไม่เป็นหรอก”

“นายหญิงกินได้ ข้าน้อยก็กินได้ ไม่มีอะไรที่กินไม่ได้” เหลียงกวางเสียงพูดพลันหยิบชิ้นเล็กมาปอกเปลือกและเอาเข้าปาก เขาไม่หิว และไม่ได้กินมันเทศนานแล้ว กับธัญพืชจำพวกนี้ เขาไม่ค่อยชอบกินหรอก

แต่ว่า กินไปสองคำ เขาชะงักเล็กน้อย ความทรงจำย้อนไปในตอนเด็ก ตอนนั้นเขาฝึกอยู่บนดอย มักจะนัดกับเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนไปขุดมันเทศของชาวนา จากนั้นขุดหลุมเพื่อเผามันเทศ รสชาตินั้นดีมากเลย

ในตอนนั้น ช่างมีความสุขเสียจริง

“กินไม่ลงก็ไม่ต้องกินแล้ว” ชูเซี่ยเห็นเขาชะงัก พลันพูดขึ้น

เขาเป็นถ้ายเว่ย มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นผู้อาวุโสในพรรคมังกรเหินด้วย ก็ในทุกๆ ปีก็สามารถเบิกเงินของพรรคได้ กินดีอยู่ดี จะให้มากินธัญพืชเมล็ดโตแบบนี้ได้อย่างไรกัน

เหลียงกวางเสียงกินหมดภายในสองสามคำ และหยิบชิ้นใหม่มากินอย่างตะกละตะกลาม พลันยืดคอและพูดว่า “อร่อย ไม่ได้กินมันเทศที่หอมหวานอย่างนี้มานาน”

ชูเซี่ยหัวเราะพลันพูดขึ้นว่า “นี่เพื่อนบ้านให้มา ให้มาตะกร้าหนึ่ง ความจริงแล้วข้าไม่ค่อยชอบกิน แต่ว่า ไม่อยากเสียน้ำใจความอื่น”

“นายหญิงช่างเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน” เหลียงกวางเสียงกล่าว

“อื้ม ก็ไม่ขนาดนั้น แค่ดีกับเขา เขาก็จะดีกับเจ้า”

เหลียงกวางเสียงรู้สึกว่า ชูเซี่ยกำลังใช้ชีวิต หล่อนเหมือนกับสามัญชนทั่วไป แค่ใช้ชีวิตตรงหน้าให้ดีก็พอ

ช่างเป็นคนที่อยู่กับความจริง เต็มไปด้วยความร้อนรน

เขาก็อยากมีชีวิตแบบนี้ อยู่กับคนที่ตนรัก

นิ่งไปสักพัก เขาหยิบขวดพอร์ซเลนออกจากกระเป๋าเสื้อหนึ่งใบ วางไว้ตรงหน้าชูเซี่ย

ชูเซี่ยจ้องไปที่ขวดพอร์ซเลน สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ของอะไร”

เหลียงกวางเสียงกล่าวว่า “นายหญิง ท่านลองเปิดดู”

ชูเซี่ยถือขวดขึ้น เปิดฝาออก พลันมองในขวด สีหน้าเปลี่ยนในทันใด “นี่มัน......”

เหลียงกวางเสียงสีหน้าไม่ดีนัก “นายหญิง ท่านอย่าเพิ่งถาม มีหลายเรื่องที่ตอนนี้ข้าน้อยไม่สามารถพูดได้ แต่ว่า ข้าน้อยรับรองกับท่านได้ว่า ไม่ได้หักหลังพรรคมังกรเหินแน่นอน”

ชูเซี่ยนำชามมาหนึ่งใบ เทของที่อยู่ในขวดนั้นออก

มีแมลงนับพันตัว ส่วนมากได้ตายไปแล้ว ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าอะไรเลย แต่กลับมีกลิ่นหอมของยา

กลิ่นนี้ รู้สึกได้ถึงความคุ้นเคย

“นี่ข้าน้อยเป็นคนขโมยมา บางทีอาจช่วยล้างสารพิษให้ฮองไทเฮาได้” เหลียงกวางเสียงกล่าว

เขาไม่ได้บอกว่าขโมยมาจากไหน แต่เมื่อเอาของชิ้นนี้มาให้ แปลว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังเขาต้องการปองร้ายฮองไทเฮา

เขาใช้คำว่าขโมย แปลว่าตำแหน่งของเขาในกลุ่มคนนี้ไม่สูงนัก ไม่อย่างนั้น ไม่ต้องใช้คำว่าขโมย

ชูเซี่ยมองหนอนพิษในชาม พวกมันเชื่องช้ามาก ดูท่าแล้วต้องค่อยๆ ตายไปทีละตัว หนอนพิษไม่ต้องทำการวิจัย ที่ต้องวิจัยคือกลิ่นยานี้

หล่อนปิดปากขวด เพื่อรักษากลิ่นยานี้ไว้

“ของที่เจ้าเอามาให้มีประโยชน์มาก” ชูเซี่ยเก็บขวดยาให้ดี ไม่ได้พูดอย่างอื่น และไม่ได้ถามว่ากลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเขาคือใคร

เหลียงกวางเสียงเดิมทีคิดว่าชูเซี่ยต้องซักแน่นอน เขาก็ได้เตรียมคำพูดมาเหมือนกัน แต่หล่อนกลับไม่ถามอะไรเลย กลับทำให้เหลียงกวางเสียงไม่รู้จะเปิดปากพูดยังไง

“นายหญิง ข้าน้อยไม่มีทางเลือก......”

ชูเซี่ยโบกมือ “เจ้าไม่ต้องพูดหรอก ข้ารู้ เจ้ามีบางอย่างที่คนอื่นสามารถเอาไปขู่ได้ ลูกของเจ้า คนรักของเจ้า ดูเหมือนจะอิสระ แต่ความจริงแล้วมีคนคอยเฝ้ามองอยู่ คนของหลิงกุ้ยท่ายเฟย ไม่มีใครอยู่ข้างเจ้าหรอก”

เหลียงกวางเสียงมองชูเซี่ยอย่างประหลาดใจ เดิมทีนี่เป็นสิ่งที่เขาจะพูด เขาอยากพูดว่าตนเองไม่มีทางเลือก

ชูเซี่ยหัวเราะ “นี่เป็นคำพูดที่เจ้าอยากพูดกับข้าใช่ไหม แต่ว่า แม้เจ้าอยากจะพูดกับข้าแบบนี้ แต่เจ้าไม่เชื่อกว่าในวังเต๋าชิงซูไม่มีคนของเจ้า เพราะว่า คนส่วนมาก เป็นคนที่เจ้าส่งไป พวกเขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า”

ใบหน้าของเหลียงกวางเสียงค่อยๆ ซีดลง “นายหญิงดูออกหมดแล้ว นายหญิงผู้หยั่งรู้”

“ข้าไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ ที่ข้าพูดมาทั้งหมด ล้วนมีหลักฐานทั้งนั้น เจ้ารู้หรือเปล่าว่าสายลับของพรรคมังกรเหินเราต้องทำอะไรบ้าง ข้าพูดเรื่องนี้กับเจ้า ไม่ได้ต้องการเปิดเผยอะไร เพียงแค่อยากให้เจ้ารู้ว่า สถานการณ์ของพวกเจ้าไม่ดีนัก อย่าคิดว่าตนเองสามารถควบคุมอะไรได้ ในสายตาพวกเขา เจ้าแค่หมากตัวหนึ่ง”

เหลียงกวางเสียงนิ่งไปครู่หนึ่ง “นายหญิงรู้ว่าพวกเขาคือใครหรอ”

ชูเซี่ยผงกหัว “พอรู้”

เหลียงกวางเสียงรู้สึกแปลกใจ ดูเหมือนว่า ทุกคนประเมินชูเซี่ยต่ำไป

ชูเซี่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา “คนที่อยู่เบื้องหลังเจ้านั้น วางแผนให้ข้ากลับมาที่เมืองหลวง เพื่อต้องการสกัดหลี่เฉินเย่น เพื่อให้เขามีความผิด หากข้าไปลื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่ากับเขา อย่างนั้นหลี่เฉินเย่นก็จะมีปัญหา สำหรับขวดที่เจ้าเอามาให้ในวันนี้ เจ้าไม่ได้ขโมยมาหรอก คนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าให้เอามาให้ต่างหากล่ะ พวกเขาไม่ได้ต้องเอายาแก้พิษมาให้หรอก แค่นำเอากลิ่นยามาให้เพื่อให้ข้าไปผลิตเอง ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ต้องอยู่ในเมืองหลวงนานขึ้นเพื่อวิเคราะห์ยา ก่อนที่ฮองไทเฮาจะหายดี ข้าก็จะไม่สามารถไปจากเมืองหลวงได้ ข้ายังอยู่ในเมืองหลวง แผนการของพวกเขาก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้ หากข้าจากไปเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะหาข้อเอาผิดหลี่เฉินเย่นไม่ได้ ความผิดใดๆ ก็ไม่หนักหนาเท่าการคบชู้ เพราะถือเป็นการไม่เคารพปฐมกษัตริย์ เป็นความอับอายแห่งวงศ์ตระกูล ความผิดมหันต์นี้ ตระกูลของวี่สื่อต้าฟูเป็นต้น จะใช้ข้อนี้ในการควบคุมฝ่าบาท ควบคุมอำนาจของฝ่าบาท ถึงตอนนั้น พวกเจ้าก็จะได้สิ่งที่ตนเองต้องการ”

เหลียงกวางเสียงเหงื่อไหลท่วมหัว สิ่งที่ชูเซี่ยพูด มันใกล้เคียงกับแก่นแท้ของเรื่องแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่า สิ่งที่พวกเขาวางแผนมาอย่างรอบคอบนั้น กลับถูกนายหญิงมองออกในพริบตาเดียว เขากลับมาแค่กี่วันเอง

ซึ่งแน่นอนว่า เขาคิดว่าที่ชูเซี่ยพูดว่าวัดเต๋าชิงซูไม่มีใครอยู่ข้างเขานั้น เพียงเพื่อต้องการยุให้เกิดความแตกแยก เพื่อสร้างความไม่ไว้วางใจในหมู่พวกเขา

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้พูดอะไร พูดแค่ว่า “นายหญิงผู้หยั่งรู้ ข้าน้อยนับถือยิ่งนัก”

ชูเซี่ยยิ้มอ่อนๆ พลันพูดว่า “นับถือรึ กลัวว่าไม่ใช่นับถือ ข้าไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง พวกเจ้าหาใครมาปลอมเป็นอาจารย์ข้าล่ะ จูฟางหยวนเคยอยู่กับอาจารย์ข้า คนที่ปลอมเป็นอาจารย์ข้านั้น กลับไม่ถูกจับได้ ดูเหมือนว่าหน้าตาและเสียงน่าจะมีความคล้ายคลึงกันมาก”

เหลียงกวางเสียงพูดอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติว่า “เรื่องนี้ ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ”

ชูเซี่ยไม่ได้ถามต่อ เพียงมองดูสีหน้าของเขา อดไม่ได้ที่จะยื่นข้อเสนอให้ “ข้าเคยไปวัดเต๋าชิงซู คิดว่าพวกเจ้าก็ต้องมีการป้องกัน เจ้าอย่าหาว่าข้าพูดมาก คนของวัดเต๋าชิงซูนั้น เจ้าเชื่อใจไม่ได้หรอก หากต้องการโอนย้ายลูกของเจ้าและหลิงกุ้ยท่ายเฟย เจ้าต้องจัดสถานที่เอง”

ชูเซี่ยช่างตรงไปตรงมายิ่งนัก กลับเป็นเหลียงกวางเสียงที่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ

ปฏิเสธหรือ แต่เห็นได้ชัดว่าหล่อนรู้เรื่องแล้ว แต่หากว่ายอมรับ จะไม่เป็นการวิ่งเข้าหากระสุนหรอกรึ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า