สรุปเนื้อหา ตอนที่ 245 ขอแค่ตนเองรอด – ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
บท ตอนที่ 245 ขอแค่ตนเองรอด ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 245 ขอแค่ตนเองรอด
หล่อนมองดูเหลียงกวางเสียง “หมอหลวงหลันเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาไม่เคยวางยาฮองไทเฮา เจ้ามีอะไรจะบอกข้าไหม”
นี่เป็นการขอร้อง หล่อนเพียงแค่อยากช่วยหมอหลวงหลัน ไม่ต้องการไต่สวน
ไต่สวนตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว เพราะหล่อนรู้หมดแล้ว ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
เหลียงกวางเสียงก็เข้าใจดี แต่เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยง หากให้ข้อมูลไป แม้ชูเซี่ยจะไม่ไต่สวน ฝ่าบาทจะทรงไม่ไต่สวนเหมือนกันรึ กรมอาญาก็ไม่ไต่สวนเหมือนกันรึ มันเป็นไปไม่ได้ หากไต่สวนไปเรื่อยๆ จะเจออะไรบ้าง ยากที่จะคาดคะเนจริงๆ
“ขอโทษ ข้าน้อยไม่ได้รับผิดชอบเรื่องพวกนี้ และไม่ทราบด้วย” เหลียงกวางเสียงกล่าวแสดงความขอโทษ
“เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เจ้าก็รู้แก่ใจดี ทำไมต้องทำร้ายอีกชีวิตเพิ่มล่ะ” ชูเซี่ยดูไม่ค่อยพอใจ
เขาเงยหน้าขึ้น แววตาหนักแน่น “นายหญิง จุดประสงค์ที่ข้าน้อยมาในวันนี้คิดว่าท่านก็คงรู้ แต่ไม่ว่ามาด้วยจุดประสงค์อะไร ประเด็นคือมาส่งยาถอนพิษ สำหรับเรื่องอื่น อย่าบังคับข้าน้อยเลย ถึงท่านจะฆ่าข้าน้อย อะไรที่ข้าน้อยก็พูดไม่ได้ข้าน้อยก็จะไม่พูด ”
ชูเซี่ยมองดูเขา คิดว่าบทสนทนานี้น่าจะจบลงเพียงเท่านี้ เขาไม่น่าจะบอกหรอก เขามาเพียงเพื่อให้หล่อนรู้สึกว่าเขายังเป็นคนที่สามารถไว้วางใจได้หรือเขาทำเพราะไม่มีทางเลือก
การมาส่งยาถอนพิษ ก็ใช่ว่าจะยอมออมมือกับฮองไทเฮา เพียงแค่ต้องการให้หล่อนอยู่เมืองหลวงนานขึ้น
เขาคิดเสมอว่า มีเพียงการเชื่อฟังคำสั่งของคนคนนั้น จึงจะสามารถรักษาตำแหน่งของตนในตอนนี้ไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือ ยังได้อยู่กันพร้อมหน้ากับหลิงกุ้ยท่ายเฟย
หล่อนไม่รู้ว่าควรพูดกับเขาอย่างไรดี คนเราโลภมากไม่ได้ ต้องได้อย่างเสียอย่าง ของมีค่าสองสิ่งมักจะไม่ได้ได้มาพร้อมกันได้ง่ายๆ
หล่อนไม่อยากไปสนใจอารมณ์ความรู้สึกของเหลียงกวางเสียงหรอก สิ่งที่หล่อนต้องทำตอนนี้คือ ต้องรีบไปหาจูเก๋อหมิง และศึกษาเกี่ยวกับยาถอนพิษเสียหน่อย เพราะว่าจุดประสงค์ที่เขามาในครั้งนี้หนักแน่นมาก เขาไม่ยอมบอกอะไรหรอก
“ข้าจะออกไปสักหน่อย เจ้าก็กลับไปเถอะ” ชูเซี่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา
เหลียงกวางเสียงมองดูหล่อน “นายหญิงเพิ่งจะกลับมา จะออกไปอีกแล้วรึ”
ชูเซี่ยยิ้มขื่นๆ “หากข้าไม่ทำเวลา จะสู้กับพวกเจ้าได้อย่างไรล่ะ เจ้าเป็นผู้อาวุโสของพรรคมังกรเหินของเรา และเป็นถ้ายเว่ยด้วย เก่งขนาดนี้ เป็นได้แค่ตัวหมากในกระดาษเขา หากข้ายังไม่กระตือรือร้นกว่านี้ ต้องตามพวกเจ้าไม่ทันเป็นแน่”
หล่อนใช้ตัวหมากในการสะกิดเขาอีกครั้ง หวังว่าเขาจะรับรู้
แต่เห็นได้ชัดว่า เหลียงกวางเสียงไม่แม้แต่จะรับรู้ถึงความหวังดีจากหล่อน
เขาพูดอย่างเรียบๆ ว่า “ข้าเป็นตัวหมากตัวหนึ่ง แต่ว่า สำหรับข้าแล้ว พวกเขาก็เป็นแค่ตัวหมากของข้าเหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์”
“ของมีค่าสองสิ่งมักจะไม่ได้ได้มาพร้อมกันได้ง่ายๆ” ชูเซี่ยกล่าว
“ไม่เคยพยายาม รู้ได้อย่างไรว่าทำไม่ได้ หากข้าอยากให้ความสุขแก่เขา ข้าก็ต้องรักษาตำแหน่งในตอนนี้ให้ได้ก่อน ข้าไม่อยากให้เขามาลำบากกับข้า”
ชูเซี่ยแปลกใจที่เขาสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ เดิมทีคิดว่าเขาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้
“รอดูละกัน” ชูเซี่ยเก็บข้าวของ “แม้เจ้าไม่ได้ลาออกจากพรรคมังกรเหินอย่างเป็นทางการ แต่ข้ารู้ว่าสักวันเจ้าต้องลาออก จุดประสงค์ที่เจ้ามาในวันนี้ข้ารู้ดี หากเจ้าจะบอกข้าว่าเจ้าก็มีส่วนลำบากใจของเจ้า เจ้าไม่มีทางเลือกที่ต้องทำแบบนี้ ข้าก็จะไม่ปิดบังเจ้าแล้ว เจ้าแค่นำคำพูดที่ข้าได้พูดกับเจ้าไปส่งต่อก็พอ จุดประสงค์ของพวกเขา ข้าก็รู้ดี แผนการของพวกเขา ข้าก็รู้อีก การที่พวกเขาให้เจ้ามาส่งยาถอนพิษ เพียงแค่ต้องการทดสอบว่าข้ารู้มากแค่ไหน สิ่งที่ข้ารู้นั้น ข้าก็จะไม่ปิดบังเจ้า เพียงพอให้เจ้ากลับไปส่งข่าว”
คำพูดของชูเซี่ยฟังดูค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็ฟังออกว่า หล่อนไม่มีสคริป หล่อนพูดจากใจจริง
นั่นทำให้เหลียงกวางเสียงรู้สึกละอาย และลำบากใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือการทำตัวไม่ถูก
หล่อนช่างโผงผางตรงไปตรงมา แต่ตัวเอง กลับอ้อมค้อมคดเคี้ยว อยู่ต่อหน้าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เขาไม่กล้าโผงผางแบบขุนนางหรอก
ชูเซี่ยกลัวว่าจะเป็นกรณีหลัง แต่เมื่อนึกถึงความยิ่งใหญ่ของอาจารย์แล้ว ไม่น่าจะตกอยู่ในมือของพวกเขา
และมีอีกกรณีหนึ่งก็คือ เหลียงกุยพวกเขา ไม่ได้ร่วมมือกับคนเบื้องหลังของเหลียงกวางเสียง สิ่งที่พวกเขาต้องการทำในตอนนี้คือ ต้องการยุให้ขุนนางใหญ่อย่างเฉินเย่นกับเหลียงกุยและจางเซียนฮุยแตกคอกัน และกอบโกยผลประโยชน์ระหว่างนั้น
นั่นก็คือเหตุผลที่พวกเขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนกลับมาเมืองหลวง พวกเขาคิดว่า เฉินเย่นในตอนนี้ไม่มีอะไรให้สามารถจับผิดได้ เหลือเพียงทางเดียวคือการลงมือจากชีวิตส่วนตัว และใช้ความไม่พอใจของตระกูลบัณฑิตใหญ่หลายตระกูลที่มีต่อเฉินเย่นที่คิดอยากจะแบ่งแยกอำนาจกษัตริย์ในการสร้างความแตกหัก
สำหรับฉ่ายเวินนั้น ตายจริงหรือไม่ ต้องเปิดโลงดูแล้วล่ะ
เมื่อถึงบ้านจูเก๋อหมอง หลวี่หนิงก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน
เมื่อทั้งสองได้ฟังที่ชูเซี่ยพูด ต่างเห็นด้วยกับชูเซี่ยเป็นอย่างมาก
จูเก๋อหมิงถอนหายใจเบาๆ “ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางช่วยหมอหลวงหลันได้แล้วล่ะ ยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมมอบตัวคนร้าย ยังไงเสียหมอหลวงหลันก็ต้องกลายเป็นแพะรับบาป”
หลวี่หนิงก็พูดอย่างขมขื่น “นั่นแหละ คดีนี้ฝ่าบาทก็ทรงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับฮองไทเฮา ทุกภาคส่วนกำลังจับตามองอยู่ ตอนนี้คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือหมอหลวงหลัน หากหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เขาไม่ได้ ยังไงก็ไม่รอด”
ชูเซี่ยรู้สึกตนเองล้มเหลวมาก “ข้ารู้อยู่เต็มอกว่าเขาถูกกล่าวหา แต่กลับไม่สามารถช่วยเขาได้”
“หมอชูเจ้าอย่าโทษตัวเองไปเลย ตอนนี้คดีนี้ได้ส่งไปให้กรมอาญาดำเนินคดี และรัฐมนตรีของกรมอาญาในตอนนี้คือหลี่ซี่”
ชูเซี่ยพูดว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนหลี่ซี่เคยประจำการอยู่กรมทหาร ทำไมถูกย้ายไปกรมอาญาล่ะ”
“หลี่ซี่จะสู้กับพลังอำนาจทหารได้อย่างไร ดังนั้นจึงได้มีการขอย้าย”
ชูเซี่ยจำได้ว่าหลี่ซี่เคยจีบฉ่ายเวิน ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับการตายของฉ่ายเวิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...