ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 246

ตอนที่ 246 แย่งอำนาจ

ชูเซี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันพูดกับหลวี่หนิงว่า “ข้าจะศึกษายาแก้พิษกับจูเก๋อที่นี่ หลวี่หนิง เจ้ากับเชียนซานไปที่หลุมฝังศพของฉ่ายเวิน”

หลวี่หนิงตอบเรียบๆ “ข้าไปคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องพาเชียนซานไปด้วย”

ชูเซี่ยขมวดคิ้ว “ตอนนี้มีเรื่องมากมาย พวกเจ้าเลิกทะเลาะกันเถอะ ได้ไหม”

หลวี่หนิงยิ้มขื่นๆ “ข้าไม่ได้ทะเลาะ หล่อนต่างหากล่ะ”

จูเก๋อหมิงหัวเราะ “ถูกต้อง พวกเขามาที่นี่เพื่อระบายให้ข้าฟัง การฟังเรื่องของพวกเขา ทำเอาหูของข้าชาไปหมด”

ชูเซี่ยพูดว่า “เจ้าได้คุยดีๆ กับเชียนซานหรือยัง รู้หรือเปล่าว่าปัญหาหลักคืออะไร”

หลวี่หนิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คุยยังไงล่ะ ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ หล่อนก็มักอารมณ์เสีย ตอบมาแค่คำเดียวว่า ให้เลื่อนเวลาออกไป แล้วจะเลื่อนไปถึงเมื่อไหร่ หล่อนก็ไม่บอก แต่ว่า ในเมื่อหล่อนตกลงจะแต่งงานกับข้าแล้ว ทำไมต้องเลื่อนเวลาออกไปอีกล่ะ พวกเราอายุไม่น้อยกันแล้วนะ”

“ข้าแนะนำให้เจ้าไปคุยกับเชียนซานดีๆ หาปัญหาหลักของเรื่องให้เจอ” หล่อนเข้าใจเชียนซานดี เชียนซานก็แค่คิดว่า ถ้าแต่งงานกันแล้ว รูปแบบการใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไป ความจริงแล้วเชียนซานเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกปลอดภัย หล่อนกลัวการเปลี่ยนแปลง และกลัวผลจากการเปลี่ยนแปลงด้วย

แต่คำพูดเหล่านี้ ต้องให้เชียนซานเป็นคนพูดกับหลวี่หนิงฟังเอง หล่อนไม่ใช่เชียนซาน ไม่สามารถพูดความกังวลในใจเชียนซานออกมาได้หรอก

นอกจากนี้ มีปัญหามากมายที่เกิดขึ้นก่อนแต่งงาน หากไม่รีบแก้ ปัญหาเหล่านี้จะยังอยู่จนถึงหลังแต่งงาน ถึงตอนนั้น ก็จะกลายเป็นเรื่องระหว่างครอบครัวสองครอบครัว

หลวี่หนิงโบกมือ “ช่างมันเถอะ ทำธุระสำคัญก่อนเถอะ ข้าจะไปที่หลุมฝังศพ พวกท่านศึกษายากแก้พิษเถอะ”

พูดจบพลันเดินออกไป

หลักจากที่หลวี่หนิงออกไปแล้ว ชูเซี่ยเอาขวดขนาดเล็กที่เหลียงกวางเสียงให้หล่อนออกมาและเปิดออก พลันพูดกับจูเก๋อหมิงว่า “เจ้าลองดมดูสิ”

จูเก๋อหมิงยื่นหน้าไปดม สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “กลิ่นนี้ช่างคุ้นเหลือเกิน”

ชูเซี่ยพูดเรียบๆ “คุ้นหรือ ข้าก็รู้สึกคุ้นเหมือนกัน”

หล่อนเทหนอนพิษในขวดออกมา จากนั้นเอาขวดพอร์ซเลนขนาดเล็กออกมาอีกขวด แล้วก็เทหนอนพิษบางส่วนออกมาเหมือนกัน เมื่อหนอนพิษสองประเภทอยู่ด้วยกัน สามารถมองเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

หนอนพิษที่เหลียงกวางเสียงพกมาด้วยตายไปค่อนครึ่งหนึ่ง ส่วนที่ยังไม่ตาย ก็ไม่ขยับอะไร แต่ที่ชูเซี่ยเทออกมาจากขวดพอร์ซเลนนั้น กลับมีชีวิตชีวาอย่างมาก อ้วนกว่าตอนชูเซี่ยเพาะใหม่ๆ เสียอีก

“ยาประเภทนี้ สามารถฆ่าหนอนพิษให้ตายได้” จูเก๋อหมิงกล่าว

“ใช่”

จูเก๋อหมิงดมกลิ่นของขวดสองสามที กลิ่นยาฉุนมาก แต่กลิ่นไม่เลวร้ายเท่าไหร่ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

“เจ้าแน่ใจรึว่าหนอนพิษตายเพราะกลิ่นหอมนี้” จูเก๋อหมิงถามขึ้น “หรือตอนที่เขาส่งมา มันก็เป็นแบบนี้แล้ว หรือเกิดจากยาตัวอื่น”

ชูเซี่ยพูดว่า “เพราะฉะนั้น ข้าจะใส่หนอนพิษเป็นๆ เหล่านี้เข้าไปในขวดนี้ แล้วมารอดูผลกัน”

จูเก๋อหมิงเอาคีมออกมา “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเสียเวลาเลย รีบลงมือกันเถอะ เจ้าคิดว่าต้องใส่เข้าไปในขวดนานแค่ไหนจึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง หากกลิ่นหอมนั้นมีผลจริง”

ชูเซี่ยพูดว่า “ใช้เวลาไม่นานนัก ข้าเคยทำการทดลองหลายครั้งแล้ว พบว่าหนอนพิษนั้นหากไม่มีเลือดสดเนื้อสดจะไม่สามารถอยู่รอดได้เป็นเวลานาน ดังนั้นเชื่อว่าประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็น่าจะเห็นผล”

ทั้งสองใส่หนอนพิษลงไป พลันปิดฝาขวด

“กลิ่นหอมเหล่านี้ เจ้าเคยได้จากที่ไหน” ชูเซี่ยถาม

จูเก๋อหมิงมองไปที่ชูเซี่ย “เจ้าก็คงมีคำตอบในใจแหละ ใช่หรือไม่”

“ฉ่ายเวิน มักพกถุงหอมติดตัว กลิ่นถุงหอมนั้นคล้ายๆ กับกลิ่นเหล่านี้” ชูเซี่ยกล่าว

“ถูกต้อง กลิ่นมักจะนำมาซึ่งความทรงจำที่ลึกซึ้ง กลิ่นของถุงหอมนั้นถึงวันนี้ก็ไม่อาจลืมได้ เพราะกลิ่นมีเอกลักษณ์มาก”

“ที่กลิ่นนี้สามารถเก็บไว้ในขวดได้นานขนาดนี้ เชื่อว่าขวดนี้ได้เคยใส่เครื่องหอมประเภทนี้มาเป็นเวลานานพอสมควร เราสามารถเริ่มลงมือจากตัวกลิ่นได้ ดูเหมือนว่า เราต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหอมมาช่วยแล้วล่ะ”

จูเก๋อหมิงผงกหัว “เจ้าพูดถูก แต่ว่า ทำไมเราไม่ถามเฉินเย่นก่อนล่ะ เขาค่อนข้างสนิทกับฉ่ายเวิน ส่วนประกอบในเครื่องหอมของฉ่ายเวิน บางทีเขาอาจรู้ก็ได้ แม้จะไม่รู้ทั้งหมด รู้แค่อย่างสองอย่าง ก็ช่วยได้มากแล้ว”

ชูเซี่ยกล่าว “ดีเลย เรารอให้ผลออกก่อนแล้วเข้าวังกัน”

จูเก๋อหมิงยืดเส้นยืดสาย พลันมองหล่อน “กินอะไรหรือยัง”

“กินแล้ว กินมันเทศไปสองสามลูก เจ๊ข้างบ้านให้มาน่ะ”

จูเก๋อหมิงส่ายหน้า “ดูเจ้าสิ กินอะไรที่มีประโยชน์ไม่เป็นรึ ดูเจ้าผอมอย่างกับอะไร”

“ที่ข้ากินก็มีประโยชน์นะ ธัญพืชเมล็ดโตดีต่อร่างกาย เจ้าเป็นหมอ ทำไมไม่รู้” ชูเซี่ยพูดพลันยิ้ม

“กินเป็นครั้งคราวน่ะได้ แต่เจ้างานยุ่งเกินไป เจ้ากลับเมืองหลวงมาก็นานพอสมควรแล้ว ไม่เคยออกไปเดินดูการเปลี่ยนแปลงในตอนนี้รึ เจ้าน่ะ ควรออกไปดูอะไรๆ หน่อย ห้าปีมานี้ เมืองหลวงเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว”

“อื้ม” ชูเซี่ยรู้สึกว่าเขาต้องการสื่ออะไรนอกเหนือจากนี้

จูเก๋อหมิงยิ้มอ่อนๆ แต่แววตากลับเศร้าหมอง “ชูเซี่ย อีกฝ่ายกำลังรอเจ้ากลับไปสานต่อกับเฉินเย่น ถ้าเป็นอย่างนั้น วี่สื่อต้าฟูต้องเข้ามาแทรกแซงแน่นอน ทำไมเจ้าไม่เริ่มก่อนล่ะ แทนที่จะรอให้พวกเขาวางแผนทุกอย่างสำเร็จ สู้ยึดอำนาจเองไม่ดีกว่ารึ”

ชูเซี่ยก็ยังไม่ค่อยเขาใจ “ยึดอำนาจยังไงรึ”

จูเก๋อหมิงพูดเบาๆ ว่า “เหตุผลที่พวกเขาให้เจ้ากลับมา คือการกลับไปสานต่อกับเชียน รอจับผิดเขา ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าออกไปเดินเล่นกันสักรอบเลย ประกาศให้พวกเขารู้ ว่าความสัมพันธ์ในตอนนี้ของพวกเจ้ายังดีเหมือนเดิม”

ชูเซี่ยยังตามไม่ค่อยทัน “แล้วยังไงล่ะ ประกาศให้พวกเขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกข้าดีเยี่ยม ดีต่อพวกข้าอย่างไร หากเหลียงกุยพวกเขารู้ว่าข้าออกไปเดินเล่นกับเฉินเย่น เป็นต้องจู่โจมแน่”

“จู่โจมรึ จู่โจมอย่างไร พวกเจ้าไปด้วยกันอย่างเปิดเผย ไม่ได้แอบนัดเจอกัน แถมพวกเจ้าก็เป็นพ่อแม่ของสองแฝดนั่น นอกจากความรักและเรื่องอย่างว่าแล้วทำอย่างอื่นไม่ได้เลยรึ เปิดเผยความสัมพันธ์นี้ ต่อไปจะทำอะไรก็ไม่ถึงกับต้องหลบๆ ซ่อนๆ แล้ว”

ชูเซี่ยเข้าใจแล้ว “เจ้าหมายความว่าให้พวกข้าสองคนเปิดเผยไปเลย กับความสัมพันธ์แบบเพื่อน หรือไม่ก็แบบญาติ”

“ใช่ เจ้าเป็นแม่ของสองแฝด เขาก็เป็นพ่อของสองแฝด ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหมองใจกัน และไม่มีความคั่งแค้นกันใดๆ ทำไมจะไปมาหาสู่กันไม่ได้ พูดอีกมุมหนึ่งก็คือ พวกเขามักจะบอกว่าเจ้าเป็นหวงกุ้ยเฟยของปฐมกษัตริย์ ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็คือหวงกุ้ยท่ายเฟย ฝ่าบาทไม่สามารถคบหากับท่ายเฟยนางในเลยรึ”

“มันไม่เป็นการไร้เหตุผลเกินไปรึ ท่ายเฟยนางในไม่น่าจะไปไหนมาไหนกับฝ่าบาท”

จูเก๋อหมิงกล่าวว่า “ข้าต้องการให้เหลียงกุยพวกเขาจู่โจมก่อนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จากนั้น พวกเราก็จะสามารถพลิกกระดานได้ เพราะว่าพวกเจ้าไม่ต้องการกลับไปสานต่ออยู่แล้ว แค่คิดก็ยังไม่เคย พวกเรายังสามารถตำหนิได้ว่าพวกเขาความคิดสกปรก แล้วให้คนของไทฮองไทเฮามา เพื่อปิดปากของพวกเขา”

ชูเซี่ยรู้สึกว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ดี แต่ก็สามารถยึดอำนาจได้จริง

นอกจากนี้ เฉินเย่นก็ได้เปิดเผยสถานะของสองแฝดแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าสถานะความเป็นแม่ของสองแฝดของหล่อนนั้นสักวันก็ต้องมีคนรู้ พวกเขาควรจะประกาศให้ทุกคนรับรู้ ไม่ใช่หลบๆซ่อนๆไปตลอดแบบนี้

เมื่อเจ้าเริ่มทำการหลบๆซ่อนๆ คนอื่นอาจเฝ้ามองเจ้าอยู่อย่างนั้น หากมีการแตะเนื้อต้องตัวกันเพียงเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นข่าวเฉาของมวลชนทันที

แต่ถ้าเปิดเผยแต่แรก จริงบ้างเท็จบ้าง อาจทำให้พวกเขาเดาทางไม่ออก จับต้นชนปลายไม่ถูก และพลันไม่รู้ว่าควรลงมือจากตรงไหน

เมื่อทุกคนต่างใช้เหตุผลในการคุยกัน เจ้าก็สามารถใช้เหตุผลได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายไร้เหตุผล เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล ถึงเวลาที่ต้องใช้มิจฉาธรรมรับมือแล้วล่ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า