อ่านสรุป ตอนที่ 249 ปากหวานก้นเปรี้ยว จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
บทที่ ตอนที่ 249 ปากหวานก้นเปรี้ยว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 249 ปากหวานก้นเปรี้ยว
หลี่อวิ่นกังกลับพูดว่า “หากผู้ชายไม่มีความสามารถ หวังพึ่งแต่ที่บ้าน จะยืนได้นานแค่ไหนกัน”
จูฟางหยวนพลันรู้สึกนับถือ “ท่านอ๋องช่างเป็นผู้มองการณ์ไกลเสียจริง”
อานเหยียนได้ยินว่าท่านพ่อทรงอนุญาต บอกไม่ได้เลยว่าดีใจแค่ไหน แก้มแดงไปหมด ราวกับว่าได้สมบัติยังไงอย่างงั้น
ชูเซี่ยและหลี่เฉินเย่นสบตากัน พลันพร้อมใจกันหัวเราะ
การที่ความรู้สึกของทั้งสองเป็นไปในทางเดียวกัน ช่างดีเหลือเกิน
ทริปครอบครัวนี้ ทำให้หลียงกุยและจางเซียนฮุยสนใจได้จริงๆ ด้วย
หลังจากสิ้นสุดการอภิปรายทางการเมือง เหลียงกุยพูดขึ้นในท้องพระโรงว่า “ฝ่าบาท ข้าน้อยมีเรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควรพูด”
หลี่เฉินเย่นมองเขาหนึ่งที “ในเมื่อวี่สื่อต้าฟูก็ไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควรพูด ก็กลับไปใคร่ครวญเสียก่อนเถอะ”
ในที่สุดก็มาถึง
เหลียงกุยคุกเข่าลง “ในโอกาสที่ทุกคนอยู่ที่นี่กันพร้อมหน้า ข้าน้อยใคร่ถามฝ่าบาทว่า ปฐมกษัตริย์เคยทรงแต่งตั้งให้ชูเซี่ยเป็นหวงกุ้ยเฟยหรือไม่”
ซ๋งเฉินเย่นผงกหัวด้วยสีหน้าเฉยเมย “เจ้าต้องการพูดอะไร”
เหลียงกุยเงยหน้า “ข้าน้อยต้องการให้ฝ่าบาททรงตอบว่า หวงกุ้ยเฟย ยังคงเป็นหวงกุ้ยเฟยอยู่หรือไม่”
“ตอบรึ” หลี่เฉินเย่นพูดเรียบๆ “คำตอบอะไรกัน ใครเป็นผู้แต่งตั้งหวงกุ้ยเฟย เจ้าไปถามคนนั้นเถอะ ถามข้าทำไมกัน ข้าไม่รู้จักหวงกุ้ยเฟยอะไรนั่นหรอก ข้ารู้จักแต่ชูเซี่ย”
“ชูเซี่ยก็คือหวงกุ้ยเฟย ปฐมกษัตริย์ทรงเป็นผู้แต่งตั้ง” เหลียงกุยกล่าว
“ถ้าอย่างนั้น หลายปีมานี้ หวงกุยเฟยอยู่ไกลบ้านไกลเมือง ทำไมไม่เห็นท่านเหลียงขุนนางใหญ่ของปฐมกษัตริย์ไปตามหาและดูแลล่ะ”
“ข้าน้อยไม่ทรงทราบว่าหวงกุ้ยเฟยอยู่ที่ใด ไม่อย่างนั้นตามกลับมานานแล้ว” เหลียงกุยอธิบาย
“แต่ว่า เหมือนว่าท่านเหลียงก็ไม่เคยออกตามหานะ” เซียวเซียงกล่าว
เหลียงกุยสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “เรื่องที่ข้าน้อยพูดในวันนี้ ไม่ได้พูดถึงเรื่องออกตามหาหรือไม่ตามหาหวงกุ้ยเฟย แต่ต้องการบอกว่าชูเซี่ยเป็นหวงกุ้ยเฟย ฝ่าบาทไม่ควรไปไหนมาไหนกับหล่อน ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ควรไปเดินเล่นกับหล่อนบนถนน หากคนทั่วไปเห็นเข้า จะทรงแก้ตัวอย่างไรล่ะ”
“ข้ารู้เพียงว่า ชูเซี่ยเป็นแม่ของลูกข้า” หลี่เฉินเย่นกล่าว
เหลียงกุยคิดไม่ถึงว่าฝ่าบาทจะทรงตรงไปตรงมาแบบนี้ ชูเซี่ยเป็นหวงกุ้ยเฟยของปฐมกษัตริย์ และเป็นแม่ของลูกเขา แล้ว แล้วมันยังไง ถึงจะทรงรู้ดี ก็ไม่ควรพูดออกมา
คิดมาตลอดว่าหลี่เฉินเย่นจะปิดบังเรื่องนี้ การพูดอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ กลับทำให้เขาไม่รู้จะตอบกลับอย่างไรดี
“แต่ว่า ชูเซี่ยเป็นหวงกุ้ยเฟย นี่เป็นเรื่องจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” เหลียงกุยกล่าว
เหลียงกุยเป็นคนที่ไม่ชอบจางซือคงที่สุดมาแต่ไหนแต่ไร เขาพูดจาค่อนข้างหยาบกร้าน ตอนนั้นจางซือคงเป็นคนแรกที่คัดค้านชูเซี่ย ตอนหลังชูเซี่ยกลับทำให้เขากลายเป็นพวกเดียวกันได้ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นดาบเล่มหนึ่งของชูเซี่ย ยากที่จะจัดการอยู่เหมือนกัน
“สถานภาพขององค์ชายและองค์หญิง ไม่มีใครกล้าสงสัยหรอก ข้าหมายความว่าฝ่าบาทไม่ควรไปไหนมาไหนกับหวงกุ้ยเฟยเพียงลำพัง เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบทางลบ” เหลียงกุยกล่าว
“ผลกระทบทางลบอะไรกัน” จางซือคงสวน “พวกคนไม่รู้จักยืดหยุ่น แม้ว่าชูเซี่ยจะเป็นหวงกุ้ยเฟย ฝ่าบาทก็ทรงพบหล่อนไม่ได้งั้นรึ ใช่ว่าไปกันแค่สองคน ใช่ว่าอยู่กันเพียงลำพัง มีผู้คนอยู่ด้วยมากมาย หากฝ่าบาททรงไปกับหรงกุ้ยท่ายเฟย พวกเจ้าจะมีประเด็นให้พูดมากมายขนาดนี้ไหม”
“นั่นมันไม่เหมือนกัน” เหลียงกุยพูดอย่างไม่พอใจนัก “หรงกุ้ยท่ายเฟยและหวงกุ้ยเฟยมันเทียบกันไม่ได้หรอก”
“ทำไมถึงเทียบกันไม่ได้ล่ะ เพราะชูเซี่ยเป็นแม่ของสองแฝดงั้นรึ เพราะชูเซี่ยเคยเป็นคนที่ฝ่าบาททรงชอบงั้นรึ ท่านเหลียง ก่อนหน้านี้พวกเจ้าก็รู้ดี ปฐมกษัตริย์ต่างหากที่แย่งพระอัครชายาไปจากฝ่าบาท ซึ่งเป็นความผิดของปฐมกษัตริย์ ปฐมกษัตริย์ก่อนจะสิ้นพระชนม์ก็ทรงสำนึกผิดแล้ว ได้ประกาศให้ทุกคนทราบจากใจจริง แต่พวกเจ้าล่ะ กลับไม่ยอมให้ท่านแก้ไขข้อผิดพลาด พวกเจ้ากำลังตบหน้าปฐมกษัตริย์ใช่ไหมล่ะ”
เหลียงกุยโมโห “ท่านจาง เจ้าช่างกล้านัก ช่างกล้าที่จะกล่าวหาปฐมกษัตริย์”
“อะไรคือการกล่าวหา ตอนที่ปฐมกษัตริย์ยังทรงมีชีวิตอยู่ ข้ากับท่านมักจะระบายความในใจกัน ท่านก็ทรงรู้ว่าตนเองทำผิด หากพวกเจ้าไม่เชื่อ สามารถจุดธูปอันเชิญท่านมาถามได้” จางซือคงกล่าว
เหลียงกุยโกรธจนตัวสั่น “เจ้าพูดแต่เรื่องไร้สาระ จุดธูปอันเชิญปฐมกษัตริย์อย่างไรรึ ไร้สาระสิ้นดี เจ้าบอกว่าท่านปฐมกษัตริย์มีใจสำนึก มันก็เป็นได้เพียงลมปากเจ้าเท่านั้น เพราะไม่มีหลักฐานและพระราชโองการ”
จางซือคงพูดอย่างภาคภูมิใจ “หากท่านเหลียงไม่เชื่อที่ข้าพูด ถ้าอย่างนั้นหากฮองไทเฮาเป็นคนพูดเจ้าคงจะเชื่อนะ ไปพระตำหนักฮองไทเฮาไหมล่ะ ให้ฮองไทเฮาเป็นคนพูด ”
“ท่านจาง เจ้าอย่าก่อกวนปั่นป่วน ดึงฮองไทเฮาเข้ามาข้องเกี่ยวด้วย ตอนนี้ฮองไทเฮาทรงประชวน ไม่ว่าอย่างไร ในฐานะขุนนางขอเพียงพระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง จะไปรบกวนท่านได้อย่างไรกัน”
“นั่นน่ะสิ ฮองไทเฮาในตอนนี้แค่มีพระราชนัดดาก็ทรงพอพระทัยยิ่ง หากท่านเหลียงไปพูดกับท่านว่า ขออภัยขอรับ พระราชนัดดาของท่านไม่ถูกกฎหมาย ดูว่าฮองไทเฮาจะทรงว่าอย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...