สรุปเนื้อหา ตอนที่ 254 ร่างกายผิดปกติ – ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
บท ตอนที่ 254 ร่างกายผิดปกติ ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 254 ร่างกายผิดปกติ
"ติดหนี้?" ชูเซี่ยครุ่นคิดคำสองคำนี้อย่างถี่ถ้วน หลี่ซี่ติดหนี้อะไร
"ได้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของหลี่ซี่หรือยัง อย่างเช่นเขาเล่นพนันหรือไม่"ชูเซี่ยถามว่านเฉียง
ว่านเฉียงตอบว่า "ตรวจสอบแล้ว แต่ใต้เท้าหลี่ไม่มีพฤติกรรมเลวทรามเช่นนั้น รายรับของเขาก็คงที่มากเช่นกัน ในจวนมีคลังยุ้งฉางของบ้านเมือง เขาเองก็มีเงินเดือนเป็นของตัวเอง ใช้ชีวิตมั่งมีเพรียบพร้อมทุกสิ่งอย่าง"
ชูเซี่ยครุ่นคิดสักพัก "หรือว่าหนี้ที่ติดจะไม่ใช่เงิน"
เชียนซานเบิกตากว้าง "คงไม่ใช่หนี้รักกระมัง เขาติดหนี้ใครกัน ก่อนหน้านี้เขาชอบฉ่ายเวิน แต่ฉ่ายเวินมักจะหลอกใช้เขาอยู่เสมอ ทำให้เขาผิดหวัง หากจะคิดบัญชีจริง ๆ ตามปกติแล้วเป็นฉ่ายเวินต่างหากที่ติดหนี้รักเขา"
ว่านเฉียงพูดขึ้นว่า "แต่ฉ่ายเวินตายไปแล้วนี่"
ชูเซี่ยเองก็รู้สึกว่าเข้าใจได้ยาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่เห็นหลี่ซี่ทำท่าหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บ่อย ๆ ที่แท้ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเขานี่เอง
ชูเซี่ยถามว่านเฉียงว่า "เรื่องนี้ยังต้องสืบตามต่อหรือไม่"
ว่านเฉียงส่ายหน้า "ไม่แล้วเจ้าค่ะ กลุ่มอ้านทั่นตามสืบมาสองเดือนแล้วก็ยังไม่ได้อะไร ดังนั้นจึงไม่ได้สืบต่อ"
ชูเซี่ยพูดว่า "เจ้าสั่งให้กลุ่มอ้านทั่นสืบต่อไป ต้องสืบจนกว่าความจริงจะปรากฏ"
"รับทราบ!" ว่านเฉียงรับคำสั่งแล้วไปจัดการทันที
หลังจากที่ว่านเฉียงไปแล้วเฉินเย่นซานก็ถามชูเซี่ย "เจ้านายมีความเห็นว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ"
ชูเซี่ยนึกสักพัก ต่อมาก็ส่ายหน้า "ข้าก็ยังไม่แน่ใจ ต้องรอหลังจากสืบก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที"
เชียนซานถอนหายใจเบา ๆ "หรือว่า...หลี่ซี่จะยังลืมฉ่ายเวินไม่ลงจริง ๆ เป็นฉ่ายเวินที่เอาตัวเด็กไปอย่างนั้นหรือ แต่เรื่องยืมศพคืนชีพที่เกิดขึ้นกับเจ้านาย ข้าก็รับได้ แต่ถ้าเกิดกับคนโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างฉ่ายเวินนี่รับไม่ได้เลยจริง ๆ คนแบบนี้ที่ฆ่าบิดาฆ่าศิษย์พี่หญิงควรจะลงนรกขุมที่สิบแปดเสียด้วยซ้ำ"
ชูเซี่ยเอียงศีรษะเล็กน้อย ไม่ส่งเสียงอะไร คงต้องสืบไปทีละขั้นทีละตอน เพราะความจริงยังไม่เปิดเผย และกลับยิ่งอึมครึมด้วยซ้ำไป
ตอนนี้แม้แต่ศัตรูที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาเป็นใครก็ยังไม่แน่ใจ ได้เพียงแต่คาดเดาว่าเป็นหลี่อวิ๋นหลี่ก็เท่านั้น
หากเป็นหลี่อวี๋นหลี่จริง ๆ ตอนนี้เขายังไม่ปรากฏตัวออกมาก็ทำให้พวกเขาหัวร้างข้างแตกแล้ว เขาต้องหวนกลับคืนมาแน่ และไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี
ตอนนี้ชูเซี่ยรู้สึกได้ถึงมันจริง ๆ คลื่นที่ไร้ความสงบ และจะก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง
ตอนที่ชูเซี่ยเตรียมจะเข้านอนจูเก๋อหมิงก็มาหา
"วันนั้นหลังจากที่เจ้าไปแล้ว ข้าก็ทำการทดสอบติดกันอยู่หลายครั้งจนเกือบจะมั่นใจแล้วว่ากลิ่นแบบนี้ก็คือยาถอนพิษที่ใช้ระงับพิษกู่"จูเก๋อหมิงพูด
ชูเซี่ยพยักหน้า "วันนั้นก็มั่นใจได้แล้ว แต่เพื่อยืนยันให้แน่ใจ ทดสอบหลาย ๆ ครั้งก็ดีเหมือนกัน"
ชูเซี่ยเงยหน้ามองจูเก็อหมิง "เสียงเจ้าเป็นอะไรไป"
จูเก๋อหมิงเอามือถูจมูกไปมา "เจ็บคอน่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมาก"
"รักษาสุขภาพหน่อยสิ แล้วหาส่วนผสมของถุงหอมเจอรึยัง" ชูเซี่ยถาม
"ข้าคุยกับเฉินเย่นสองครั้งแล้ว เขายังหาส่วนผสมของถุงหอมไม่เจอ" จูเก๋อหมิงอดไม่ได้ที่จะผิดหวังนิด ๆ “เดิมทีคิดว่าเขาจะจำได้ อันที่จริงเขาเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับฉ่ายเวินมาหลายปี เมื่อก่อนฉ่ายเวินมีอะไรก็พูดกับเขาทุกเรื่อง ข้าจำได้ว่ามีครั้งนึงที่นางทำขนมเฉินเย่นบอกว่าอร่อยมาก นางก็เอาใจเฉินเย่นด้วยการบอกว่าทำขนมของนางอย่างไร ใส่วัตถุดิบอะไรลงไปบ้าง เดิมทีก็คิดว่านางจะบอกเรื่องส่วนผสมของถุงหอมกับเฉินเย่นเสียอีก”
ชูเซี่ยพูดขึ้นว่า “หรือไม่ก็พูดไปแล้ว แต่เฉินเย่นกับพวกเราไม่เหมือนกัน เขาไม่ใช่หมอ ไม่ได้มีความรู้สึกไวต่อยากับพวกเครื่องหอมก็เลยไม่จำเป็นต้องจำได้”
“อืม ข้าเองก็เคยหาไปให้อาจารย์ที่ทำเครื่องหอมดมดูเหมือนกัน หลังจากที่ดมแล้วก็เขียนมาให้หลายชนิด แต่ก็ไม่ทั้งหมด” จูเก๋อหมิงยื่นกระดาษหนึ่งแผ่นให้ชูเซี่ย
“กานพลู ไป่เหอ การบูร สะระแหน่...” ชูเซี่ยอ่าน “มีกลิ่นการบูรไหม ทำไมข้าถึงไม่ได้กลิ่นเลย กลิ่นการบูรจะฉุนมาก จะว่าไปข้าควรจะได้กลิ่นมันด้วยซ้ำ”
“ที่จริงข้าก็ไม่ได้กลิ่นเหมือนกัน งั้นก็บอกได้เลยว่ากลิ่นการบูรนั้นเบามาก ๆ ควรจะเพิ่มอีกหน่อย หรือไม่ก็ถูกกลิ่นอื่นกลบเอาไว้ เจ้าดูสิ ด้านหลังยังเขียนว่ากลิ่นชะมด กลิ่นชะมดฉุนขนาดนี้จะกลบกลิ่นการบูรก็เป็นเรื่องปกติ”
“เป็นไงบ้าง?” จูเก๋อหมิงเห็นท่าทีของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อยก็รีบถามทันที
ชูเซี่ยบอกว่า “ข้าไม่ได้กลิ่นอะไรเลย”
จูเก๋อหมิงถามด้วยความตกใจ “ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย? นี่มันอะไรกัน เมื่อครู่นี้เจ้ายังบอกว่าได้กลิ่นกานพลูกับไป่เหออยู่เลยนี่”
เชียนซานที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ นางหยิบถุงหอมของตนเองมาแกะแล้วส่งให้ชูเซี่ย “ท่านลองดมกลิ่นถุงหมอของข้าดู”
ชูเซี่ยสูดเข้าไปลึกแล้วเงยหน้าขึ้น สีหน้าซีดลงเล็กน้อย “ไม่ได้กลิ่น”
เชียนซานหยิบถุงหอมมาดมสักพัก “นี่ยังหอมไม่พออีกหรือ ยังหอมอยู่มากเลยนะเจ้าคะ”
จูเก๋อหมิงก็หยิบถุงหอมมาดมเช่นกัน จากนั้นก็ค่อย ๆ วางลง “ชูเซี่ย ตกลงมีปัญหาอะไรกันแน่ หรือว่าเจ้าไม่สบายตรงไหนกัน”
ชูเซี่ยส่ายหน้า “ไม่มีหรอก ข้าไม่รู้สึกผิดปกติตรงไหนด้วยซ้ำ”
แต่เมื่อครู่นี้ยังได้กลิ่นอยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่ได้กลิ่นแล้ว นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว
จูเก๋อหมิงมองนาง “ยื่นมือมา ข้าจะตรวจชีพจรให้เจ้า”
ชูเซี่ยยกมือขึ้นวางบนโต๊ะ จากนั้นจูเก๋อหมิงก็ตรวจชีพจรให้นาง
“ไม่เป็นไรนี่ ชีพจรปกติดี ไม่มีอะไรแปลกไป ทำไมถึงไม่ได้กลิ่นล่ะ หรือว่าคัดจมูกหรือ” จูเก๋อหมิงถาม
ชูเซี่ยสูดหายใจเข้าทางจมูก ทว่าก็ไม่มีอะไรอุดตัน ตัวนางเองรู้สึกว่าจมูกโล่งเสียด้วยซ้ำ
แต่แน่นอนว่าตอนนี้จมูกนางไม่รับรู้ถึงกลิ่นใดทั้งสิ้น กลิ่นยาที่มีอยู่ภายในห้องนี้แต่เดิมที ตอนนี้ก็ไม่ได้กลิ่นมันแล้ว
เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ นางไม่รู้ว่ามีปัญหาที่ตรงจุดไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...