ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 255

ตอนที่ 255 เครื่องเทศจริงและปลอม

เมื่อเห็นแววตากังวลของเฉินเย่นซานกับจูเก๋อหมิง นางก็ยิ้ม “จมูกข้าค่อนข้างคัดน่ะ ช่วงนี้เหนื่อยมากไปหน่อย”

จูเก๋อหมิงกล่าวพลางขมวดคิ้ว “งั้นเจ้าก็พักผ่อนให้เยอะหน่อย อย่าเพิ่งวิ่งวุ่นเลย”

“อืม วางใจเถอะ คืนนี้ข้านอนพักเสียหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว” ชูเซี่ยตอบรับคำ

จูเก๋อหมิงเก็บของทันที “งั้นก็ดี เจ้ารีบพักผ่อนเถอะ ข้าไปล่ะ”

หลัลงจากส่งจูเก๋อหมิงหลับไปแล้ว ชูเซี่ยก็หยิบกระปุกขึ้นมาและสูดดมไปมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรอยู่ดี

นางยื่นให้เฉินเย่นซาน “เจ้าลองดมดู ดูสิว่าได้กลิ่นอะไรบ้างไหม”

เชียนซานรับมาแล้วลองดมดู “มีกลิ่นเล็กน้อย แต่ก็บอกไม่ถูกว่าแปลกอย่างไร หอม ๆ แต่ก็เหม็น ๆ”

“ที่เหม็นน่าจะเป็นกลิ่นการบูร ส่วนอันที่หอมอาจจะเป็นชะมด” ชูเซี่ยพูดอย่างเคร่งเครียดเฉินเย่นซานได้กลิ่น แต่นางกลับไม่ได้กลิ่น

รวมถึง กลิ่นที่นางได้กลิ่นในตอนแรกก็ล้วนแต่ไม่ได้กลิ่นแล้ว

มันเป็นเรื่องที่อยู่ ๆ ก็เกิดขึ้นกะทันหัน

นางรวบรวมลมปราณ รู้สึกว่าลมปราณตรงจุดตันเถียนไม่ได้รับความเสียหาย ถ้าอย่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เชียนซานมองนางพลางถามด้วยความกังวล “ท่านคัดจมูกจริง ๆ หรือเจ้าคะ”

ชูเซี่ยืฝืนยิ้ม “ใช่ จมูกคัดน่ะ”

“มีปัญหาใช่หรือเปล่าเจ้าคะ ข้ารู้สึกว่าท่านมีอะไรแปลก ๆ ไป”เฉินเย่นซานพูด

ชูเซี่ยส่ายหน้า “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ข้ากลับไปต้อมยากินเองก็ได้แล้ว”

“เจ้าจะต้อมยาอะไรเจ้าคะ เดี๋ยวข้าต้มให้”เฉินเย่นซานว่า

ชูเซี่ยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องต้มยาอะไร แม้แต่ตัวนางเองก็เป็นอะไรก็ยังไม่รู้เลย

แต่เพื่อไม่ให้เฉินเย่นซานเป็นห่วง นางจึงหยิบยาแบบส่ง ๆ ให้เฉินเย่นซาน “ต้มครึ่งชั่วยามก็พอ” “เจ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”เฉินเย่นซานรับยามา ทันใดนั้นร่างกายก็โอนเอนไปมา นางยืนให้มั่นแล้วส่ายหัว “มึนนิด ๆ แฮะ”

“เป็นอะไรไป เจ้าไม่เป็นไรนะ?” ชูเซี่ยเข้าไปประคองนาง จากนั้นก็เห็นว่าสีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นซีดอย่างมาก

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ก็แค่อยู่ ๆ ก็มึนหัวชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว”เฉินเย่นซานสะบัดหัวชั่วขณะ “แปลกจริง ๆ ช่วงนี้ข้าก็กินดีกว่าปกตินี่”

ชูเซี่ยพูดขึ้นว่า “เป็นเพราะกังวลเรื่องแต่งงานกระมัง ไม่ต้องคิดแล้ว ไปคุยกับหลวี่หนิงดี ๆ เถอะ”

“ช่างเถอะเจ้าค่ะ ตอนนี้เขาตัดสินใจจะยกเลิกงานแต่งแล้ว” ท่าทีของเฉินเย่นซานดูเศร้าเล็กน้อย

“ยกเลิกเลิก? ไม่ใช่เลื่อนหรือ” ชูเซี่ยอึ้งไปชั่วครู่

ดวงตาของเฉินเย่นซานค่อนข้างหมองหม่น “เขาคุยกับพ่อข้าแล้ว บอกว่ายกเลิกงานแต่ง”

“เจ้านี่นะ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!” จูฟางหยวนเดินปรากฏตัวตรงประตู พอเข้าประตูมาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ

คนที่มากับเขาด้วยก็คือจูเก๋อหมิง

เงินอี้มองจูเก๋อหมิงพลางพูดว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้ากลับไปแล้วหรอกหรือ ทำไมถึงได้กลับมาอีกล่ะ”

จูเก๋อหมิงรู้สึกมึนงง “กลับอะไร ข้าเพิ่งจะมานะ”

“ท่านเพิ่งไปนี่!”เฉินเย่นซานมองเขาพลางพูด

“ข้าเพิ่งมาจากโรงหมอนะ มาพร้อมเหล่าจูนี่แหละ” จูเก๋อหมิงเดินเข้าประตูมา จากนั้นก็วางล่วมยาลงบนโต๊ะ

ชูเซี่ยหันไปมองทางจูฟางหยวน จางฟางหยวนพูดว่า “ไม่ผิดหรอก วันนี้ข้าอยู่กับเขาทั้งบ่ายเลย”

ชูเซี่ยกับเฉินเย่นซานสบตากัน ท่าทีค่อย ๆ เคร่งเครียดขึ้นมา “แล้วคนที่เพิ่งมาเมื่อกี้เป็นใครกัน”

“ข้าจะตามไปเดี๋ยวนี้!”เฉินเย่นซานพุ่งตัวออกไปทันที

จูเก๋อหมิงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “เกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่นี้มีเรื่องอะไรหรือ”

ชูเซี่ยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้จูเก๋อหมิงกับจูฟางหยวนฟัง พอจูเก๋อหมิงฟังจบ ท่าทีก็เปลี่ยนไปทันที “เจ้าบอกว่าเขาเอากระปุกให้เจ้าดมอย่างนั้นหรือ กระปุกยังอยู่ที่ข้าอยู่เลย”

เขาเปิดล่วมยาออกแล้วหยิบกระปุกออกมา ทว่า มันเหมือนกับของที่ “จูเก๋อหมิง” คนเมื่อครู่นี้เอาให้นางไม่มีผิด

ชูเซี่ยเพิ่งนึกถึงเสียงที่ได้ยินจากจูเก๋อหมิงตัวปลอมคนนั้นได้ มันไม่ค่อยเหมือนสักเท่าไร นางเองก็ถามแล้ว แต่คนผู้นั้นบอกว่าไม่ค่อยสบายตรงช่วงคอ

“เขาเป็นตัวปลอม จุดประสงค์ของเขาคือให้เจ้าดมกระปุกนี่ ในนั้นมีพิษ” ชูเซี่ยพูดเสียงขรึม

“เร็ว ข้าช่วยตรวจชีพจรให้” ท่าทีของจูเก๋อหมิงเปลี่ยนไปมาก เขาประคองชูเซี่ยนั่งลงทันที

ชูเซี่ยพูดว่า “ข้าเดินลมปราณเองแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร เลือดลมก็ไม่ติดขัด”

จูเก๋อหมิงจับชีพจรนาง แน่นอนว่าฟังอย่างไรก็ไม่มีตรงไหนผิดปกติ

“ชีพจรไม่มีปัญหา นอกจากเจ้าไม่ได้กลิ่นแล้ว ยังรู้สึกผิดปกติตรงไหนอีกไหม” จูเก๋อหมิงถาม

ชูเซี่ยสั่นศีรษะ “ไม่รู้สึกว่าทีปัญหาตรงไหนนะ ใช่แล้ว กระปุกอยู่นี่ เมื่อครู่ข้าให้เฉินเย่นซานลองดมดูครู่นึง พอเฉินเย่นซานยืนขึ้นก็รู้สึกมึนหัว”

“แค่ลองดมดูครู่นึงหรือ” จูเก๋อหมิงถาม

“ใช่เฉินเย่นซานแค่ลองดมดูครู่เดียว ส่วนข้าดมมันซ้ำ ๆ ไปมา แล้วก็สูดดมลึก ๆ คิด ๆ ดูแล้ว หากมีพิษจริง ข้าคงถูกพิษมากกว่าเฉินเย่นซาน” ชูเซี่ยพูด

จูฟางหยวนถึงกับร้องเสียงหลง “ทำไมถึงไม่ระวังกันนะ”

“คงเป็นเพราะระวังจนไม่หวาดไม่ไหว ก็เลยนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะปลอมตัวเป็นจูเก๋อได้”

จูฟางหยวนมองนาง “นอกจากที่เจ้าไม่ได้กลิ่นแล้ว ส่วนอื่นไม่มีปัญหาจริง ๆ หรือ”

“ตอนนี้ยังไม่มี” ชูเซี่ยเดินลมปราณอีกครั้งก็ยังรู้สึกว่าเลือดลมสูบฉีดเต็มที่

จูเก๋อหมิงถามอย่างแปลกใจ “ทำไมพวกเขาถึงต้องการให้เจ้าดมกลิ่นไม่ได้”

“ไม่รู้สิ อาจจะไม่อยากให้ข้าหาส่วนผสมของยาถอนพิษเจอก็เป็นได้” ชูเซี่ยพูด

จูเก๋อหมิงนึกอยู่สักพักแล้วเอ่ยถาม “ที่เจ้าพูดเมื่อกี้นี้ ตัวปลอมของข้าบอกเจ้าว่าในกลิ่นพวกนั้นมีชะมดกับการบูรใช่หรือไม่”

“ถูกต้อง” ชูเซี่ยตอบ

จูเก๋อหมิงเอ่ยว่า “แต่ก่อนหน้านี้กระปุกที่เหลียงกวงเสียงให้พวกเรา ไม่มีชะมดกับการเลยนะ อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้กลิ่น”

“ฉะนั้น เจ้าคิดว่ามันหมายความว่าอย่างไรกัน”

ภายในหัวของจูเก๋อหมิงฉายบางสิ่งขึ้นมา “ในถุงหอมของฉ่ายเวินเมื่อก่อนนี้อาจจะมีชะมดผสมอยู่ก็เป็นได้ แต่ผู้หญิงใช้กลิ่นชะมดนาน ๆ ไม่ได้นี่ เป็นไปไม่ได้ ฉ่ายเวินเองก็เข้าใจเรื่องเภสัชวิทยา (หลักที่ว่าด้วยฤทธิ์ของยาหรือของสารที่มีต่อสิ่งมีชีวิต) ดี รู้ว่าหากใช้ชะมดไปนาน ๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย”

ชูเซี่ยนิ่งอึ้งไปสักพัก “เจ้าจะบอกว่า ที่จูเก๋อหมิงตัวปลอมมาหาข้า บอกว่าในกระปุกมีชะมดกับการบูร ความจริงแล้วเป็นการเตือนข้า หรือนี่อาจจะเป็นหัวใจหลักของยาถอนพิษอย่างนั้นหรือ”

“ก็เป็นไปได้ เพราะชะมดกับการบูรล้วนมีฤทธิ์ฆ่าหนอนพิษ”

“แต่ในกระปุกที่เขาเอาให้เราไม่มีกลิ่นชะมดกับการบูรก็ฆ่าหนอนพิษได้เช่นกัน” ชูเซี่ยพูด

จูเก๋อหมิงคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ “ใช่แล้ว เราเอาหนอนกู่ที่ยังมีชีวิตอยู่ใส่ในกระปุกที่เหลียงกวงเสียงให้พวกเรา หนอนกู่ก็ตายเหมือนกัน นั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กลิ่นในกระปุกสามารถฆ่าหนอนกู่ได้โดยที่ไม่ต้องใช้ชะมดกับการบูร”

ทั้งสองต่างก็ครุ่นคิด เรื่องนี้แปลกมากจริง ๆ หรือว่าเรื่องกลิ่นชะมดกับการบูรจะเป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจใช้เบี่ยงเบนความสนใจ แต่ทำไมต้องทำอะไรให้มันยากเย็นแบบนี้ด้วย

อีกอย่าง จากคำพูดของเหลียงกวงเสียงสามารถอนุมานได้ว่า พวกเขาไม่ได้อยากให้ฮองไทเฮาตาย เพียงแค่หวังว่าจะลากตัวนางมาอยู่ในเมืองหลวงก็เท่านั้น

“ไม่ ชะมดกับการบูรไม่ใช่ยาถอนพิษ แต่เป็นยาพิษ” ชูเซี่ยนึกเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ “ตอนที่พวกเขาเอากระปุกให้ข้า เรื่องบางอย่างก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น”

จูเก๋อหมิงก็นึกออกแล้วเช่นกัน “ไม่ผิด กระปุกที่เหลียงกวงเสียงให้มาต่างหากจึงจะเป็นยาถอนพิษ ตอนนั้นจุดประสงค์ของพวกเขาคือหวังจะให้เจ้าอยู่ในเมืองหลวงทำยาแก้พิษขึ้นมา ไม่อยากให้เจ้าจากไป ดังนั้น จึงให้เงื่อนงำบางอย่างเกี่ยวกับยาแก้พิษกับเจ้า และหลังจากนั้นเรื่องที่พวกเจ้าออกเดินทางไปต่างถิ่นก็จะถูกเหลียงกุยกับจางเซียนฮุยยกเรื่องนี้ขึ้นมาในท้องพระโรง จากนั้นพวกเขาสองคนก็ถูกฝ่าบาทกับขุนนางคนอื่น ๆ ประณาม นั่นก็หมายความว่า พวกเขาจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเหลียงกุยที่เป็นขุนนางในสำนักหมอหลวงมาตรึงเฉินเย่นเอาไว้ด้วยปัญหาเรื่องเจ้ากับเฉินเย่นอีก เหลียงกุยต้องไม่กล้าพูดอะไรอีกแน่ และไม่อาจวางบทลงทัณฑ์เรื่องนี้ได้อีก”

“ฉะนั้น พวกเขาก็เลยปรากฏ พูดเรื่องการบูรกับชะมดกับข้าว่าสามารถใช้ทำยาแก้พิษได้ เพื่อช่วยฮองไทเฮา ข้าจึงต้องลองดู เพียงแค่ใช้การบูรกับชะมดจนฮองไทเฮาเกิดเรื่อง ข้าก็ไม่อาจถอนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้และต้องถูกลงทัณฑ์ พอถึงเวลานั้น...”

“พอถึงเวลานั้นเฉินเย่นก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมเพื่อชวยเจ้า แล้วหลังจากนั้น...” จูเกิดหมิงพูดอย่างอกสั่นขวัญแขวน

"พวกเขาช่างมีจิตใจโหดเหี้ยมเสียจริง หากทำให้ชูเซี่ยน้อยตายไม่ได้ก็จะไม่รามือเลยใช่ไหม"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า