ตอนที่ 258 มาใหม่อีก
การที่จูเก๋อหมิงฝังเข็มให้ชูเซี่ยนับว่าเป็นการระงับการกระจายพิษชั่วคราว
แต่ก็ยับยั้งได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น หากไม่สามารถขจัดพิษได้ล่ะก็ คงต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดกาล
ความรู้สึกของทุกคนดิ่งวูบอย่างหนัก การที่ชูเซี่ยถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงานอย่างฉับพลันโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ทำให้ขวัญกำลังใจของทุกคนได้รับผลกระทบอย่างมาก
ชูเซี่ยฝืนทำเป็นเข้มแข็ง “ครั้งนี้ที่พวกเราไม่ได้เตรียมตัวให้ดีเป็นความประมาทของพวกเราเอง ต่อไปต้องจำตรงจุดนี้เอาไว้”
จูฟางหยวนมองนางด้วยความปวดใจและไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรดี เขาเพียงแต่รู้สึกว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาดตาขาวที่ไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง
“ใช่ ต่อไปต้องจำตรงจุดนี้ไว้ให้ดี” จูเก๋อหมิงพูด แต่น้ำเสียงกลับหดหู่
เย่เอ๋อพลันสบถด่าขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “สรุปว่าฉ่ายเวินตายหรือยังไม่ตายกันแน่ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้”
จูเก๋อหมิงยิ้มอย่างขมขื่น “พิษชั้นเลิศเช่นนี้ กลัวว่านอกจากนางแล้วจะไม่มีใครทำมันขึ้นมาได้อีกนี่สิ”
“ช่างเป็นหนอนร้อยเท้าที่แม้ตายไปแล้วก็ยังขยับตัวได้จริง ๆ (หมายถึง คนหรือบุคคลที่ล้มเหลวหรือพลาดพลั้งแต่อิทธิพลก็ยังคงมีอยู่)” เย่เอ๋อพูดอย่างโมโห
จูฟางหยวนอยากจะล้างแค้นให้ชูเซี่ยมาก แต่ตอนนี้แม้แต่จะแตะต้องศัตรูก็ยังทำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะไปหาพวกเขาที่ไหน น่าเจ็บใจจริง ๆ
จูฟางหยวนกลับมาจากลาดตระเวนไปหนึ่งรอบ เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ได้พูดอะไรมากมาย อีกทั้งบรรยากาศก็ทั้งตรึงเครียดและเยือกเย็นอย่างมาก เขาก็พูดขึ้นมา “ลาดตระเวนไปรอบนึงแล้ว ไม่พบความผิดปกติ”
เย่เอ๋อเงยหน้ามองเขา ขอบตาพลันแดงก่ำ “ต้องระดมพลกองกำลังหรือไม่ คืนนี้หลวี่หนิงก็ไม่ได้มาด้วย เมื่อคืนวานนี้ยังอยู่อยู่เลย”
“วันนี้เขาบอกว่าจะมาดึกหน่อย” หลี่หยุนกางพูด
“ไม่ต้องระดมพลกองกำลังหรอก” ชูเซี่ยหันศีรษะเล็กน้อยไปทางจูฟางหยวนอย่างถูกต้อง “หลังจากที่ไปหาเฉินเย่นซานแล้ว ก็ให้นางไปแจ้งให้ท่านอาหมั่นทราบ เพื่อระดมพลคนของพรรคมังกรเหิน”
จูฟางหยวนตบโต๊ะ “ควรจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว หากทุกคนช่วยกันเติมฟืน ไฟก็จะยิ่งลุกโชน (หมายถึง คนยิ่งเยอะก็ยิ่งมีกำลังมาก) ต้องรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีต้านพวกเขาเอาไว้ให้ได้”
หลี่หยุนกางก็เห็นด้วยเช่นกัน “มีพรรคมังกรเหินอยู่ ดูสิว่าพวกเหลียงกุยยังจะกล้าจองหองแบบนี้อยู่ไหม”
“เหลียงกุยไม่เกรงกลัวพรรคมังกรเหินหรอก แต่ไหนแต่ไรมาพวกเขาก็ดูถูกพรรคมังกรเหินอยู่แล้ว แต่คนของพวกหลี่อวี๋นหลี่ต่างหากที่กลัวพรรคมังกรเหิน” จูเก๋อหมิงพูด
“ถูกต้อง อันที่จริงเหลียงกุยไม่เกรงกลัวพรรคมังกรเหิน อันที่จริงการทำการกล้าหาญอย่างโง่เขลาก็เป็นเพราะพวกเขาประเมินพรรคมังกรเหินต่ำไป” หลี่หยุนกางพูด
เย่เอ๋อเห็นว่าดึกแล้ว จึงเร่งให้หลี่หยุนกางรีบไปตามเฉินเย่นซานมา
นางเป็นห่วงว่าค่ำคืนนี้ชูเซี่ยจะคิดฟุ้งซ่าน เพราะตอนนี้นางมองไม่เห็น
ทว่าชูเซี่ยกลับปลอบเย่เอ๋อ “ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก พวกท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ เหล่าจูกับจูเก๋อกลับไปก่อนเถอะ ส่วนท่านอ๋องกับเย่เอ๋อก็ไปพักผ่อนเถอะ ข้าเริ่มจะเหนื่อยแล้ว อยากนอนสักพัก ถ้าเฉินเย่นซานมาถึงก็ค่อยสั่งให้คนนำทางนางมา”
คนของหลี่หยุนกางไม่พบตัวเฉินเย่นซาน พอถึงช่วงยามโฉ่ว (ช่วงตีหนึ่งถึงตีสาม)เฉินเย่นซานก็ถือดาบมาที่จวนอ๋อง ร่างเต็มไปด้วยเลือด นางดึงคว้ามือของยามเฝ้าประตูไว้ “เร็ว ไปบอกท่านอ๋องให้ส่งคนไปหลางฟงติ่งเร็ว”
ยามเฝ้าประตูตกใจร้องลั่น “ใครก็ได้มานี่เร็ว แม่นางเฉินเย่นซานได้รับบาดเจ็บ เรียกท่านอ๋องเร็ว”
เชียนซานตะโกนจนคอแทบแตก “ให้ท่านอ๋องส่งคนไปหลางฟงติ่ง เร็วสิ หลวี่หนิงถูกพวกมันจับตัวไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...