ตอนที่ 262 ฝ่ายสู้รบกัน
ใบหน้าของหลี่เฉินเย่นเปลี่ยนไปทันที “ฉ่ายเวิน?”
“แม้แต่เฉินหยวนชิ่งก็ตื่นตะลึงไปเช่นกัน “ฉ่ายเวินตายไปแล้วไม่ใช่หรือ””
“ใช่แล้ว แต่ว่าไม่มีผู้ใดรู้ว่าเชียนซานนางมองผิดไปหรือไม่” หลี่อหยุนกางเองก็ไม่กล้ายืนกรานเรื่องนี้ เพราะว่าฉ่ายเวินนางตายไปแล้วทั้งยังถูกฝังแล้วเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าชูเซี่ยจะเคยกล่าวมาว่าวิญญาณสามารถไปเข้าร่างผู้อื่นได้แต่นั่นก็เท่ากับว่าใบหน้าของฉ่ายเวินย่อมต้องเปลี่ยนไปด้วยไม่ใช่หรือ นางจะไปมีรูปโฉมเช่นเดิมได้อย่างไรกัน
“เราจะออกนอกวังเดี๋ยวนี้ แล้วหลวี่หนิงเล่า เขาไม่ได้ดูแลความปลอดภัยอยู่ที่จวนงั้นหรือ” หลี่เฉินเย่นถามถึงคนสนิทข้างกายของตน
หลี่อหยุนกางที่ได้ยินชื่อของหลวี่หนิงก็ถอนหายใจออกมา “หลวี่หนิง...ตอนนี้หายสาบสูญ คาดว่า...ตายแล้ว”
หลี่เฉินเย่นทำสีหน้าไม่เชื่อหูตนเอง “เสด็จพี่กล่าวอะไรนะ”
ใบหน้าของหลี่อหยุนกางเคร่งเครียด “ตอนที่เชียนซานไล่ตามหลี่อวี๋นหลี่ออกไป ลูหนิงเองก็ตามหลังนางไปติดๆเช่นกัน แต่ทว่าหลี่อวี๋นหลี่กลับมีพรรคพวกที่คอยซุ่มโจมตีอยู่บนเขา หลวี่หนิงต่อสู้สุดชีวิตของเขาเพื่อเปิดโอกาสให้เชียนซานได้กลับมาจวนอ๋องบอกข่าวแก่พวกเรา แต่ตอนที่ข้านำกำลังคนไปถึงหุบเขาหลางฟงติ่งบริเวณที่เชียนซานบอกมาก็ไม่เหลือใครแล้ว มีเพียงศพศพหนึ่งที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมจนไม่อาจระบุได้ว่าเป็นผู้ใด ทว่าข้างกายศพกลับมีดาบเล่มหนึ่งวางไว้ เป็นดาบประจำตัวของหลวี่หนิง”
หลวี่หนิงเป็นองครักษ์คนสนิทที่สุดของหลี่เฉินเย่น หลายปีมานี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่เขาก็มักจะมอบหมายและไว้วางใจให้อีกฝ่ายไปทำเสมอ เมื่อได้ยินข่าวร้ายที่เช่นนี้ ในใจของหลี่เฉินเย่นก็รู้สึกเศร้าโสฏและเกิดโทสะจนเอื้อนเอ่ยอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับชูเซี่ย ชายหนุ่มรู้สึกสับสนวุ่นวายและโมโหเหลือจะกล่าว แต่ทว่าครั้นมาได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลวี่หนิงก็ทำให้จิตใจของเขาเริ่มกลับมาสงบลงอีกครั้ง
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเรื่องที่ถูกวางแผนมาอย่างดีต่างหากเล่า
การที่หลี่อวี๋นหลี่ทำให้เกิดเรื่องราวมากมายเช่นนี้ภายในคืนเดียวกันก็เพราะต้องการให้เขาเกิดความสับสนและกระวนกระวายจนขาดสติในการคิดวางแผน หากเขาคาดไม่ผิดหลี่อวี๋นหลี่ทำเช่นนี้เพราะว่าแผนการต่อไปของอีกฝ่ายย่อมต้องร้ายแรงมากกว่านี้เป็นแน่
หลี่เฉินเย่นกำหมัดของตนเองไว้แน่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแสดงถึงความสับสนที่เกิดขึ้นในหัวหลี่อหยุนกางเห็นท่าทางเช่นนั้นของน้องชายตนเองก็เป็นห่วงตั้งใจจะอ้าปากเอ่ยปลอบแต่ทว่าเฉินหยวนชิ่งกับส่งสายตาห้ามปรามไว้เสียก่อน
หลี่เฉินเย่นเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เสด็จพี่ เชียนซานอยู่ในจวนอ๋องของท่านด้วยหรือไม่”
“ใช่แล้ว!” หลี่อหยุนกางมองใบหน้าของน้องชายตนเอง ไม่เข้าใจจุดประสงคืของอีกฝ่ายนัก
“ทหาร ไปเตรียมเกี้ยวให้ท่านอ๋องเจิ้นหยวน!” หลี่เฉินเย่นรับสั่งเสียงดังก้อง
ลู่จ่งก่วนที่อยู่นอกห้องได้ยินรับสั่งขององค์เหนือหัวก็รีบร้อนเข้ามาในห้อง “พะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้”
เฉินหยวนชิ่งจึงเอ่ยปากทูลขอ “กระหม่อมจะไปกับฝ่าบาทด้วยพะย่ะค่ะ”
หลี่เฉินเย่นปรายตามองอีกฝ่ายเล็กน้อย “ก็ดี เจ้าก็ไปกับเราก็แล้วกัน”
ไม่รู้ว่าเฉินหยวนชิ่งยังมีความแค้นความบาดหมางต่อชูเซี่ยหรือไม่ เรื่องนี้เขาไม่อาจรู้ได้ แต่ทว่าตอนนี้ยามนี้หากเขาไม่ยอมให้เฉินหยวนชิ่งตามไปด้วยกันภายภาคหน้าเฉินหยวนชิ่งอาจเกิดความคลางแคลงใจและต่อต้านเขาก็เป็นได้
อีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเขาก็รู้วเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องห้ามไม่ให้เขาติดตามไปด้วย
หลี่อหยุนกางเห็นสีหน้าท่าทางที่ใจเย็นลงของน้องชายตนเองก็ค่อยวางใจ
แรกเริ่มเขาเกรงว่าเรื่องของชูเซี่ยอาจทำให้เฉินเย่นร้อนใจจนขาดสติ ดูท่าว่าหลังจากที่เฉินเย่นได้ครองบัลลังก์มังกรมาตลอดระยะเวลาห้าปีจะทำให้เขากลายเป็นฮ่องเต้ที่สุขุมนุ่มลึกไปเสียแล้วสินะ
จูเก๋อหมิงกล่าวได้ถูกต้อง หากว่ามัวแต่ปิดบังกันไปปิดบังกันมาย่อมไม่ใช่เรื่องดี
เฉินหยวนชิ่งเป็นผู้ลงมาเดินคุ้มกันการเปิดถนนขบวนเสด็จของฝ่าบาทด้วยตนเองเพื่อเดินทางไปยังจวนอ๋องเจิ้นหยวน
ขวบเสด็จของฮ่องเต้และท่านอ๋องสะกดสายตาของผู้คนให้มองตามและถวายการเคารพ
เฉินหยวนชิ่งมองดูรถม้าที่เคลื่นที่ไปด้านหน้าก่อนมุมปากจะเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา ห้าปีมาแล้ว ในใจของเขายังคิดถึงหญิงที่ชื่อชูเซี่ยมาตลอด
ความรู้สึกรักใครลึกซึ้งของคนผู้นั้น ทำร้ายจิตใจใครไปบ้าง ทำให้ใครต้องเสียใจไปบ้าง
น้องสาวที่โง่งมของเขา เจ้ารักเขาทั้งใจ แล้วเขาเล่าสนใจเจ้าสักนิดหรือไม่ เจ้าต่างหากเล่าที่เป็นพระชายาของเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรเล่า แม้แต่จารึกชื่อเจ้าในฐานะที่เป็นฮองเฮาเขายังไม่ยินยอมด้วยซ้ำ
ตำแหน่งฮองเฮานั้นตลอดมาเขาผู้นั้นก็เก็บไว้ให้หญิงที่ชื่อชูเซี่ยผู้นั้นผู้เดียว
เขาไม่เห็นเจ้าเป็นภรรยาของเขาด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับวางตำแหน่งเขาให้เป็นคนที่เจ้ารักมากที่สุดเสียนี่
หัวใจของเฉินหยวนชิ่งสับสนวุ่นวายไปหมด ชายหนุ่มคิดถึงความรักของหลี่เฉินเย่นที่มีต่อชูเซี่ย
หากหลี่เฉินเย่นจะมอบความรู้สึกเช่นนี้มอบให้แก่หญิงอื่นบ้างเหมือนที่ชายหนุ่มมอบให้แก่ชูเซี่ยเขาจะไม่โกรธแค้นถึงเพียงนี้เลย แต่ทว่าความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เขาสามารถรักหญิงสาวอย่างลึกซึ้งได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือชูเซี่ย เฉินหยวนชิ่งรู้สึกเสียดายชีวิตของน้องสาวของเขาที่ต้องจ่ายให้แก่ความรักครั้งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...