ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 279

ตอนที่279 ความแค้น

ชูเซี่ยเข้าพักที่ตำหนักไฉ่เว่ยมาดำรงตำแหน่งรักษาตราประทับและแน่นอนตำนักไฉ่เว่ยก็กลายเป็นศูนย์กลางทันที

เด็กๆตามมาที่ตำหนักไฉ่เว่ยแต่จะอยู่เล่นที่ตำหนักไทเฮาเป็นบางครั้ง

ข้างๆตำหนักไฉ่เว่ยจะเป็นตำหนักที่หยงกุ้ยเฟยพักอยู่หยงกุ้ยเฟยดีใจมากที่ชูเซี่ยเข้าวังมานางชอบมาเยี่ยมหาชูเซี่ยบ่อยๆ

พอรู้ว่าจิงโม่บาดเจ็บ หยงกุ้ยเฟยก็รีบมาทันที นางส่งของอร่อยและของเล่นมาให้จิงโม่มากมาย ทำเอาฉองเหลาอิจฉา

แต่ว่าเขาโดนชูเซี่ยทำโทษภายใขเจ็ดวันนี้ห้ามกินขนมและห้ามเล่นของเล่น

กลับเป็นจิงโม่ที่พอหายโกรธแล้วก็นัดเขามาด้านหลังและบ่งขนมให้เขากินฉองเหลากอดจิงโม่ไว้และพูดว่า: “ข้าสัญญาว่าจะไม่ตีเจ้าอีก จะไม่รังแกเจ้าถ้ามีคนมารังแกข้าจะปกป้องเจ้าเองถ้าแม่ด่า ข้าจะช่วยเจ้า ถ้าพ่อลงโทษเจ้าข้าจะรับโทษแทนเจ้าเอง”

“ได้ งั้นพวกเรามาเกี่ยวก้อยสัญญากัน!”จิงโม่พูดอย่างจริงจัง

ฉองเหลาปล่อยนางและเอาขนมไว้ที่มืออีกข้าง เขาเกี่ยวก้อยอย่างยากลำบาก“เกี่ยวก้อยสัญญา ใครผิดสัญญาคนนั้นเป็นหมู”

“อืม ข้าเชื่อเจ้า”จิงโม่พูด

ฉองเหลานั่งกินขนมและเงยหน้าขึ้นมา“เดี๋ยวนะ คุณยายหยงให้ขนมเกี๊ยวอีกอันนี้?ทำไมไม่มีแล้วล่ะ?”

ขนมเกี๊ยวเป็นของกินเล่นอย่างนึงขนมชนิดนี้ส่วนมากจะทำตอนปีใหม่ ด้านในมีไส้ถั่วดำหวานกับไส้มะพร้าวหวาน ทอดลงที่น้ำมัน หอมกินกรุบกรอบ ฉองเหลาเคยกินครั้งหนึ่งและอยากกินอีก

“ข้ากินหมดแล้ว”จิงโม่พูด

“กินหมดแล้ว?”ฉองเหลาอึ้งและพูดอย่างงอนๆว่า “ทำไมเจ้าไม่เหลือให้ข้าอันหนึ่งล่ะ?”

“ทำไมต้องเหลือให้เจ้าด้วย?”

“พวกเราเกี่ยวก้อยสัญญาจะเป็นเพื่อนรักกันนี้ ทำไมเจ้าไม่เหลือให้ข้าเลยล่ะ?”

“ก่อนพวกเราจะเกี่ยวก้อย ข้ากินหมดก่อนแล้วล่ะ”จิงโม่คิดว่าเขาโง่และพูดต่อว่า “อีกอย่าง เกี่ยวก้อยแล้วก็ไม่ใช่ว่าข้าจะให้เจ้ากิน เจ้าแค่สัญญาว่าจะไม่รังแกข้า”

“ข้าไม่รังแกเจ้าแต่เจ้าไม่เอาขนมให้ข้ากิน ข้าจะสัญญาอะไรล่ะ?ข้าไม่สน เจ้าต้องเอาขนมเกี๊ยวมาให้ข้า!”ฉองเหลาพูด

“ไม่สนเจ้าแล้ว”จิงโม่พูดจบก็กลับหลังหันเดินออกไป

ชูเซี่ยกำลังคุยอยู่ด้านใน จิงโม่เดินออกมาจากตำหนักไฉ่เว่ย

กำลังออกมาก็เห็นองค์หญิงอวิ๋นซึนก็คือฉ่ายเวินเดินเข้ามา ด้านหลังมีข้ารับใช้ใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด

เสื้อผ้าหนานจ้าวนั้นมีสีฉูดฉาด พวกเขาไม่เคยใส่เสื้อสีอ่อนเลย แต่ถ้าเป็นเสื้อสีอ่อนพวกเขาก็จะใส่ผ้าอย่างอื่นที่มีสีฉูดฉาดแทนขนาดข้ารับใช้ยังใส่

องค์หญิงอวิ๋นซึนเห็นจิงโม่ออกมาก็ดูนางค้างไว้ เข้าวังมาหลายวัน นางยังไม่เคยเห็นจิงโม่กับฉองเหลาเลยและยังไม่เคยเห็นหลี่เฉินเย่น ครั้งนี้นางมาทำความเคารพชูเซี่ยครั้งแรก

นางรู้นานแล้วว่าชูเซี่ยกับศิษย์พี่มีลูกฝาแฝดกัน พอเห็นจิงโม่นางก็เกิดความเกลียดชังในใจขึ้นมา

เด็กคนนี้ช่างคล้ายศิษย์พี่มาก น่าจะเป็นนางที่มีลูกกับศิษย์พี่ เป็นเพราะชูเซี่ยคนเดียวที่แย่งของนางไปหมด

“เจ้าคือจิงโม่ใช่หรือไม่?”ฉ่ายเวินถามอย่างอ่อนโยน

จิงโม่เลยหน้ามองดูฉ่ายเวินและดูอย่างตกใจ: “พี่สาวคนนี้ ทำไมพี่สวยจังเลย”

ฉ่ายเวินอดยิ้มไม่ได้“จริงเหรอ?เจ้านี้ช่างปากหวานเสียจริง”

จิงโม่พูด: “ข้าพูดจริงนะ พี่สาวสวยมากเลย”

“ขอบคุณนะจิงโม่”นางนั่งลงจับไหล่จิงโม่และมองดูขนมที่นางกอดไว้ “ของกินเยอะจังเลย แบ่งให้ข้าหน่อยได้ไหม?”

จิงโม่ลังเลและส่ายหัว: “เสด็จแม่บอกว่าถ้ากินขนทเยอะเกินฟันจะผุได้ พี่สาวสวยขนาดนี้ ถ้ามีฟันผุแล้วจะไม่สวย ข้าไม่อยากทำร้ายพี่สาว”

ฉ่ายเวินยิ้ม“จิงโม่ดีจัง”

จิงโม่เบิกตาโพลงและถามนางว่า“พี่สาวเป็นใครกัน?พี่มาหาเสด็จแม่เหรอค่ะ?”

“ข้าชื่อว่าอวิ๋นซึน จองโม่เรียกข้าว่ามู่เฟยก็ได้”

“ท่านชื่ออวิ๋นซึน ทำไมข้าต้องเรียกท่านว่ามู่เฟยด้วย?”จิงโม่ถามอย่างสงสัย

“เพราะว่า”อวิ๋นซึนก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ข้าเป็นกุ้ยเฟยของเสด็จพ่อเจ้า ถ้าตามธรรมเนียม เจ้าต้องเรียกข้าว่ามู่เฟย”

“ธรรมเนียม?”จิงโม่ทำหน้าน่าเกียจ “ข้าไม่ทำตามธรรมเนียมหรอก ธรรมเนียมพวกนั้นมันแปลกๆ พี่สาวก็คือพี่สาว ข้าชอบเรียกว่าพี่สาว”

ข้ารับใช้ชุนลานพูดว่า: “องค์หญิงน้อย ท่านต้องเรียกกุ้ยเฟยว่ามู่เฟย นี้เป็นธรรมเนียมและกฏ”

“เจ้าเป็นใคร?”จิงโม่พูดอย่างไม่มีความสุข มองดูชุนลานที่ทำท่าเหมือนใหญ่

“ข้า……”

ชุนลานไม่ได้ตอบจิงโม่ก็พูดต่อว่า: “ข้าชื่อจิงโม่ไม่ได้ชื่อว่าองค์หญิงน้อย ไม่อยากเล่นกับพวกเจ้าแล้ว”

พูดจบก็อุ้มขนมไปที่อื่นเลย

ฉ่ายเวินมองตามหลังจิงโม่ไปสายตก็เกิดโกรธแค้นขึ้นมาจากนั้นนางก็พูดพนึมพร่ำเบาๆว่า: “นี้มันควรเป็นลูกของฉัน”

ชุนลานเดินเข้ามาและพูดเสียงเบาว่า: “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ตอนนี้ชูเซี่ยก็กินยาถอนพิษแล้ว นางก็โดนยาพิษของเรา ถ้าท่านอยากได้เด็กสองคนนี้จริง ท่านก็บังคับนางให้ส่งลูกให้สิเจ้าค่ะ?”

ฉ่ายเวินคลี่ยิ้มและพูดว่า“นี้เป็นความคิดที่ดีแต่ว่าเด็กคนนั้นเหมือนไม่ชอบข้าถึงแม้เป็นลูกของศิษย์พี่แต่แม่นางไม่ดีเลย เด็กคนนี้มีเลือดผสม เอาไม่ได้ ถ้าข้าอยากได้เด็ก ข้าจะมีลูกกับศิษย์พี่เองก็ได้นี้?เด็กเลือดผสมไม่ควรอยู่บนโลกนี้”

ชุนลานอึ้งจากนั้นก็คลี่ยิ้มออกมาช้าๆอย่างโรคจิต“หม่อมฉันรู้ว่าต้องทำเช่นไรเจ้าค่ะ กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงวางใจได้”

ฉ่ายเวินยิ้มออกมานางยิ้มได้อย่างโรคจิตช่างน่ากลวเหลือเกิน“งั้นก็ดีแต่อย่ารีบ แมวจับหนูยังไง เจ้ารู้ใช่ไหม?เล่นเกมไปก่อนทำให้เด็กชอบเรา ให้ชูเซี่ยอิจฉก่อนค่อยลงมือ”

“เจ้าค่ะ”ชุนลานกับชิวเหว่มองหน้ากันและยิ้ม

ฉ่ายเวินสบัดมือ“ไป เข้าไปสวัสดีหัวหน้าเวิ่นกัน”

นางเดินมาก่อน ว่านเหลียงยืนหน้าตำหนักพอเห็นว่าฉ่ายเวินมาก็พูดว่า: “หม่อมฉันทำความเคารพกุ้ยเฟย”

“ลุกขึ้นได้ เข้าไปบอกสิว่าข้ามาเยี่ยม”ฉ่ายเวินพูดอย่างเย็นชาและจองหอง

ว่านเหลียงก็ตอบว่า: “เจ้าค่ะ กุ้ยเฟยรอก่อน”

ว่านเหลียงเข้าไปในตำหนักและเข้าไปพูดกับชูเซี่ยที่ตอนนี้กำลังพูดกับหยงกุ้ยท่ายเฟยว่า: “หัวหน้า หรูกุ้ยเฟยมาเจ้าค่ะ”

ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นมา“เชิญเข้ามาได้”

“เจ้าค่ะ!”ว่านเหลียงกลับหลังหันและเดินออกไป

หยงกุ้ยท่ายเฟยก็ถามว่า: “หรูกุ้ยเฟยนี้เป็นฉ่ายเวินจริงเหรอ?”

ชูเซี่ยพยักหน้าเบาๆ“น่าจะใช่”

หยงกุ้ยท่ายเฟยทำสีหน้าโกรธแค้น“หญิงผู้นี้ช่างร้ายกาจ ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่?สรรว์ไม่มีตาจริงๆ”

ชูเซี่ยมองดูนางและไม่พูดอะไร

ฉ่ายเวินก็ร้ายจริงๆแต่ว่าใบหน้านางช่างดูไร้เดียงสา นี่สินะที่เขาบอกว่าปีศาจในร่างนางฟ้า ฉ่ายเวินนี้เอง

นิสัยปีศาจใบหน้านางฟ้า

ทั้งชีวิตนี้ชูเซี่ยไม่ลืมหน้านางที่ไร้เดียงสา หน้าที่ไม่มีวันทำร้ายใครได้ ถ้าเป็นเช่นนี้นางก็คงไม่เกลียดเก่อเอ๋อขนาดนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า