ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 280

ตอนที่280 ประกาศสงคราม

ฉ่ายเวินพาชุนลานกับชิวเหว่เข้าไปพอกับชูเซี่ยและหยงกุ้ยท่ายเฟย นางเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและทำความเคารพ“ข้าอวิ๋นซึน สวัสดีหัวหน้าเวิ่นและหยงกุ้ยท่ายเฟย!”

หยงกุ้ยท่ายเฟยทำเป็นไม่รู้และพูดว่า: “กุ้ยเฟยสายตาดีจริง ข้ายังไม่เคยเจอเจ้าแต่เจ้ากลับรู้ว่าข้าเป็นใคร เก่งจริงนะ”

ฉ่ายเวินยิ้ม“กุ้ยท่ายเฟยออกจะโดดเด่น ทั้งมีเมตตาหน้าตาก็อ่อนโยน แค่ดูก็รู้แล้ว”

หยงกุ้ยเฟยยิ้มและพูดว่า“โดดเด่นงั้นเหรอ มีเมตาและอ่อนโยน เจ้าไม่รู้เหรอว่าข้าอยู่หลังวังนี้มีข่าวลือว่าข้าเป็นคนโหดเหี้ยมน่ะ”

“คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของกุ้ยท่ายเฟยหรอกเจ้าค่ะ”ฉ่ายเวินพูดและยิ้มจางๆ

“คนอื่นไม่รู้ แต่เจ้ายังไม่เคยเห็นข้าแต่กลับรู้ว่าข้าเป็นยังไง แปลกจังนะ”หยงกุ้ยท่ายเฟยพูดประชด

ฉ่ายเวินไม่สนใจและพูดตอบกลับไปว่า: “ใช่สิ บนโลกนี้ก็เรื่องแปลกเช่นนี้แหละเจ้าค่ะ”

หยงกุ้ยท่ายเฟยลุกขึ้น“ใช่แล้ว ข้าไปก่อนดีกว่า ไม่อยากเป็นก้างขวางคอพวกเจ้าคุยกัน”

ชูเซี่ยลุกขึ้นทำความเคารพ“กุ้ยท่ายเฟยกลับดีๆล่ะเจ้าค่ะ”

ฉ่ายเวินที่พึ่งนั่งลงก็ลุกขึ้นมา“ส่งกุ้ยท่ายเฟย!”

กุ้ยท่ายเฟยปัดมือและเรียกข้ารับใช้เดินออกไป

ในตำหนักนอกจากชูเซี่ยกับฉ่ายเวินก็เหลือแค่ว่านเหลียงและชุนลานกับชิวเหว่

ชูเซี่ยมองฉ่ายเวิน“วันนี้กุ้ยเฟยมามีเรื่องอะไรเหรอ?”

ฉ่ายเวินยักคิ้วขึ้นและยิ้ม“พอเถอะ ไม่ต้องเรียกข้ากุ้ยเฟยหรอก เสียงเจ้ามันไม่จริงใจเลย เจ้ารู้ว่าข้าเป็นฉ่ายเวินและรู้ว่าข้ากลับมาแก้แค้น”

ชูเซี่ยยักคิ้วขึ้น นางมาประกาศสงครามกันตรงๆเลยเหรอ ทำเอาชูเซี่ยไม่ทันตั้งตัว

แต่ว่าก็ดีทุกคนจะได้ไม่ตอแหลใส่กัน

“อืม ข้ารู้”ชูเซี่ยก็ถามไปตรงๆเลยว่า “งั้นเจ้าจะแก้แค้นยังไงล่ะ?”

“พูดแล้วเดี๋ยวก็ไม่สนุกน่ะสิ”ฉ่ายเวินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เดี๋ยวเจ้าเจอไปทีล่ะนิดคงชินเอง”

“เจ้ามาก็เพื่อพูดแค่นี้เหรอ?”ชูเซี่ยพูดอย่างท้าทาย

ฉ่ายเวินยิ้มอย่างสดใส“ไม่ ข้าแวะมาทักทายหัวหน้าเวิ่นเท่านั้น เจ้าเป็นคนดูแลตราประทับ กฎของวังหลวงคือ สนมอย่างเราทุกคนต้องมาเคารพฮองเฮาที่ได้ดูแลตราประทับ”

ตอนนางพูดว่า“ฮองเฮา”นางแกล้งทำเสียงดังเหมือนพูดประชดชูเซี่ย

ชูเซี่ยก็ทำเป็นไม่สนใจ“อืม มาเคารพเหรอ ที่นี้ต้อนรับตลอด มีเวลาว่างก็มาล่ะ”

ฉองเหลาเดินออกมา ตอนฉ่ายเวินเจอฉองเหลาก็อึ้ง

นางนึกย้อนไปสมัยก่อน ตอนนั้น ศิษย์พี่พึ่งขึ้นเขามา ก็ยังเป็นเด็กอยู่ ใบหน้าก็เหมือนเด็กคนนี้เลย

แน่นอน ตอนนั้นศิษย์พี่ใหญ่กว่าเด็กคนนี้หลายปี

ตอนเห็นเด็กหญิงคนนั้นฉ่ายเวินยังไม่ตกใจเท่านี้ แต่พอเห็นฉองเหลา ความทรงจำนั้นก็ผุดขึ้นมาทันที

แต่ก็เป็นเรื่องสมัยก่อนแล้ว นางสาบานว่านางจะใช้ทุกวิธีเอาของที่ควรเป็นของตัวเองเอากลับคืนมาให้หมด

“เจ้าชื่อฉองเหลา?”ฉ่ายเวินยิ้มให้ฉองเหลา

ฉองเหลากำลังโกรธจิงโม่อยู่สีหน้าเลยดูดีแต่เขาก็ตอบกลับไปอย่างมีมารยาทว่า: “ข้าชื่อฉองเหลา”

“มานี้สิให้ข้าดูหน้าหน่อย”ฉ่ายเวินยื่นมือไปและกวักเรียกเขา

ฉองเหลาลังเลมองดูชูเซี่ยและชูเซี่ยก็พูดไปว่า: “เรียกกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง”

“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง!”เพราะว่าชูเซี่ยไม่ได้บอกให้เขาเดินไปเขาก็เลยยืนอยู่ที่เดิม

ฉ่ายเวินยืนขึ้นมาและเดินไปที่ด้านหน้าเขายื่นมือไปสัมผัสหน้าของเขา“ดูหน้าเจ้าช่างเหมือนกับศิษย์พี่เมื่อก่อนเลย”

ฉองเหลาถอยหลังและมองนางอย่างระแวง

ชูเซี่ยกวักมือ“ฉองเหลา มานี้สิ!”

ฉองเหลารีบวิ่งไปหาชูเซี่ยและยังคงมองดูฉ่ายเวิน

ชูเซี่ยเช็ดเหงือที่หน้าผากเขาเบาๆ“พี่สาวล่ะ?”

“ออกไปแล้วครับ คุณยายหยงให้ขนมพี่เยอะแต่พี่ไม่เหลือขนมเกี๊ยวให้ผมเลย”ฉองเหลาพูดอย่างน้อยใจ

“เดี๋ยวแม่ทำให้กินทีหลังนะ เจ้าออกไปเล่นกับพี่ว่านเหลียงก่อนไป”ชูเซี่ยพูด

ว่านเหลียงยิ้มและไปจับมือฉองเหลา“เด็กน้อย ไปกันเถอะ”

ฉองเหลามองดูฉ่ายเวินและรีบออกไปกับว่านเหลียงทันที

ฉ่ายเวินมองฉองเหลาและหุบยิ้มทันที

เขาหน้าตาเหมือนศิษย์พี่มากแต่กลับไม่สนใจนางทำเอานางเริ่มโมโหและนางหันกลับไปมองชูเซี่ยยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก“ชูเซี่ยข้าจะไม่ให้เจ้าอยู่ในตำแหน่งนี้อย่างสะบายใจได้ ไม่มีอะไรที่เป็นของเจ้า”

ชูเซี่ยมองหน้านางและพูดอย่างเย็นชาว่า“ใช่เหรอ?ถ้าเจ้าคิดว่าของที่ข้ามีอยู่ตอนนี้เป็นของเจ้า งั้นเจ้าก็มาแย่งไปสิแต่ว่าข้าบอกไว้ก่อนนะ ของที่ข้ามีอยู่ทุกวันนี้เป็นของข้าถ้าเจ้าจะมาแย่งข้าพร้อมสู้เต็มที่”

ฉ่ายเวินยิ้ม“เจ้าก็มีวันที่ไม่สงบนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่แกล้งทำดีมาก ข้าเบื่อเต็มทีที่เจ้าเอาแต่แกล้งแสดง ทุกคนมีพูดกันตรงๆเลยก็ดี”

ชูเซี่ยพูดอย่างเย็นชา: “ส่งแขก!”

นางไม่อยากพูดกับฉ่ายเวินแล้ว เหตุผลที่นางเข้าวังมานี้ชัดเจนมาก ถ้าจะแย่งก็มาแย่งเต็มที่เถอะ

ฉ่ายเวินกลับหลังหันแต่กลับได้ยินด้านนอกตำหนักมีเสียงลู่จ่งก่วนดังขี้น“ฝ่าบาทเสด็จ!”

ฉ่ายเวินกลับหลังหันมาและมองหน้าชูเซี่ยอย่างโกรธแค้น“เจ้าไม่ใช่ฮองเฮา ทำไมเขาต้องมาหาเจ้า?เจ้าอย่าลืม เจ้าแค่มาอยู่ที่วังสักพัก ดูแลตราประทับงั้นเหรอ เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ”

ชูเซี่ยจัดเสื้อผ้า ลุกขึ้นและเดินไปช้าๆเดินผ่านฉ่ายเวินและไปรับเสด็จด้านหน้า

หลี่เฉินเย่นเดินเข้ามาด้านหลังมีลู่จ่งก่วนและข้ารับใช้เดินตามมา พอเขารู้ว่าฉ่ายเวินมาที่ตำหนักไฉ่เว่ย ก็รู้สึกไม่สบายใจก็เลยรีบมาทันที

เขารู้ว่าชูเซี่ยไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นแต่ว่าฉ่ายเวินเป็นคนเลวร้าย เขาต้องระแวงไว้ก่อน

พอเห็นชูเซี่ยยืนหน้าประตูเขาก็โล่งอกรีบเดินไปจับมือนางและพูดว่า“เข้าไปเถอะ”

ชูเซี่ยไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้เขาจับมือไว้

ถึงแม้จะรู้ว่าองค์หญิงอวิ๋นซึนเป็นฉ่ายเวินแต่ว่าตอนเขาเข้ามาและเห็นฉ่ายเวินเขาก็อดไม่ได้ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที

เป็นความรู้สึกที่เกลียดจากใจ เขาไม่เข้าใจว่านางเป็นคนที่หน้าตาน่ารักไร้เดียงสาแต่ทำไมจิตใจกลับเป็นเช่นนี้?

ตั้งแต่เข้าวังมาฉ่ายเวินยังไม่เคยเห็นหลี่เฉินเย่นเลย

วันนี้เขาใส่เสื้อชุดคุมยาวดำมีลายปักมังกรดูสูงสง่ามาก

ผ่านไปห้าปีแล้ว เขาก็ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม เมื่อก่อนสายตาที่เขามองนางเป็นสายตาที่เอ็นดูแต่ตอนนี้กลับเป็นสายตาที่ขยะแขยง

เขาจับมือผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์นั้นเข้ามา ชูเซี่ยไม่เหมาะสมกับเขาเลย?ห้าปีแล้วเขายังไม่รู้อีกเหรอว่าใครที่ดีต่อเขา?

นางเจ็บปวดมาก ความเจ็บปวดนี้ทำเอานางแทบอยากร้องไห้แต่นางก็ต้อฝืนยิ้มไว้

แต่ว่า นางก็ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอย่างห้าปีก่อนแล้ว ห้าปีที่นางได้เกิดใหม่ นางมีความอดทนมากขึ้น

นางเดินไปและทำความเคารพ“หม่อมฉันอวิ๋นซึน เคารพฝ่าบาทเพค่ะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า