ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 291

สรุปบท ตอนที่ 291 ข่มขืนนาง: ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอน ตอนที่ 291 ข่มขืนนาง จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 291 ข่มขืนนาง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 291 ข่มขืนนาง

หลี่เฉินเย่นมองนาง “ทำไมวันนี้กุ้ยเฟยถึงได้ใส่ผ้าคลุมหน้าล่ะ”

ฉ่ายเวินยิ้มนิด ๆ “ช่วงนี้หน้าของหม่อมฉันมีผื่นขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ชินกับอากาศหรือเปล่า”

“ไม่ชินกับอากาศ?” หลี่เฉินเย่นยิ้มเบา ๆ ดวงตาฉายแววเหยียดหยาม “จริงสิ เจ้าหญิงเกิดที่แคว้นหนานจ้าว อากาศที่หนานจ้าวชื้นไม่ต่างกับอากาศของทางตอนเหนือขอแคว้นเหลียงสักเท่าไร ก็ควรอยู่ที่จะปรับตัวไม่ได้ ”

แต่ฉ่ายเวินเหมือนจะไม่ได้รู้สึกว่าคำพูดที่ตนเองพูดไปนั้นลวงโลกมากสักเท่าใดจึงพยักหน้าแล้วกล่าว “เพคะ เดี๋ยวก็คงค่อย ๆ ดีขึ้นเพคะ”

“ต้องการให้หมอหลวงมาตรวจเจ้าหญิงเสียหน่อยหรือไม่” หลี่เฉินเย่นเว้นระยะห่างกับนางเป็นอย่างดี เอ่ยถามอย่างสุภาพ ตีหน้านิ่งใส่นาง

“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เป็นห่วงเพคะ หม่อมฉันดีขึ้นมากแล้ว” ฉ่ายเวินยิ้มอย่างเจิดจ้า ดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับอย่างสดใส

นางอยากเผชิญหน้ากับศิษย์พี่ด้วยรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบอย่างถึงที่สุด รอยยิ้มของนางเผยให้เขาเห็นแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น นางอยากให้เขาจดจำเพียงความงดงามของนาง

แต่ด้วยเจตนารมณ์ของสวรรค์ สุดท้ายนางก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา แต่กลับต้องปรากฏตนในรูปแบบตัวตนที่ชั่วร้ายและหน้าตาอัปลักษณ์

แต่จะชั่วร้ายและหน้าตาอัปลักษณ์จริง ๆ หรือ ไม่ นางไม่คิดเช่นนั้น การนางพยายามให้ได้มาซึ่งความรักของตัวนางมีอะไรผิดด้วยหรือ แม้แต่ต้องกราบไหว้ผู้อื่นนางสามารถทำได้เพื่อเขาเพียงคนเดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามแย่งไปทั้งสิ้น

เวลาผ่านไปชั่วครู่ ความคิดมากมายก็ผ่านแวบเข้ามาในหัว หลี่เฉินเย่นมองความคิดส่วนใหญ่จากดวงตานางออก เขาหันกายแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อกุ้ยเฟยไม่ได้เป็นอะไรมาก งั้นข้าไปล่ะ”

หากเป็นไปได้ เขาไม่อยากมองหน้านางแม้แต่เค่อเดียว

แต่เขาไม่อาจปล่อยให้เฉินหยวนชิ่งเอาแต่เพ่งเล็งไปที่ชูเซี่ย เฉินหยวนชิ่งรู้ดีว่าเจ้าหญิงแห่งแคว้นหนานจ้าวผู้นี้คือฉ่ายเวิน แต่เขากลับแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

เสแสร้ง หรือกำลังวางแผนคิดหาวิธี หลี่เฉินเย่นไม่อยากรอ ไม่อยากคาดเดา เขาอยากพาฉ่ายเวินไปหาเฉินหยวนชิ่งให้เขาเผชิญหน้ากับศัตรู

อีกอย่าง วันนี้เขามีหน้าที่ควบคุมตัวนักโทษเฉินหยวนชิ่ง ไม่อาจเคลื่อนทัพเป็นการส่วนตัวได้

การเคลื่อนกองทัพเป็นบริเวณกว้างต้องได้รับมอบอำนาจจากเขาและขุนนางตำแหน่งไท่เว่ยเสียก่อน แต่หากจะเคลื่อนทัพหนึ่งหมื่นพันกว่าคน ด้วยขอบเขตอำนาจของเขาผู้เป็นเสนาบดีกรมฝ่ายการทหารบวกกับขุนพลใหญ่ก็สามารถทำได้

ที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องมองดูทหารที่เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะยังยอมรับเขาที่เคยเป็นแม่ทัพอินทรีอยู่หรือไม่

เขาเคยนำทัพมาก่อน จึงรู้ว่าใจที่จงรักภักดีของกองทัพบางทีก็ไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่เป็นบ้านเมืองกับผู้ที่รับตำแหน่งขุนพล เฉินหยวนชิ่งนำทัพพวกเขาไม่กี่ปีก็โน้มน้าวเหล่าทหารให้มาศรัทธาในตัวเขาได้แล้วหรือ

แต่ดูจากวันนี้แล้วมีความเป็นไปได้มากว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น เขาต้องป้องกันไม่ให้เฉินหยวนชิ่งถูกคนยุยงปลุกปั่น

ความจริงแล้วขุนพลขั้นสูงนั้นเปราะบางที่สุดและไม่อาจหลีกหนีการถูกเสี้ยมได้เลยแม้แต่นิด

ด้านนอกวังหลวง รถม้าของหลี่หยุนกางจอดรอคอยท่าแล้ว

หลังจาที่พบกับหลี่หยุนกางแล้ว ราชรถของฮ่องเต้ก็ออกเดินทางไปยังค่ายทหารอย่างโอฬาร

หลี่เฉินเย่นกับฉ่ายเวินนั่งร่วมราชรถคันเดียวกัน พื้นที่ในราชรถกว้างขวางมาก แต่หลี่เฉินเย่นกลับรู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง

เขาเลิกม่านขึ้น มองแสงแดดจากด้านนอกสาดส่องบนถนนที่เป็นพื้นหินสีน้ำเงินให้ความรู้สึกเหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งภาพมายาราวกับทุกสิ่งอย่างที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ความจริง

ฉ่ายเวินน้ำตาร่วง ผ้าคลุมหน้าถูกสูดเข้าไปเบา ๆ นางเบือนหน้า จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกถึงได้สงบลง “ดี ในเมื่อศิษย์พี่เลือกที่จะพูดอย่างเปิดอกทุกสิ่งอย่างเช่นนี้ งั้นก็พูดเถอะ ถูกต้อง ข้าเป็นเจ้าหญิงอวิ๋นซึนปลอมตัว ข้าคือฉ่ายเวิน”

“เจิ้นรู้ ตั้งแต่วันที่ได้เห็นเจ้าวันแรก เจิ้นก็รู้แล้ว” ไฟโทสะในดวงตาของหลี่เฉินเย่นจุดประกายลุกโชนขึ้นมาแล้ว ในที่สุดก็ไม่อาจปิดบังความเกลียดชังได้อีกต่อไป เขาจ้องนางราวกับต้องการจะเชือดเฉือนนองเป็นพันชิ้นเป็นหมื่น ๆ ชิ้น

“ทำไมข้าถึงกลับมา ท่านรู้หรือไม่” ฉ่ายเวินค่อย ๆ ดึงผ้าคลุมหน้าลงเผยให้เห็นใบหน้าที่อัปลักษณ์ บริเวณที่มีเส้นเลือดปูดโนนนั้นเด่นชัดราวกับไส้เดือนกำลังไต่ยั้วเยี้ย นางร้องไห้ "ท่านเห็นข้าเป็นแบบนี้แล้ว ใจท่านเจ็บปวดบ้างหรือไม่ เดิมทีข้าก็ไม่อยากรับความขมขื่นนี้ แต่เพื่อท่านแล้ว ข้ายอม"

ฉ่ายเวินไม่เคยเผยใบหน้าอัปลักษณ์ส่วนนี้ของนางต่อหน้าหลี่เฉินเย่น นางมัยจะไปพบเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามที่สุด แต่ให้ดูน่าสงสารอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องน่าสงสารแบบงดงาม

นี่นับเป็นครั้งแรกที่เปิดเผยใบหน้าอัปลักษณ์นี้

หลี่เฉินเย่นพูดอย่างชิงชัง “อย่าได้เอาบาปที่เจ้าทำมาโยนใส่หัวเจิ้น เจิ้นไม่ได้บังคับให้เจ้าทำสิ่งใด อีกอย่าง เจิ้มไม่ได้ถือว่าเจ้ากำลังได้รับความทุกข์ คนที่ถูกเจ้าทำให้ทุกข์ทรมานก็ตายไปมากพอแล้ว”

“ศิษย์พี่โทษข้าที่ข้าลงมือจัดการเฉนอวี่จู๋ใช่หนือไม่” ฉ่ายเวินพูดอย่างเศร้าโศก "แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าใจข้าทรมานเพียงใด ท่านไม่รักนาง แต่กลับต้องแต่นางเป็นภรรยา ข้าเสียใจแทนท่านก็เลยลงมือกำจัดนาง และเพื่อทำให้ท่านดีใจ"

“หุบปาก!” หลี่เฉินเย่นตะคอก “ข้าเสียใจที่แต่งกับนางหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าอย่าเอาความโหดเหี้ยมความเห็นแก่ตัวของเจ้ามาพูดอย่างเป็นไปตามหลักธรรมนองคลองธรรมเช่นนี้ ไม่มีใครขอร้องให้เจ้าทำแบบนั้น เฉินอวี่จู๋เป็นผู้บริสุทธิ์ แม้ข้าจะไม่รักนาง แต่นางก็ไม่ควรถูกเจ้าฆ่า”

“ใช่ เฉินอวี่จู่ไม่ควรถูกข้าฆ่า ฆ่านางไปแล้ว ข้าก็เสียใจเหมือนกัน แต่ตอนนั้นข้าคิดว่าชูเซี่ยจะรักษานางได้ ข้านึกไม่ถึงว่าชูเซี่ยจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้ ศิษย์พี่ คนที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ท่านยังจะรักอยู่อีกหรือ ท่านดูสิ ระยะเวลาผ่านมาหลายปี พิษก็เหมือนกัน แต่นางก็ไม่มีวิธีแก้ พิษของเสด็จแม่ก็เป็นข้าที่ช่วยเอาไว้..."

“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ นางไม่ใช่เสด็จแม่ของเจ้า เจ้าเองก็ไม่มีสิทธิ์จะเรียกนางเช่นนั้น อีกอย่าง ข้าไม่อยากได้ยินชื่อชูเซี่ยจากปากเจ้า สิ่งที่พูดออกมาจากปากเจ้า ข้าล้วนแต่รู้สึกว่ามันทำให้นางมัวหมอง”

เส้นเลือดบนหน้าผากของหลี่เฉินเย่นปูดขึ้น ความอดทนของเขามาถึงขีดสุดแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า