ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 292

ตอนที่ 292 เกลียดเข้ากระดูกดำ

หน้าของฉ่ายเวินพลันขึ้นคล้ำเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมาชัดเป็นพิเศษ ชัดจนกระทั่งสามารถมองเห็นการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดได้ ความอัปลักษณ์นี้ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองโดยตรง

นางขบเคี้ยวเขี้ยวฟันพูด "ท่านปกป้องนางเช่นนี้ ท่านคิดว่านางทำอะไรก็ถูกไปหมดอย่างนั้นหรือ ข้าจะบอกท่านให้ ท่านน่ะผิดแล้ว ท่านดูนางผิดไปแล้ว นางไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าฟื้นคืนชีพมาได้อย่างไร เป็นอาจารย์ของนางที่ช่วยข้าเอาไว้ ทำให้ข้าได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง"

“เจ้าโกหก!” หลี่เฉินเย่นไม่เชื่อนางแม้แต่คำเดียว เหตุใดนักบวชถึงได้ช่วยผู้หญิงโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้

“ข้าไม่จำเป็นต้องโกหก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ข้ายังจะมีอะไรต้องปิดบังท่านอีกหรือ ท่านคิดว่าข้าร่วมมือกับหลี่อวี๋นหลี่เพราะแผนแย่งชิงบัลลังก์ใช่หรือไม่ เปล่าเลย ก็แค่หลี่อวี๋นหลี่ส่งข้ากลับมาอยู่ข้างกายท่านได้โดยชอบด้วยเหตุผล รวมถึงกำจัดผู้หญิงที่ทำร้ายท่านรอบตัวท่านก็เท่านั้นเอง ทั้งหมดนี้ข้าทำเพื่อท่าน เพื่อท่านแล้ว ข้ายอมที่จะถูกหลี่อวี๋นหลี่ใช้ประโยชน์ เพื่อท่านแล้ว ข้าเอาตัวเองไปทดลองพิษอย่างนึกไม่เสียดาย แต่เมื่อไหร่ท่านถึงจะมองเห็นสิ่งที่ข้าต้องจ่ายไปบ้างเล่า ท่านเปลี่ยนไปแล้ว ท่านเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ข้ายังจำได้ว่าเมื่อก่อนนี้ท่าน... ”

“อย่าพูดเรื่องสมัยก่อนกับข้าอีก!” ทันใดนั้นหลี่เฉินเย่นยื่นมือออกมาแล้วบีบคอนาง ความโกรธอย่างบ้าคลั่งพลันบังเกิดในดวงตา นับตั้งแต่หลังจากขึ้นครองราชย์มา เขาก็มักจะแสดงสีหน้านิ่งขรึมของผู้ที่โตเป็นผู้ใหญ่ให้ผู้คนได้เห็น ไม่เหมือนกับนิงอันอ๋องเมื่อก่อนนี้ที่ทั้งอารมณ์ฉุนเฉียวและตรงไปตรงมา

แต่ในเวลานี้ฉ่ายเวินดึงความโกรธของเขาขึ้นมา ความสามารถในการอดทนอดกลั้นของเขาถูกนางฉีกสะบั้นลงในที่สุด

เลือดในเส้นเลือดของฉ่ายเวินเหมือนจะหยุดเดินแล้ว เลือดที่ถูกกดเอาไว้ในเส้นเลือดเหมือนกับจะระเบิดออกมาก็ไม่ปาน นางเอียงศีรษะ มุมปากยกตัวขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและชิงชัง

นางเค้นคำพูดออกมาจากลำคออย่างยากลำบาก “ฆ่าข้าแล้ว ท่านก็จะทำลายสัญญาสงบศึก ทำลายสัมพันธมิตร”

นิ้วมือของหลี่เฉินเย่นลั่นดังกรอบ ความโกณธคุ้มคลั่งในดวงตาไม่ลดลงแม้แต่นิด “ใช่ ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ หากฆ่าเจ้าแล้วก็จะทำลายข้อตกลงที่ทำร่วมกัน ผิสัจจะกับทางหนานจ้าว ยิ่งไปกว่านั้นคือทำให้หกแคว้นประณาม แต่ข้าก็ยังมีอีกเป็นร้อยวิธีที่ทำให้เจ้าตายทั้งเป็น”

เขาปล่อยมือ คำพูดของฉ่ายเวินเตือนสติเขา หลี่อวี๋นหลี่ไปหานางก็เพื่อสร้างพันธมิตร ความจริงไม่ใช่เพราะให้นางช่วยเขา แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือต้องการให้ฉ่ายเวินยั่วโทสะเขาจนเขาฆ่าฉ่ายเวิน

ฐานะของฉ่ายเวินคือเจ้าหญิงแคว้นหนานจ้าว การแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีครั้งนี้หกแคว้นต่างก็รู้กันทั่ว หากฉ่ายเวินตายก็จะเป็นการทำลายสัญญาพันธมิตร แคว้นหนานจ้าวก็มีเหตุผลที่จะยกทัพ เพราะเขาทำลายสัญญาพันธมิตร ทำลายสันติภาพ หากหนานจ้าวขอให้หกแคว้นช่วยเหลือ ต้องการกองกำลังเสริม บวกกับมีหลี่อวี๋นหลี่ ชะตาของแคว้นเหลียงคงได้เป็นที่แน่นอนแล้ว

หลี่อวี๋นหลี่รู้ถึงความลุ่มหลงของฉ่ายเวินดี รู้ถึงความยึดติดและความคับแคบของนาง ดังนั้น เขาจึงใช้เป้าหมายอันยิ่งใหญ่สุดของฉ่ายเวินให้เป็นประโยชน์จากจุด ๆ นี้

แน่นอนว่าหลี่อวี๋นหลี่รู้จุดอ่อนของพวกเขาแต่ละคนดี

ฉ่ายเวินเผยรอยยิ้มอันร้ายกาจ ดวงตาทั้งสองมีเปลวไฟลุกโชน “หลี่เฉินเย่น หากท่านไม่ปล่อยให้ข้าได้ใช้ชีวิตอยู่ดี ๆ ข้าก็ไม่มีทางปล่อยให้คนข้างกายท่านได้อยู่ดี ๆ เหมือนกัน”

หลี่เฉินเย่นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หากเจ้ากล้าทำร้ายคนข้างกายข้า ข้าก็จะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคืออยู่แบบจะอยู่แบบไม่อาจร้องขอความเป็นความตายได้”

ฉ่ายเวินแสยะยิ้ม “ถึงข้าตกนรก แต่จะยอมให้พวกท่านได้อยู่อย่างปกติสุขได้อย่างไร”

หลี่เฉินเย่นหันไปมองนอกหน้าต่าง พยายามใช้กำลังทั้งหมดที่มีทำให้โทสะและความชิงชังในใจสงบลง ในเวลานี้ เขาอยากจะฆ่าฉ่ายเวินจริง ๆ

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าฉ่ายเวินไม่คิดจะปล่อยให้เขาได้สงบนิ่ง นางพูดต่อว่า “ท่านคิดว่าข้าผิดหรือ ข้าทำไปทำไม ท่านไม่คิดบ้างเลยหรือ ศิษย์พี่ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านยังอยากจะวางตัวเมินเฉยได้อีกหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าข้าตาย ข้าก็จะลากท่านไปตายด้วย”

หลี่เฉินเย่นกำหมัดแน่น ภาพตรงหน้าพลันปรากฏใบหน้าของอาจารย์กับชิงเอ๋อและเฉินอวี่จู๋ขึ้นมา คนพวกนี้ล้วนแต่ตายเพราะเขา เขาวางตัวเมินเฉยได้อีกหรือ ใช่ เขาทำไม่ได้ แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังลากคนอื่นมาเดือนร้อนด้วยอยู่เสมอเพราะว่าฉ่ายเวินยังมีชีวิตอยู่

“ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบฟังคำพูดเช่นนี้” ฉ่ายเวินพูดต่อ น้ำเสียงเศร้าโศกกว่าเมื่อครู่นี้อยู่มากโข “แต่ข้าจะทำอะไรได้ ข้าเองก็จนปัญญา ข้าได้แต่อยู่แบบนี้ต่อไป ท่านจะรักก็ดี เกลียดก็ดี ชิงชังก็ดี ข้าล้วนแต่ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะข้ายอมแพ้กับตัวเองแล้ว”

เสียงของนางค่อย ๆ เงียบลง ต่อมาก็ร้องไห้ เสียงร้องไห้นั้นเศร้าโศกเป็นพิเศษ

หลี่เฉินเย่นนึกถึงตอนที่อาจารย์ตายแล้วรับนางมา นางในช่วงเวลานี้ก็ร้องไห้เศร้าโศกเช่นนี้แทบทุกคืน และทุกครั้งเขาก็จะอยู่เป็นเพื่อนนาง ปลอบนาง แต่ในใจของเขาเองก็เสียใจกับการจากไปของอาจารย์

ตอนนี้พอคิดดูแล้วก็น่าขันและน่าเศร้าเสียจริง ทั้งตนเอง ทั้งอาจารย์ และชิงเอ๋อ

พวกเขาปฏิบัติต่อแม่นางน้อยผู้นี้ด้วยความเอ็นดูอย่างถึงที่สุด แต่ด้วยใจที่มีความเป็นดูนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่านางจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้

“ข้ารู้ว่าหลี่อวี๋นหลี่ใช้ประโยชน์จากตัวข้า หากท่านไม่ฆ่าข้า สุดท้ายเขาก็ต้องฆ่าข้าแล้วป้ายสีใส่ท่าน กระตึ้นสงครามระหว่างสองแคว้น ข้าไม่ใช่คนโง่ ข้ารู้ดี แต่ข้ายินยอมพร้อมใจ ต่อให้ต้องตายเพื่อท่าน ข้าก็เต็มใจ นางทำแบบนี้ได้หรือเปล่า หากนางทำไม่ได้ แล้วนางมีสิทธิ์อะไรมาว่ารักท่านอย่างนั้นหรือ ศิษย์พี่ ตาท่านบอดหรือ ข้าทำไปมากมายขนาดนี้เพื่อท่าน...”

อยู่ ๆ หลี่เฉินเย่นก็เปิดม่าน "หยุดรถ!"

ราชรถหยุดตัวลง เขาทะยานตะวลวไปแล้วหยุดอยู่ตรงรถม้าของหลี่หยุนกาง จากนั้นก็ขึ้นไปบนรถม้า

ฉ่ายเวินตัวสั่นไปทั้งร่างจนฟันกระทบกันดังกึก "ศิษย์พี่ ท่านจะต้องเสียใจ"

หลี่หยุนกางไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจกับการมาของเขา เขาไม่คิดว่าหลี่เฉินเย่นจะอยู่กับฉ่ายเวินได้นานขนาดนี้ ความโกรธและความชิงชังในใจเขาเอ่อล้นออกมาแล้ว

"หากไม่ใช่เพราะต้องการเผชิญหน้ากับนางจริง ๆ ก็ฆ่านางเสีย!" หลี่หยุนกางพูดเสียงเบา

"หากไม่ใช่เพื่อคิดทำการณ์ใหญ่ ข้าก็ฆ่านางไปตั้งแต่เค่อแรกที่นางเข้าเมืองหลวงแล้ว"

“ลำบากเจ้าแล้วสิ!” หลี่หยุนกางรู้ว่าตอนนี้ไม่อาจฆ่านางได้ มิเช่นนี้สถานการณ์จะยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่

“อย่าพูดถึงนางเลย พูดแล้วข้าก็ขยะแขยงไปทั้งตัว” หลี่เฉินเย่นพูด

หลี่หยุนกางยิ้มแหย “เห็นเจ้าทำท่าแบบนี้แล้ว ก็ทำให้ข้านึกถึงเจ้าสมัยก่อน จำได้ว่าตอนที่เพิ่งแต่งงานกับหยางลั่วอี เจ้าก็เกลียดนางเข้ากระดูกแบบนี้”

“จะเหมือนกันได้ยังไง” หลี่เฉินเย่นกรอกตาไปมา “ถ้าเทียบกันแล้วตอนนั้นข้าก็แค่รำคาญหยางลั่วอี”

“เจ้าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ดูเป็นเจ้าขึ้นมาหน่อย ตั้งแต่ขึ้นครองราชย์มาเจ้าก็เอาแต่แบกรับภาระอันหนักหน่วงจนเกินไป โดยเฉพาะหลังจากที่คิดว่าชูเซี่ยตายไปแล้ว เจ้าก็ใช้ชีวิตอย่าง… อ่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้ชูเซี่ยเข้าวังในฐานะของที่เจ้านายของพรรคมังกรเหิน ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามาีภรรยา แต่พวกเจ้าก็ถือได้ว่าได้อยู่เคียงคู่กันล่ะนะ”

“เสด็จพี่ ข้ากลัวว่าข้าจะปกป้องนางไว้ไม่ได้ หากฉ่ายเวินยังอยู่แม้แต่วันเดียว ใจของข้าก็ไม่มีวันสงบ เรื่องฝีมือการวางยาของฉ่ายเวินชูเซี่ยกับจูเก๋อก็รับมือมันไม่ได้” หลี่เฉินเย่นพูดด้วยใจว้าวุ่น

“อย่าคิดมากเลย ค่อยเป็นค่อยไปเถิด” หลี่หยุนกางพูดปลอบ

หลี่เฉินเย่นชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็นึกถึงคำพูดของฉ่ายเวินและอดไม่ได้ที่จะมองหลี่หยุนกางแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้นางบอกข้าว่าคนที่ช่วยให้นางได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งคือท่านนักบวช ท่านว่าเป็นไปได้หรือไม่”

“นักบวช? อาจารย์ของชูเซี่ยหรือ?” หลี่หยุนกางพูดด้วยความแปลกใจ “เป็นไปไม่ได้ อาจารย์ของชูเซี่ยรู้นี่ว่านางเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงยังช่วยให้นางได้กลับมามีชีวิตอีก”

“ข้าก็ไม่เชื่อเช่นกัน” หลี่เฉินเย่นส่ายหน้า “บางทีนางอาจจะพูดซี้ซั๊วก็เป็นได้”

แต่ใจของหลี่หยุนกางกลับมีความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่าง เพราะท้ายที่สุกแล้วคนที่รู้เรื่องวิชาฟื้นคืนชีพนั้นมีน้อนนิดมาก หรือว่าจะเป็นนักบวชจริง ๆ แต่ทำไมนักบวชต้องทำเช่นนี้ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า