ตอนที่307 แยกคู่รักให้จากกัน
ชูเซี่ยตกใจมาก นางรีบเดินไปและกอดกุ้ยเอ๋อไว้เช็ดคราบเลือดที่ปากเขาเบาๆ ท่าทางที่อ่อนโยนของนางทำเอาหลี่เฉินเย่นเห็นภาพตอนที่นางกอดเด็กฝาแฝดไว้
“ท่านหมอชู เด็กตื่นแล้วใช่หรือไม่?เมื่อกี้ข้าได้ยินเสียงของเขา”หลิงกุ้ยท่ายเฟยรีบเข้ามา นางมองดูชูเซี่ยที่อุ้มลูกตัวเองไว้อยู่
มองดูเสื้อผ้าชูเซี่ยที่เปื้อนเลือดของกุ้ยเอ๋อ นางถึงกับเข่าทรุดอย่างอ่อนแรง นางรอฟังคำตอบชูเซี่ย
“ข้าใช้เข็มทองฝังหยุดจุดที่ทำให้เกิดการกำเริบของยาพิษ เมื่อกี้น่าจะเป็นเลือดที่เสียจากยาพิษ……”ชูเซี่ยพูดไปอย่างไม่ลังเล
หลิงกุ้ยท่ายเฟยมองชูเซี่ยนานมากก็ไม่ได้พูดอะไร นางคิดเองในใจว่าครั้งนี้ชูเซี่ยต้องช่วยลูกนางไว้ไม่ได้แน่ๆ
“เจ้าไม่มีวิธีแล้วเหรอ?เจ้าเคยบอกว่าเจ้าช่วยกุ้ยเอ๋อได้”หลิงกุ้ยท่ายเฟยถามเสียงเบา คำพูดนางเรียบง่ายแต่ก็ตรงไปตรงมา
นางกับเหลียงกวางเสียงไม่เหมือนกัน เหลียงกวางเสียงต้องการความรักนางและอยากครอบครองตำแหน่งตัวเองไว้ เขาอยู่ในราชการนานและขาดกันไม่ได้แล้ว
แต่นางถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ นางควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เสมอและเรื่องนี้ก็มีผลต่อชีวิตลูกชายนาง
“ไม่มีวิธีแล้ว ถ้าเจ้ารอ ข้าจะหาทางถอนพิษวิธีอื่น”ชูเซี่ยพูด
ชูเซี่ยเข้าใจว่าตอนนี้หลิงกุ้ยท่ายเฟยคงรอไม่ได้แน่นอนเพราะว่าฉ่ายเวินต้องช่วยกุ้ยเอ๋อได้แน่นอน
“ถ้ายาพิษในร่างของกุยเอ๋อตอนนี้หายแล้ว เจ้าจะช่วยกุยเอ๋อถอนพิษอีกอันร่างได้ไหม?”หลิงกุ้ยท่ายเฟยถามเสียงเบา คำพูดก็เกิดระวังขึ้นมา นางรู้ถ้านางไปเข้าภัคดีกับฉ่ายเวินงั้นนางกับชูเซี่ยก็จะกลายเป็นศัตรูกัน
นางไม่อยากเป็นศัตรูกับชูเซี่ยเพราะว่ากุยเอ๋อ
“ข้าพูดก่อนหน้านั้นแล้ว ข้าเป็นหมอถึงแม้เหลียงกวางเสียงกับข้าไม่ถูกกัน กุยเอ๋อก็เป็นคนไข้และอีกอย่างเขายังเป็นเด็ก”
ชูเซี่ยไม่ได้พูดเสียงดังแต่นางพูดอย่างหนักแน่นจริงใจ หลิงกุ้ยท่ายเฟยเห็นแล้วก็นึกถึงตอนนางพูดว่าจะช่วยเด็กสาวสิบห้าคนนั้นให้ได้
เหมือนนางจะเข้าใจแล้ว หลิงกุ้ยท่ายเฟยถอนหายใจเบาๆ
หลิงกุ้ยท่ายเฟยจับเก้าอี้ข้างๆพยุงตัวเองขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก นางเดินไปด้านหน้าชูเซี่ยช้าๆอุ้มกุยเอ๋อขึ้นมาจากนั้นก็ถอยหลังสองก้าวทันใดนั้นนางก็คุกเข่าลงตรงหน้านาง
ชูเซี่ยตกใจมากกำลังจะไปช่วยพยุงขึ้น หลิงกุ้ยท่ายเฟยก็พูดว่า: “ข้ากำลังขอบคุณแทนกุยเอ๋อ”
เพื่อให้หลิงกุ้ยท่ายเฟยวางใจชูเซี่ยไม่ได้เข้าไปขัดขวางแต่แค่มองดูหลิงกุ้ยท่ายเฟยขอบคุณเสร็จ นางก็ขึ้นมาและเดินออกไปช้าๆ
พอหลิงกุ้ยท่ายเฟยเดินออกไปแล้วชูเซี่ยถึงจะรู้สึกว่านางเหนื่อยมาก นางลุกขึ้นมาช้าๆถึงจะรู้สึกว่านางขาอ่อนมาก นางทรุดลงพื้นแต่ไม่คิดว่าจะทรุดลงไปอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่น
หลี่เฉินเย่นอุ้มชูเซี่ยไปที่เตียงแต่ไม่คิดว่าชูเซี่ยจะเอวหลี่เฉินเย่นไว้ต่อ หลี่เฉินเย่นแกะมือชูเซี่ยออกและพูดปลอบใจว่า: “เจ้าแค่ต้องการพักผ่อนเดี๋ยวเจ้าก็หาทางแก้ไขได้ข้าเชื่อเจ้า”
ชูเซี่ยมองดูหลี่เฉินเย่น นางยื่นมือไปและกอดเขาเอาไว้อีกครั้ง
“ตอนนี้ข้าท้อแท้มาก ข้าต้องยืมเจ้ามาเป็นกำลังใจ เจ้าก็ช่วยข้าหน่อยเถอะ”
คำพูดของชูเซี่ยทำเอาหลี่เฉินเย่นไม่กล้ขยับตัวเลย เขานานๆทีจะเห็นชูเซี่ยท้อแท้เช่นนี้ ในความทรงจำของเขานางเป็นคนที่เก่งและกล้าหาญแต่ว่าช่วงนี้ นางกลับแสดงหลายๆด้านของนางให้เขาเห็น
หลี่เฉินเย่นคิดว่าน่าจะมีพิษหลายอย่างมารวมกันนางก็เลยปวดหัว เขาไม่คิดเลยว่าพิษในร่างกายชูเซี่ยยังได้ถอน
“เฉินเย่น คืนนี้อยู่กับข้าเถอะ”ทั้งสองคนเงียบสงัดนานมากชูเซี่ยพูดขึ้นอย่างกล้าหาญ
หลี่เฉินเย่นมองดูเว่อนี้ไม่พูดอะไรแต่แค่ลูบผมชูเซี่ยเบาๆ สายตาอ่อนโยนเหมือนเขากำลังจับของที่หายาก
ชูเซี่ยคิดว่าหลี่เฉินเย่นปล่อยเรื่องที่เขากำลังอดทนไว้อยู่แต่ไม่คิดว่านางอยากจะให้หลี่เฉินเย่นอยู่กับนางอีกอย่างนึง
เพราะว่าเมื่อกี้ตอนช่วยกุยเอ๋อนางเสียงกำลังไปมากไม่นานชูเซี่ยก็หลับลงไปในอ้อมกอดของซองวีเฉินเย่น เขายิ้มและวางชูเซี่ยนอนลงบนเตียงจากนั้นก็หยิบหนังสือเล่มนึงมาและนั่งลงที่โต๊ะอ่านหนังสือเงียบๆ เขานั่งอ่านหนังสือตรงหน้ากับอันเหยียน
ทั้งสองนั่งอ่านหนังสือกันอย่างนั้นั้งคืน รอจนอันเหยียนรู้ว่าหลี่เฉินเย่นอยู่ตรงข้ามฟ้าก็สว่างแล้ว
“อันเหยียน เจ้ายังเด็กต้องรักษาร่างกายตัวเองดีๆถึงจะเรียนแพทย์ได้ เจ้าอ่านหนังสือแบนี้ไม่พักผ่อนบ้างจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมเอา เจ้าจะรักษาใครหรือเจ้าจะรักษาตัวเอง?”
ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากรบกวนอันเหยียนรู้ว่าถ้าพูดไปอันเหยียนคงไม่ฟัง ตอนนี้อันเหยียนออกมาจากหนังสือแล้ว เป็นผู้ใหญ่ควรพูดตักเตือนเด็กไว้ก่อน
อันเหยียนรู้ว่าหลี่เฉินเย่นจะพูดอะไรและรู้ว่าหลี่เฉินเย่นดีต่อเขา เขายิ้มและสัญญาว่าจะไม่ทำเช่นนี้อีก
แต่ว่าคำพูดของเขา หลี่เฉินเย่นไม่เชื่อหรอก ตอนนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงก็เหมือนอันเหยียนพอเห็นตำราแพทย์ก็มานั่งอ่านทั้งคืนทั้งวันเช่นนี้
อันเหยียนชอบการแพทย์ หลี่เฉินเย่นเดาว่าบ้านเขามีคนที่ไม่รักร่างกายตัวเองไม่หลับไม่นอนอย่างหมอ
นี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรเลย เขาเริ่มใอยากให้อันเยหียนเรียนแพทย์แล้ว
“ไปนอนกับอาจารย์หน่อยเถอะ เดี๋ยวข้าต้องไปประชุมเช้าแล้ว”หลี่เฉินเย่นตบไหล่อันเหยียนเบาๆก็ลุกขึ้นแต่ไม่คิดว่าเรื่องที่ตัวเองเฝ้าชูเซี่ยทั้งคืนแพร่กระจายไปทั่ววังแล้ว
ภายในห้องโถง จางเซียนฮุยมองดูหลี่เฉินเย่นที่อ่อนเพรียก็ถามไปว่า: “ฝ่าบาท เมื่อืนท่านอยู่ที่ตำหนักไฉ่เว่ยทั้งคืนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หลี่เฉินเย่นไม่ได้ตอบเพราะว่าคำถามมาเร็วมากเขาตอบไม่ทัน
“ฝ่าบาทลืมแล้วเหรอว่าหัวหน้าชูเป็นฮวงอุ้ยเฟยของฮ่องเต้องค์ก่อน ฝ่าบาททำตามใจตัวเองเช่นนี้ได้อย่างไร?ฝ่าบาทจะทรงปิดเรื่องพวกนี้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
จางเซียนฮุยเห็นหลี่เฉินเย่นไม่พูดอะไรในใจก็คิดว่าเขาต้องทำผิดแน่นอนดังนั้นคำพูดที่เขาพูดนั้นเหมือนกำลังไล่ต้อนให้หลี่เฉินเย่นยอมรับความผิด
“ฝ่าบาทเพื่อไม่ให้ราษฎรต้องกังวล เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงหัวหน้าชูขอทรงฝ่าบาทให้หัวหน้าชูออกจากวัง”เฉินหยวนชิงเห็นหลี่เฉินเย่นไม่พูดอะไรก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
จางเซียนฮุยกังวลว่าถ้าชูเซี่ยอยู่ในวังจะทำให้ลูกสาวตัวเองไม่ได้เข้าใกล้ฝ่าบาทเฉินหยวนชิ่งก็อยากแยกทั้งคู่ออกจากกัน ถ้าเรื่องที่ทำให้หลี่เฉินเย่นกับชูเซี่ยได้อยู่ด้วยกัน เขายอมทำหมด
ไม่รู้ว่าเริ่มเมื่อไหร่ นใจเข้าตัดสินใจแล้วว่าถ้าไม่มีชูเซี่ยน้องสาวตัวเองคงเป็นคนที่หลี่เฉินเย่นรักมากที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...