ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 308

ตอนที่308 เอาประโยชน์ส่วนรวมเบียนบังเป็นของส่วนตัว

สีหน้าของเฉินหยวนชิงกับจางเซียนฮุย ลูกน้องพวกเขาก็ตามมาเรื่องฃยๆ ตอนนี้พวกเขาคงสะใจมาก พวกเขาพูดอยากให้หลี่เฉินเย่นไล่ชูเซี่ยออกจากวังให้ได้ แน่นอนข้ออ้างพวกเขาก็ฟังไม่ขึ้นเลย

หลี่เฉินเย่นเข้าใจว่าคนพวกนี้พูดเหมือนตามกฎจารีตประเพณีแต่ก็พูดเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองกันทั้งนั้น

เขาหัวเราะอย่างเยือกเย็นทำเอาคนในที่ประชุมขนลุกและเขาก็พูดเสียงเบาไปว่า: “หัวหน้าพรรคมังกรเหินถ้าคิดว่าพระราชโองการไม่ดีก็สามารถปฏิเสธได้”

“แต่ว่าฝ่าบาท ท่านก็ยอมให้หญิงแพศยาคนนี้เดินเล่นวนเวียนอยู่ในวังเหรอพ่ะย่ะค่ะ?หลังวังมีสนมมากมาย ฝ่าบาทไม่รักษาไว้ดีๆแต่กลับไปมีใจให้นางผู้หญิงคนนี้และหญิงที่มีการแพทย์แปลกๆ กระหม่อมแค่เป็นห่วงฝ่าบาทกลัวนางจะมาใส่ยาเสน่ห์อะไรให้ฝ่าบาท”คนของจางเซียนฮุยพอได้ยินหลี่เฉินเย่นพูดเช่นนี้เขาก็เดินออกจากแถวและพูดขึ้น

คำพูดเขารุนแรง เหมือนกับชูเซี่ยเป็นหญิงไม่ดีจริงไ ถ้าไม่เป็นเพาะตัวเองที่กังวลเยอะเกิน หลี่เฉินเย่นอยากจะเห็นแก่ตัวหนึ่งครั้งฆ่าคนที่มาพูดไม่ดีชูเซี่ยไปให้หมด

“ฝ่าบาท ถ้าท่านไม่เห็นแก่หลังวังก็เห็นแก่สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างขึ้นมาเถอะพ่ะย่ะค่ะ อย่าโดนฟญิงคนนี้หลอกเลย……”ขุนนางพูดไปร้องไห้ไป

หลี่เฉินเย่นไม่อยากฟังที่พวกเขาพูด เขามองดูพวกนั้นอย่างเยือกเย็น มองดูพวกเห็นแก่ตัวพูด เขายิ่งดูก็ยิ่งเกลียดชังจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว เขาลองไห้เซี่ยวเสียงกับจางซือคงหุบปาก ตอนพูดกับพวกโง่พวกนี้เสียเวลาของเขามาก

“ฝ่าบาท ที่หลังวัง หรูกุ้ยเฟยกับลานกุ้ยเฟยคุกเข่าหน้าตำหนักไฉ่เว่ยแล้ว ขอให้ชูเซี่ยรักษาความบริสุทธ์ตัวเองและออกจากวังไปเอง”ลู่จ่งก่วนพูดเสียงเบาแต่ว่าคำพูดของเขาก็ทำให้หลี่อวิ่นกังที่นั่งข้างๆได้ยิน

ก่อนหน้านี้เขาแค่อยากมาดูว่ามีอะไรแต่ไม่คิดวาคนพวกนี้มากดดันหลี่เฉินเย่นเช่นนี้ถึงกับร่วมมือกับสนมพวกนั้นเพื่อไล่ชูเซี่ยออกไป

หลี่อวิ่นกังควบคุมอารมณ์โกรธตัวเองไม่ได้ เขาไม่สนว่าหลี่เฉินเย่นจะโดนอะไรเพราะว่าเขาเชื่อว่าน้องชายตัวเองต้องแก้ไขปัญหาได้แต่ว่าเขายอมไม่ได้ที่ผู้หญิงหลังวังพวกนั้นที่ยุ่งวุ่นวายอย่างกับแมลงวันไปยุ่งวุ่นวายกับชูเซี่ย

ชูเซี่ยเคยช่วยเหย่เอ๋อไว้เคยช่วยอันเหยียนและรักษาอันอี้ นางเป็นผู้มีพระคุณของบ้านเขา

คนพวกนี้กล้าดีอย่างไรมาพูดเช่นนี้ คิดว่าชูเซี่ยไม่มีคนช่วยหรือไง?

ลู่จ่งก่วนพึ่งพูดจบ หลี่อวิ่นกังก็ชักดาบออกมา เขาเดินไปหาพวกขุนนางนั้นช้าๆยิ้มและถามไปว่า: “ใครใช้ให้พวกเจ้ามาว่าชูเซี่ยเช่นนี้กัน?”

“กระหม่อมไม่ได้ใส่ร้ายนางแต่นางกับฝ่าบาทมีความสัมพันธ์แปลกๆ กระหม่อมมีความภัคดี ขอหวังเหย๋อย่าเข้าใจผิด”

ขุนนางคนนั้นพูดไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่หนักแน่นกว่ายิ่งตอนที่เห็นหลี่อวิ่นกังถือดาบมาด้วย หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงือ

“น้องชายพูดเรื่องเมือ่วานให้พวกเขาฟังสิอย่าให้พวกเขาคิดและพูดอะไรเสียหายเช่นนี้อีก”หลี่อวิ่นกังพูดเสียงดังและมั่นใจว่าหลี่เฉินเย่นต้องพูดอธิบายให้พวกนี้ฟัง

“เมื่อคืนหัวหน้าชูป่วย ข้าแค่ไปเฝ้านางหนึ่งคืน”หลี่เฉินเย่นพูดไป

“ฝ่าบาท ชายหญิงสองคนอยุ่ในห้องนั้น ใครจะไปรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง อีกอย่าง ท่านกับหัวหน้าชูมีลูกด้วยกันแล้ว”เฉินหยวนชิงพูดประชด เขาไม่เชื่อว่าหลี่เฉินเย่นกับชูเซี่ยไม่มีอะไรกันตอนคืนนั้น

“ฝ่าบาท ท่านต้องรักษาชื่อเสียงตัวเองไว้อย่าไปให้คนอื่นนินทาได้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขอพระองค์ทรงออกพระราชโองการ เชิญหัวหน้าชูออกจากวัง”

“ถ้ามีคนมาเป็นพยานว่าฝ่าบาทกับหัวหน้าชูบริสุทธ์ล่ะ?พวกเจ้ายังจะมั่นใจขนาดนี้ไหม?”หลี่อวิ่นกังถามขึ้น

เขาโมโหมากจนเกือบควบคุมอารณ์ไว้ไม่อยู่ คนพวกนี้ไม่คิดก่อนพูดเลย ลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเขามีหน้าที่รักษาราษฎรแต่ไม่ใช่มายุ่งเรื่องของฝ่าบาทเช่นนี้แต่ว่าตอนนี้พวกเขาเหมือนโดนบังตาไว้เหมือนเป็นศัตรูกับฝ่าบาทขอแค่เรื่องที่ทำให้ฝ่าบาทไม่พอใจเป็นหน้าที่ของพวกเขาแล้ว

“ที่กระหม่อมรู้ เมื่อวานไม่มีใครอยู่ตำหนักไฉ่เว่ยดังนั้นพยานที่เจิ้นหยวนอ๋องอยากได้คงไม่มี”จางเซียนฮุยไม่เชื่อว่าหลี่อวิ่นกังจะมีพยาน เขาคิดว่าหลี่อวิ่นกังโกรธเพราะโดนบีบบังคับ

ดังนั้นเขารอดูว่าหลี่อวิ่นกังกับหลี่เฉินเย่นสองพี่น้องจะทำอย่างไรชูเซี่ยคงต้องยอมแพ้ พอนางออกจากวังเขาก็ไม่เชื่อว่าลูกสาวเขาสวยขนาดนั้นจะไม่มีโอกาสได้ยังไง

“เมื่อคืนอันเหยียนซือจือไปตำหนักไฉ่เว่ยตั้งแต่เช้าแล้วจนวันนี้ยังไม่ปรากฏตัว”หลี่อวิ่นกังยิ้มและมองไปที่จางเซียนฮุยและพูดอย่างช้าๆชัดๆ

“อันเหยียนซือจือเป็นแค่เด็กไม่รู้เรื่องของผู้ใหญ่หรอกอีกอย่างพวกท่านก็เป็นคนใกล้ชินกัน เขาก็ต้องปกป้องพวกท่านอยู่แล้ว”เฉินหยวนชิงพูดอย่างยิ้มๆ เขามองดูแล้วหลี่อวิ่นกังแค่ดันเด็กออกมาเป็นที่ป้องกันของพวกเขาเฉยๆ

“เด็กเป็นคนพูดตรงมีอะไรก็พูดอย่างนั้นพวกเขาไม่พูดโกหกหรอก เจิ้นหยวนอ๋อง ท่านก็พาซือจือมาเถอะ มีเขาเป็นพยาน กระหม่อมก็จะทรงเชื่อฝ่าบาทกับท่านหมอชู”

“กระหม่อมเช่นกัน”

“กระหม่อมเช่นกัน”

“……”

ขุนนางที่อยู่ฝ่ายหลี่เฉินเย่นทนไม่ไหวก็พูดออกมา เห็นเฉินหยวนชิงบอกว่าอันเหยียนซือจือไม่น่าเชื่อ พวกเขาทนไม่ได้แล้วก็เลยพูดขึ้นมาตอบโต้บ้าง

“ลู่จ่งก่วนเชิญอันเหยียนซือจือมา”หลี่เฉินเย่นสั่งลู่จ่งก่วนไปแต่พอเขาพูดจบเฉินหยวนชิงก็พูดขึ้นมาว่า: “ใครจะไปรู้ว่าระห่างทางพวกท่านจะสอนให้เด็กพูดอะไรไหม”

“เฉินหยวนชิง เจ้าไปตำหนักไฉ่เว่ยไปเชิญอันเหยียนมาสิ เจ้าถามไปเลย”หลี่อวิ่นกังเห็นเฉินหยวนชิงพูดเช่นนั้นก็ตอบโต้เขาไป

เฉินหยวนชิ่งยิ้มพยักหน้าก็เดินออกไปเลย เขาไม่เชื่อว่าหลี่เฉินเย่นกับชูเซี่ยจะบริสุทธิ์ดังนั้นตอนนี้เขาอยากเจออันเหยียนมาก

“เฉินหยวนชิงตอนนี้ข้ายอมให้เจาทำตามใจตัวเอง ถ้าอันเหยียนเป็นพยานให้ฝ่าบาทกับชูเซี่ยได้ เจ้าต้องขอโทษ”หลี่อวิ่นกังพูดอย่างโมโห

“วางใจเถอะ ข้าเป็นเฉินหยวนชิงพูดคำไหนคำนั้น ”เฉินหยวนชิงพูดจบก็เดินออกไปเลย

เขาพออันเหยียนที่อยู่ในตำหนักไฉ่เว่ยพาออกมา มองดูสนมที่คุกเข่าหน้าตำหนักในใจก็สะใจมาก

ไม่มีว่าเมื่อไหร่กัน ความสุขของเขาคือการเห็นชูเซี่ยกับหลี่เฉินเย่นไม่สมหวังขอแค่เขาไม่มีความสุข เขาก็จะมีความสุขมาก

พอเขาได้ฟังอันเหยียนตอบ เขาก็นิ่งอึ้งยืนกับที่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า