ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 311

ตอนที่ 311 ปรากฏหนอนหมอนไส้

ฉ่ายเวินคิดไม่ถึงว่าการข่มขู่ชูเซี่ยของตนนั้นไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลย เมื่อเห็นสีหน้าที่ล้วนไม่สนใจใยดีเช่นเดิมของชูเซี่ย สุดท้ายแล้วนางจึงทำได้เพียงฝากถ้อยคำที่แสนโหดร้ายเอาไว้แล้วจากไป

จนกระทั่งล้วนลืมไปว่าเจตนาเดิมของตนที่มาที่นี่คือเพื่อทำให้ชูเซี่ยนั้นจากไป

ฉ่ายเวินเพิ่งจากไปไม่นาน ไทเฮาก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูของตำหนักฉ่ายเหว่ย นางยิ้มแล้วมองไปยังเหล่าผินเฟยที่คุกเข่าอยู่ที่ประตูของตำหนักฉ่ายเหว่ยด้วยใบหน้าที่เศร้าเสียใจ

“ไทเฮาเพคะ ท่านต้องตัดสินให้ความเป็นธรรมแก่พวกเรานะเพคะ ฝ่าบาททรงล้วนมองแต่รูปโฉมที่งดงามของหวงกุ้ยเฟยเช่นนี้ มิใช่เท่ากับว่าเป็นการตบหน้าพวกเราหรือเพคะ ขอไทเฮาทรงตัดสินให้ความเป็นธรรมแก่พวกเราด้วยเถิดเพคะ” ใบหน้าที่งดงามเย่อหยิ่งของหลันกุ้ยเฟยเมื่อมองเห็นใบหน้าที่อ่อนโยนยิ้มแย้มของไทเฮาที่มองมายังตน จึงรีบเดินเข่าเข้าไปเอ่ยอ้อนวอนกับไทเฮา

“ไทเฮาเพคะ ท่านจะปล่อยให้หวงกุ้ยเฟยทำให้วังหลังสับสนปั่นป่วนโดยไม่ห้ามปรามเช่นนี้จริงๆหรือเพคะ” เหลียงเฟยก็เอ่ยปากขึ้นเช่นเดียวกับหลันกุ้ยเฟย

พวกเขาล้วนรู้ว่าฮองไทเฮาเคยพบกับชูเซี่ย และก็รู้อีกว่าไทเฮาทรงชื่นชอบบุตรสองคนของชูเซี่ย แต่พวกเขาได้เคยลอบปรึกษากันแล้วถึงท่าทีของไทเฮาที่มีต่อชูเซี่ย พวกเขาจึงตกลงกันว่าถ้าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นฮองไทเฮาจะต้องปกป้องลูกของตนเอาไว้ก่อนอย่างแน่นอน

ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าที่จะทำให้ชูเซี่ยเสียชื่อเสียงตามอำเภอใจอยู่ที่นี่ พวกนางหวังอย่างยิ่งว่าไทเฮาจะสามารถออกหน้าได้ เพียงเท่านี้พวกเขาก็จะไม่ต้องหวาดกลัวอำนาจในมืออันแท้จริงของนายประตูของพรรคมังกรเหินอีกต่อไป

“ไทเฮาเพคะ เพื่อฝ่าบาทแล้วท่านก็ไม่ควรที่จะให้หวงกุ้ยเฟยอยู่ในวังได้อีกต่อไปแล้วเพคะ ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือคำพูดของผู้คนมิใช่หรือเพคะ”

“.....”

เมื่อมีหลันกุ้ยเฟยและเหลียงเฟยเป็นผู้นำ เหล่าผินเฟยก็ทยอยพากันเอ่ยปากคิดที่จะเกลี้ยกล่อมให้ไทเฮายินยอม แต่ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มของไทเฮาก็ค่อยๆจืดจางลงไป จนสุดท้ายเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เขียวครึ้มคล้ายโกรธเคืองขึ้น

สุขภาพของไทเฮานั้นไม่ดี จึงไม่ค่อยได้เอ่ยถามเรื่องราวในวังหลวง หวั่นเหนียงมองยังพวกพระสนมเหล่านั้นที่เอะอะโวยวายกันอย่างเลยเถิด แล้วเพิ่งจะบอกกล่าวเรื่องนี้แก่นาง นางรีบร้อนมาก็เพราะกลัวว่าบุตรของชูเซี่ยนั้นได้ถูกใส่ร้าย แต่ยังไม่ทันได้พบกับชูเซี่ย ผู้หญิงที่หวังว่าโลกจะวุ่นวายเพื่อที่จะได้บรรลุเป้าหมายของตนเองกลุ่มนี้ก็กล่าวหาขึ้นเสียก่อนแล้ว

ล่อลวงฝ่าบาท วังหลังสับสนวุ่นวาย ข้อกล่าวหาเช่นนี้ ช่างเสียจริง.......

แท้จริงแล้วชูเซี่ยมีความสามารถนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลายปีก่อนหน้านี้หรือว่าตอนนี้ ยืนยันได้จากความหลงใหลของฮ่องเต้พระองค์ก่อนท่มีต่อนางและความรู้สึกนึกคิดขอหลี่เฉินเย่นที่มีต่อนาง ขอแต่นางยินยอม นางก็สามารถสร้างหายนะให้กับบ้านเมืองและประชาชนได้โดยง่าย แต่ว่าเด็กน้อยผู้นี้กลับเลือกอีกเส้นทางที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ถึงตอนนี้คิดขึ้นมาแล้วนางล้วนเศร้าเสียใจไม่หยุด

ถ้าหากไม่ใช่ชูเซี่ยยอมอ่อนข้อชั่วคราวโดยเห็นแก่ส่วนร่วม ไม่ใช่ชูเซี่ยใส่ร้ายตนเอง พวกเขาจะยังคงเสพสุขเกียรติของนางสนมอยู่ในวังหลังเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน

หากทำเช่นนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้อีกแล้ว

“เป็นชูเซี่ยที่ช่วยถอนพิษให้กับอายเจีย ดังนั้นนางออกจากวังก็มิใช่เรื่องที่ไม่สามารถทำได้ อายเจียออกจากวังไปพร้อมกับนาง”

ฮองไทเฮาเอ่ยพูดจบก็หมุนตัวเข้าไปในตำหนักฉ่ายเหว่ย เหล่านางสนมผินเฟยที่หน้าประตูตำหนักล้วนอดไม่ได้ที่จะตกใจกัน

ตอนนี้น้อยครั้งมากที่ไทเฮาจะยื่นมือเข้ามาจัดการเรื่องราวในวังหลัง แต่ที่สุดแล้วพระองค์คือพระมารดาผู้ให้กำเนิดฝ่าบาท หากชูเซี่ยและฝ่าบาทได้ร่วมหัวจมท้ายกันจริง คนที่จะไม่พอใจมากที่สุดก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดฝ่าบาท แต่ทำไมไทเฮากลับทรงปกป้องชูเซี่ยกัน

หรือว่าเป็นเพราะเด็กฝาแฝดสองคนนั้นงั้นหรือ แต่ถึงแม้มารดาผู้ให้กำเนิดฝาแฝดคู่นั้นจะเป็นชูเซี่ย นั่นก็จะเปลี่ยนแปลงเรื่องจริงที่ว่าชูเซี่ยเป็นหวงกุ้ยเฟยของฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้ ให้คู่ปรับในเรื่องความรักของตนและลูกชายของตนอยู่ด้วยกัน ใจของไทเฮานั่นช่างทรง.....

พวกเขาเข้าวังมาทีหลัง ปีนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชูเซี่ยและฮ่องเต้พระองค์ก่อนนั้นเป็นข้อต้องห้ามในวังหลวง และหลังจากที่ชูเซี่ยเข้าวังไทเฮาก็ไม่ได้แสดงออกถึงความสนิทสนมที่ดูมากมายออกมา ยิ่งไปกว่านั้นชูเซี่ยก็ยังทำหน้าหน้าที่ควบคุมดูแลการตรวจประทับแทนไทเฮา ดังนั้นพวกนางจึงมีเหตุผลที่เหมาะสมในการคิดว่าอารมณ์ความรู้สึกของพวกนางนั้นไม่สามารถที่จะดีได้

แต่ว่าตอนนี้ ความหมายของไทเฮาก็เป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่งแล้วว่า พวกนางกำลังบีบคั้นให้ไทเฮาทรงออกจากวังหลวง

นี้เป็นโทษของความอกตัญญู การขับพวกนางไปตำหนักเย็นนั่นถือว่าเป็นโทษสถานเบาแล้ว

“ไทเฮาเพคะทรงละเว้นพวกเราด้วยเถิดเพคะ พวกเรา.....” เหลียงเฟยนำหน้าเข้ามาตอบโต้คิดที่จะอธิบาย แต่หลันกุ้ยเฟยกลับลุกตัวขึ้น จากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อสนมผินเฟยเห็นหลันกุ้ยเฟยทำเช่นนั้น ก็จึงทำได้เพียงจากไปด้วยความเศร้าหมอง

เหลียงเฟยมองทุกคนที่กระจัดกระจายแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่คิดว่าตนยังเอ่ยพูดไม่ทันจบ ก็รีบร้อนลุกขึ้นจากไป คล้ายกับว่าในตำหนักฉ่ายเหว่ยได้มีภัยพิบัติ ใหญ่หลวงเกินขึ้น ผู้ใดจากไปช้าก็อาจจะประสบความหายนะอย่างไรอย่างนั้น

“ชูเซี่ย เจ้าลูกคนนี้ใยถึงโง่เขลาเช่นนี้กันหรือ เจ้าคิดว่าตรามังกรเหินที่อยู่ในมือคือเหล็กที่ไร้ประโยชน์เช่นนั้นหรือ” ไทเฮามองชูเซี่ยที่มองตนอยู่ด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนโยน ในใจจึงอดที่จะโมโหไม่ได้ แต่ความโมโหส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนี้เป็นการโกรธตนเองก็ตาม นางคิดอยู่เสมอว่าตนเองนั้นทำให้ชูเซี่ยได้รับการใส่ร้ายที่ไม่เป็นธรรม

“หากนางสนมในวังอกตัญญูเช่นใดต่อเจ้าก็ตามแต่ เจ้าล้วนสามารถใช้ตรามังกรเหินนี้ปลดพวกนางออกจากตำแหน่ง” ไทเฮาบอกกับชูเซี่ยอย่างเอาจริงเอาจัง แม้ว่านางเองก็เข้าใจว่าชูเซี่ยนั้นรู้ดีว่าตรามังกรเหินนี้ใช้เพื่อสิ่งใดก็ตาม

“ไทเฮาเพคะ ถึงอย่างไรพวกนางก็เป็นสนมที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งอย่างถูกต้องเหมาะสมนะเพคะ” ชูเซี่ยรู้ดีว่าไทเฮานั้นทรงรักตนเองอย่างมาก ในใจจึงอดไม่ได้ที่จะความรู้สึกที่อบอุ่นใจขึ้น นางอธิบายกับไทเฮาด้วยน้ำเสียงที่ดูแผ่วเบา แต่ในคำพูดนั้นแฝงด้วยความเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย

อาศัยตรามังกรเหินนางสามารถก่อกรรมทำเข็ญในวังหลังได้โดยไม่มีความผิด แต่นางเป็นถึงเจ้านายแห่งพรรคมังกรเหิน ไม่สามารถเพราะกิเลสส่วนตัวของตัวทำลายฐานะที่เป็นอยู่ของพรรคมังกรเหินอยู่ในใจของผู้คนในวังหลังมายาวนานกว่าร้อยปีลงได้

พรรคมังกรเหินนี้ต้องเป็นผู้ปกป้องฝ่าบาท และก็ต้องปกป้องคุ้มครองลูกหลานของราชวงศ์หลี่ในทุกยุคทุกสมัย นางไม่สามารถทำลายพรรคมังกรเหินลงเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง

ไทเฮาถอนหายใจออกมา เมื่อมองยังชูเซี่ยอีกครั้งในดวงตาก็เต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอขึ้นมา ลูบไล้ใบหน้าของชูเซี่ยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า “นี่คงต้องลำบากเจ้าแล้ว”

“วันเวลาที่ยากลำบากที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้วเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันมีความรักทะนุถนอมของท่านและหรงท่ายกุ้ยเฟย มีคูดที่ดูถ่อมตัวและมีมารยาทอยู่รอบกาย มีบุตรสองคน ยังมีเพื่อนสนิทที่สุดเพื่อนที่ดีมากมาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้วเพคะ”

ในใจของชูเซี่ยนั้นพอใจเป็นอย่างมากแล้ว วันเวลาเช่นนี้เปรียบกับตอนที่อยู่ในเมืองหนานชานไม่รู้ว่ามีความสุขมากน้อยเพียงใดแล้ว อย่างน้อยที่สุดคนที่รักก็อยู่ข้างกายนาง คนที่อยากจะปกป้องก็ปกป้องตนเองเช่นกัน

แม้กลับเมืองหลวงมาเป็นเวลานานแล้ว แต่นางยังคงมักคิดถึงระยะเวลาห้าปีที่อยู่ในเมืองหนานชาน ความคิดถึงอันลึกซึ้งในค่ำคืนที่มืดมิดนั้นช่างคล้ายกับต้องการที่จะกลืนกินจิตใจทั้งหมดของนางไป

ดังนั้นตอนนี้เมื่ออนากที่จะดื่มสุราก็มีคนดื่มเป็นเพื่อน เมื่ออยากอ่อนแอก็มีไหล่กว้างที่สามารถพึ่งพิงอาศัยได้....

ชีวิตคนเป็นเช่นนี้ก็ควรที่จะรู้จักพอแล้ว

“ชูเซี่ย เจ้าเป็นหมอที่รักษาทั้งเป็นกุศลและยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้คนมากมาย สวรรค์ล้วนมองเห็นเจ้า เจ้าสามารถได้พบกับความสุข” ไทเฮาทรงเชื่อในพระพุทธศาสนา และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชูเซี่ยจะได้รับพรให้เจอกับความสุข

“นายท่านเจ้าคะ อาหมั่นให้คนของพรรคมังกรเหินทางนั้นส่งจดหมายมาแล้วเจ้าคะ บอกว่าทางเก้อโจวนั้นได้เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเจ้าคะ” ไฮเทาเพิ่งก้าวเท้าออกไปเชียนซานก็รีบร้อนเดินเข้ามาแล้วนำจดหมายฉบับหนึ่งวางในมือของชูเซี่ย

สองปีมานี้การขนส่งผลผลิตทางบกทางน้ำของเก้อโจวสูญเสียกำไรที่ได้รับมาไปอย่างไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก ตรวจสอบโดยละเอียดลงไปแล้วจึงพบว่าทางนนั้นได้มีการปลอมแปลงบัญชีขึ้น อาหมั่นได้คำนวณออกมาว่าค่าขนส่งที่สูญเสียไปจากทางบกและน้ำของเก้อโจวนั้นควรจะเป็นสินค้าจำพวกธัญพืชและเหล็ก

“ปีนี้เพิ่งจะตรวจสอบงั้นหรือ” ชูเซี่ยประหลาดใจเล็กน้อย นางคิดมาตลอดว่าภายในพรรคมังกรเหินเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่น มีเรื่องราวใดเกิดขึ้นฝ่ายในจะต้องรู้ได้เลยทันทีที่เกิดเรื่องขึ้นเสมอ กลับคิดไม่ถึงว่ามีคนในพรรคใช้กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลปิดตาผู้คนเอาไว้

และธัญพืชก็เพียงพอที่จะนำไปใช้หล่อเลี้ยงทหาร เครื่องเหล็กก็สามารถนำไปประกอบเป็นอาวุธ ทั้งสองประเภทนี้ล้วนอาจเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ใหญ่หลวงเป็นแน่

“หากมิใช่เพราะอาหมั่นคิดว่าบัญชีผิดปกติ กลัวว่าปีนี้ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพบเจอได้เป็นแน่” แม้พูดได้ว่าเชียนซานคือคนปรนนิบัติผู้นำของพรรคมังกรเหิน แต่สถานะที่แท้จริงกลับเหมือนเป็นผู้อาวุโสในพรรคมังกรเหิน ดังนั้นจดหมายยี้นางก็มีอำนาจที่จะพลิกอ่านได้

“ให้อาหมั่นไปตรวจสอบอย่างเงียบๆ เมื่อพบหนอนบ่อนไส้ก็ให้เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวอย่างรัดกุม จักต้องไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น” ชูเซี่ยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เบา นางคิดตลอดว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาอย่างที่ปรากฏออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า