ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 314

ตอนที่ 314 พิษที่เคยโดน

หน้าต่างของห้องขังมีปัญหา ว่านเหลียงพบจุดนี้อยู่ก่อนแล้ว นางไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย แต่อาจเป็นเพราะว่าในใจมีแผนการหนึ่งที่เรียกว่าจากไปแล้วก็เหลือคุณความดีให้เรียกขาน นางจึงอยากที่จะให้หลี่อวิ๋นลี่รู้ว่าคนของพรรคมังกรเหินไม่ใช่เมื่อใดที่เขาคิดจะจับตัวมาก็สามารถจับได้

แต่ยังไม่รอให้นางลงมือเอง อ๋องเก้าก็มาลงมือทำเช่นนี้เสียก่อน นางจึงทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมจากไปจากห้องขังนี้

ด้านนอกหน้าต่างคือหน้าผาที่สูงตระหง่าน ว่านเหลียงได้เคยประเมินมาก่อนแล้วโดยอาศัยความชำนาญของตนว่าสามารถที่จะได้รับบาดเจ็บได้ ครั้งนี้ถูกอ๋องเก้าผลักออกอย่างไม่ทันตั้งตัว นางได้จัดเตรียมการตกลงไปอย่างหวิดตายไว้อย่างดีแล้ว ในที่สุดการกระโดดลงไปที่เตรียมการไว้และถูกผลักออกมาอย่างไม่ได้เตรียมการ การควบคุมระดับความหนักเบาและจุดพลังล้วนมีการเปลี่ยนแปลง

ว่านเหลียงคิดไม่ถึงว่าบนหน้าผาจะมีเชือกที่ผูกติดอยู่กับต้นไม้บนขอบหน้าผา อีกทั้งตนก็สามารถยื่นมืออกไปจับเชือกเส้นนั้นได้

ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายก็รู้ว่านี่คงเป็นฝีมือของอ๋องเก้า เขาคิดที่จะช่วยเหลือตนจริงๆ สินะ

แต่เมื่อจับที่เชือกแล้วว่านเหลียงกลับคิดถึงอ๋องเก้า ในใจรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ในเมื่อมีวิธีการเช่นนี้ ตัวเขาเองก็ล้วนสามารถหนีออกไปได้

“ช่างซื่อบื้อเสียจริง คุณค่าของตนอยู่ที่ใดก็ล้วนไม่เข้าใจ” ว่านเหลียงก็เข้าใจดีว่าอ๋องเก้ายังคงยืนยันที่จะอยู่ในหลางฟงติ่งต่อไป จะต้องเป็นเพราะจะส่งข่าวไปให้พวกเขาแน่นอน แต่ทว่าที่ข้อมูลที่เขาบอกกับตนนั้น คุ้มค่ากับการที่เขาอ๋องเก้าผู้สง่าผ่าเผยไปสืบข่าวมาหรือไม่

แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่พอใจ แต่อ๋องเก้าก็ยังช่วยเหลือว่านเหลียงไปแล้ว ด้วยความชำนาญที่มีเพียงครึ่งวันว่านเหลียงก็จับเชือกไล่ลงไปจนถึงที่กลางลำธารบนหน้าผาด้านล่างอย่างปลอดภัย

มองยังเชือกที่ถูกพัดลงมาที่หน้าผาด้านล่างอย่างพอเหมาะพอดี ว่านเหลียงก็ร้องอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่ครู่หนึ่ง บุรุษผู้นี้รู้จักหลางฟงติ่งนี้อย่างดีแล้ว ทั้งระดับความสูงของหน้าผายังคำนวณออกมาได้อย่างแม่นยำ

“ให้คนที่มีความสามารถเช่นเจ้าอยู่ในหลางฟงติ่งนี้ต่อไปช่างเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงในชีวิตนี้ของข้าว่านเหลียง วางใจเถอะ ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่ในนั้นต่อไปนานหรอก” ว่านเหลียงเอ่ยพูดขึ้นกับเชือกในมือของตน ในใจกลับเสียใจอย่างมาก หากรู้ก่อนว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ควรที่จะนำตัวอ๋องเก้าลงมาด้วยกัน

การถอนใจอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจท่ามกลางความเสียดายอันใหญ่หลวงของว่านเหลียงนั้นดูเหมือนจะทำให้นางลืมไปแล้วว่าอ๋องเก้าเป็นคนผลักนางออกมาจากในห้องขังนั้น ไม่เหมือนกับทุกครั้งออกปฏิบัติภารกิจที่ตัวนางเป็นผู้ที่ตัดสินใจเองว่าจะอยู่หรือไป

แม้จะปลีกตัวจากหลางฟงติ่งมาได้ แต่การเดินจากหน้าผาด้านล่างออกไปก็จำเป็นที่จะใช้เวลา การติดต่อพรรคมังกรเหินก็จำเป็นต้องใช้เวลาเช่นกัน ดังนั้นเมื่อรอให้ว่านเหลียงได้พบกับชูเซี่ยก็เป็นเวลาสามวันให้หลังแล้ว

เดิมที่ชูเซี่ยที่กังวลอย่างมากกับการตามหาร่องรอยการหายตัวไปของว่านเหลียง เมื่อนางได้พบว่านเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน อยู่เป็นเวลานานโดยที่ไม่มีปฏิกิริยาใดออกมา

“นายท่าน เป็นข้าตัวจริงเสียงจริงเพคะ ข้าคือว่านเหลียงจริงๆเพคะ” ก่อนหน้าที่จะเข้าวังหลวงว่านเหลียงก็รู้ถึงเรื่องราวของการที่มีคนแอบอ้างชื่อของตน ตอนนี้จึงพบว่าชูเซี่ยกำลังจ้องมองมาที่ตน ในใจก็สับสนขึ้นมาทันที

“เจ้าหลบหนีออกมาได้อย่างไร” ชูเซี่ยย่อมรู้ดีอย่างแน่นอนว่าว่านเหลียงที่อยู่ตรงหน้าคือตัวจริง รูปโฉมภายนอกของตนสามารถปลอมขึ้นมาได้ แต่ลักาณะของท่าทางและจิตใจนั้นปลอมขึ้นมาไม่ได้ เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าว่านเหลียงจะสามารถหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากสถานที่ที่นางหาไม่พบได้

“อ๋องเก้าช่วนเหลือข้าหลบหนีออกมาเจ้าคะ” ว่านเหลียงเอ่ยตอบขึ้นอย่างจริงจัง

“อ๋องเก้างั้นหรือ” เมื่อได้ยินว่านเหลียงพูดถึงอ๋องเก้า ชูเซี่ยก็ยิ่งประหลาดใจ นางทั้งตกใจและดีใจอย่างมากขึ้นมาทันที มีความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยขึ้นมาบางส่วน

“เขาอยู่ที่หลางฟงติ่งเพคะ”

“เขายังสบายดีใช่หรือไม่”

เดิมทีมีคำพูดมากมายที่ต้องการจะเอ่ยถาม แต่เมื่อได้ยินว่าเขาอยู่ในหลางฟงติ่งข้อสงสัยในใจของชูเซี่ยที่มากที่สุดจึงมีเพียงประโยคนี้เท่านั้น

“หากเจาะจงลงไปข้าไม่แน่ใจเจ้าคะ แต่เขาให้ข้านำข่าวมาบอกแก่ท่านว่า พิษบนตัวของหลวี่หนิงท่านเคยพบมาก่อนเจ้าคะ ยังมีข้างกายของฝ่าบาทมีไส้ศึกเจ้าคะ”

“ข้าเคยพบเจอมาก่อนงั้นหรือ” ชูเซี่ยมองยังว่านเหลียงอย่างประหลาดใจ ในหัวคิดถึงพิษที่ตนเคยพบเจอวนไปมาหลายรอบ สุดท้ายกลับมีความคิดใดๆทั้งสิ้นผุดขึ้นมา

ว่านเหลียงเห็นสีหน้าของชูเซี่ยที่ตะลึงงันไร้ความรู้สึก ก็อดไม่ได้ที่จะไอเตือนขึ้นมาเบาๆ สติของชูเซี่ยจึงกลับมา เอ่ยกับว่านเหลียงว่า “ข้างกายของฝ่าบาทมีคนของหลี่อวิ๋นลี่เรื่องนี้พวกเรารับทราบแล้ว ตอนนี้ยังคงสืบและตรวจสอบอยู่เช่นกัน”

“เช่นนั้นก็ดีแล้วเจ้าคะ” เมื่อรู้ว่าข้างกายของฝ่าบาทมีไส้ศึกว่านเหลียงก็ตกใจจนร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ ตอนนี้รู้ว่าชูเซี่ยก็ได้รับทราบแล้ว หากยังสงบอารมณ์เช่นนี้แล้ว ในใจนางจึงรู้สึกวางใจลงได้

ว่านเหลียงมองเห็นชูเซี่ยใจลอย ก็ยืนอยู่ข้างกายของนางอย่างเงียบสงบ รอให้สติของชูเซี่ยกลับมา ไม่รอให้เวินเอ่ยปากนางก็คุกเข่าลงด้านหน้าของชูเซี่ยอย่างเอาจริงเอาจัง

“นายท่านเจ้าคะ ว่านเหลียงอยากที่จะเข้าไปที่หลางฟงติ่งอีกครั้งเจ้าคะ”

“ไม่ง่ายที่จะหนีจากความตายมาได้ เขายังคิดที่จะเข้าไปในหลางฟงติ่งเจ้าเปลี่ยนไปจนเสียสติแล้วหรือไร” ชูเซี่ยเห็นว่านเหลียงเอ่ยขอร้องเช่นนี้ขึ้นในใจก็รู้สึกโมโหขึ้นมาบางส่วน

หลางฟงติ่งคือที่มั่นของหลี่อวิ๋นลี่ ใช่ว่าผู้ใดอยากที่จะเข้าไปก็สามารถเข้าไปได้ ถึงแม้นางจำเป็นต้องให้คนแทรกซึมเข้าไปในหลางฟงติ่ง นางก็ไม่สามารถทำตามอารมณ์ที่ส่งให้ว่านเหลียงไปตายได้

“นายท่าน ว่านเหลียงอยากที่จะไปนำอ๋องเก้ากลับมาเจ้าคะ”

“ว่านเหลียง เจ้าพาเขากลับมาไม่ได้หรอก” ชูเซี่ยไม่คิดที่จะโจมตีว่านเหลียง กลับยังคงนำความจริงพูดออกมา

คำพูดของชูเซี่ยว่านเหลียงเองก็เข้าใจดี จากข้อมูลที่อ๋องเก้าบอกแก่นางก็มองออกได้ว่าหลี่อวิ๋นลี่ก็ไม่ได้เชื่อถือในตัวเขา ดังนั้นเขาจึงร้เพียงข้อมูลบางส่วนภายนอกเท่านั้น เขาสามารถที่จะส่งว่านเหลียงออกมาจากหลางฟงติ่งอย่างปลอดภัย นั่นก็ถือได้ว่าเขามีความสามารถพอที่จะออกจากที่นั้นเช่นกัน เขาไม่ออกจากที่นั่น ไม่นอกเหนือไปจากเหตุผลสองข้อนี้ หนึ่งคือหลี่อวิ๋นลี่ไม่อนุญาตและสองเขามีเหตุผลส่วนตัวที่ยังจะอยู่ในหลางฟงติ่งต่อ

“แต่ว่า....” ว่านเหลียงยังคิดที่จะพูดต่อไปอีก แต่คำพูดยังไม่ออกจากปาก นางกลับล้วนไม่พูดอะไรออกมาซะอย่างนั้น

พรรคมังกรเหินไม่ใช่คนที่สิ่งใดโดยขาดความยั้งคิด และการขอร้องเมื่อครู่ของตนความจริงแล้วเป็นการกระทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบไปเสียแล้ว

นางอยากที่จะพาอ๋องเก้ากลับมา เพียงเพราะว่าเขาคิดช่วยเหลือนาง ถึงแม้จะทำลายแผนการของนางก็ตาม

“ไม่มีแต่อะไรทั้งสิ้น ฉ่ายเวินจับเจ้าไปแล้วป้อนพิษให้แก่เจ้าก็เพราะว่าผิวหนังของเจ้านั้นดี ตอนนี้นางควรที่จะยังไม่สามารถรวบรวมหญิงสาวที่มีผิวหนังที่ดีสิบห้าคยได้ครบ ดังนั้นหลายวันนี้เจ้าก็ออกจากวังไปก่อน พาคนของอ้านทั่นเหมินไปตรวจสอบเรื่องราวในเก้อโจว รอให้ข้าช่วยหญิงสาวคนอื่นๆออกมาได้แล้วเจ้าค่อยกลับมาก็แล้วกัน ”

ชูเซี่ยไม่อยากที่จะเอ่ยอะไรที่มากความกับว่านเหลียงแล้ว นางก็กังวลเรื่องอ๋องเก้า ที่สุดแล้วเขาก็เคยอยู่ร่วมกับนางอย่างจริงใจ

โดยเฉพาะการที่เขาช่วยเหลือว่านเหลียง ทั้งยังส่งข่าวกับมาให้กับตน

แต่นางก็เข้าใจดี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะกระทำอันใดด้วยอารมณ์ชั่ววูบ อ๋องเก้านั้นนางจะต้องช่วยกลับมาแน่นอน แต่ไม่ใช่ในตอนนี้

ว่านเหลียงดูคล้ายลังเล แต่ก็รับฟังคำสั่งแล้วจากไป

หลังจากที่ว่านเหลียงจากไป ชูเซี่ยก็ให้คนไปเชิญจูเก๋อหมิงมา ถึงแม้ไม่ได้รับการแจ้งข่าวของว่านเหลียง นางก็ตรวจพบได้ยังไม่แน่ชัดถึงพิษในตัวของหลวี่หนิง นางเหมือนเคยจะรู้จักมันมาก่อน

ชูเซี่ยนำเอารายชื่อพิษทั้งหมดที่นางได้พบเจอมาจัดเรียงออกมา หลังจากนั้นก็เปรียบเทียบไปทีละอย่างกับจูเก๋อหมิง สุดท้ายทั้งสองคนจึงนำเอาความสนใจทั้งหมดไปไว้ที่ซื่อซินต้าน

ปีนั้นฉ่ายเวินเคยใช้พิษประเภทนี้ให้หลี่เฉินเย่นแต่งตั้งนางเป็นกุ้ยเฟย ตอนนั้นนางได้นำเลือดมาตรวจสอบพิษที่หลี่เฉินเย่นได้รับ

พิษในร่างกายของหลวี่หนิงและซื่อซินต้านนั้นมีความคล้ายคลึงกัน แต่กลับไม่เหมือนกันซะทีเดียว

“เจ้าน่าจะให้เชียนซานลองเสียเลือดสักนิดนะ” จูเก๋อหมิงเสนอแนะขึ้นมาอย่างเบาๆ

หากเป็นซื่อซินต้านจริง เพียงต้องพบกับเห็นเลือดของคนที่รัก แต่หลวี่หนิงได้รับซื่อซินต้านจริงใช่หรือไม่ ความรู้สึกของเขาไม่ได้มีผิดปกติใดๆเลย แต่เพียงเขาและเชียนซานอยู่ด้วยกัน พิษของเขาก็กำเริบขึ้น นี่ก็คล้ายคลึงกับซื่อซินต้านอีกจุดหนึ่ง

“ยังไม่ต้องทดสอบหรอก บังเอิญ.......” ชูเซี่ยไม่กล้าเสี่ยง แม้ที่สุดแล้วข่าวสารที่ได้มาจากทางหลี่อวิ๋นลี่มานั้น นางยังจำได้ว่าหลี่อวิ๋นลี่ให้เหลียงกวางเสียงส่งยาแก้พิษมา นาแก้พิษก็คือยาแก้พิษ เพียงในยาแก้พิษอาจมีพิษอย่างอื่นปะปนเข้ามาด้วย

นางและอ๋องเก้า ไม่ได้พบกันมาห้าปีแล้ว ถึงแม้อ๋องเก้าจะดูคุ้มค่าที่เชื่อถือ นั่นหมายความว่าข่าวนี้เขาคงจะไปแอบฟังมาเป็นแน่ แล้วจะเป็นความตั้งใจของหลี่อวิ๋นลี่ที่ให้อ๋องเก้าส่งข่าวออกมาหรือว่า....

ยาแก้พิษนี้ เกี่ยวข้องกับความสุขของหลวี่หนิงและเชียนซาน ก็ยังเกี่ยวพันถึงชีวิตของหลวี่หนิง นางไม่กล้าที่จะเสี่ยง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า