ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 321

ตอนที่ 321 ออกรบ

“จิงโม่จ้ะ แม่เจ้ากับพ่อบุญธรรมเจ้าอยู่ด้วยกันหรือเปล่า?” ฉ่ายเวินเห็นว่าอยู่ ๆ จิงโม่ก็หยุดพูด จึงถามเสียงอ่อนโยน

จิงโม่รู้ว่าสิ่งนี้คือคำตอบที่ฉ่ายเวินต้องการ ดังนั้นจึงผงกหัวทันที จากนั้นพูดว่า : “ทุกครั้งคือพ่อบุญธรรมมาหาท่านแม่”

“งั้นจิงโม่ วันหลังเจ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกเสด็จพ่อเจ้าดีหรือเปล่า?” นัยน์ตาของฉ่ายเวินเต็มไปด้วยอารมณ์ยิ้ม นางแทบจะภาพตอนโกรธของศิษย์พี่ได้เลยหากว่าได้รู้เรื่องพวกนี้ ถ้าชูเซี่ยในสายตาของเขาไม่ใช่อย่างที่ชูเซี่ยแสดงออก นั่นจะทำให้ศิษย์พี่เห็นถึงตัวเองที่ทำเพื่อเขาอย่างเงียบๆมาตลอดแน่ๆ ฉ่ายเวินมีความมั่นใจ

“ว่าดีก็ดี แต่ว่าตอนนี้ข้าหิวแล้ว ข้าอยากกินข้าว” จิงโม่ไม่กล้ารับปากอยู่แล้ว เรื่องที่ตัวเองแต่งขึ้นมาถ้าหากเสด็จพ่อได้ยิน งั้นท่าแม่ก็คงต้องรู้แน่ ถึงเวลานั้นตัวเองคงต้องถูกตีแน่

“พี่สาวคนสวย ข้าหิวแล้ว ถ้าเสด็จพ่อรู้ว่าข้าหิว ต้องเสียใจแน่เลย” ฉองเหลาก็เอามือลูบท้องน้อยๆของตัวเองไปพลางพูดอย่างลำบากใจไปพลาง

“งั้นพวกเจ้าอยากกินอะไรบอกหมู่เฟย ข้าไปเอามาให้ ที่นี่ยังมีขนมจากหนานจ้าวด้วย พวกเจ้าลองกินหน่อยดีไหม?”

ตอนนี้ฉ่ายเวินอยากจะทำดีกับเด็กสองคนนี้ เพราะว่าศิษย์พี่ใส่ใจพวกเขา เพราะว่าสิ่งที่พวกเขารู้ แล้วก็หวังว่าพวกเขาจะพูดให้ตัวเองบ้าง

ดังนั้นเด็กสองคนนี้ก็กินอาหารที่ตำหนักของฉ่ายเวินทั้งหมดไปรอบหนึ่งอย่างสบายใจ หลังจากกินเสร็จทั้งสองก็ลูบท้องน้อยๆกลมๆแล้วเสนอว่า : “พี่สาวคนสวย พวกเราอยากเล่นซ่อนแอบ”

“ซ่อนแอบหรือ? ตอนนี้ดึกแล้ว” ฉ่ายเวินมองดูเด็กทั้งสองอย่างลำบากใจ สีหน้าลังเล

“พี่สาวคนสวยไม่เต็มใจ พวกเราไปหาเหลียงหมู่เฟยดีกว่า สวนของนางใหญ่” จิงโม่เห็นว่าฉ่ายเวินลำบากใจ ปรึกษากับฉองเหลา

ฟังคำเรียกต่อนางว่าพี่สาวคนสวยของเด็กๆ แต่กลับเรียกเหลียงหมู่เฟย ในใจฉ่ายเวินก็จะเป็นบ้า ลืมไปสิ้นเชิงว่าเมื่อครู่นี้ตอนที่เด็กทั้งสองขอนางให้รับไว้ก็เรียกนางว่าหมู่เฟย

“งั้นพวกเราไปเถอะ ระหว่างทางไปบอกเสด็จพ่อด้วย เหลียงหมู่เฟยชอบพวกเราจริง ไม่เหมือนใครบางคน...” คำพูดท้ายๆของฉองเหลายังตั้งใจมองฉ่ายเวินแวบหนึ่ง สายตานี้เหมือนกับยืนยันว่าฉ่ายเวินไม่ชอบพวกเขาอย่างนั้น

“ตำหนักของข้าก็ไม่เล็ก ข้าเล่นซ่อนแอบเป็นเพื่อนพวกเจ้าดีหรือเปล่า?” สุดท้ายแล้วฉ่ายเวินก็สะกดความกังวลในใจไว้ ยิ้มแล้วพูดกับเด็กทั้งสอง

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่สาวคนสวยดีที่สุดเลย” หลังจากฉองเหลาและจิงโม่มองหน้ากันอย่างได้ใจแวบหนึ่ง ฉองเหลาก็เข้าไปกอดฉ่ายเวินเอาไว้ ตื่นเต้นและพอใจ

คู่แฝดเป็นคนตั้งกฎเกณฑ์ คู่แฝดรับหน้าที่ซ่อน ฉ่ายเวินต้องหาพวกเขา ใครแพ้ต้องไปหาเสด็จพ่อพูดความในใจ

ฉ่ายเวินเห็นด้วยกับเกมที่มีแต่ชนะไม่มีแพ้นี้ นางหลับตารอให้ทั้งสองซ่อนอย่างว่าง่าย

ฉ่ายเวินรู้สึกว่าตัวเองต้องหาคู่แฝดเจอได้เร็วแน่ๆ ยังไงที่นี่ก็เป็นตำหนักของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วนางก็พลาด

เพราะว่านางหาหมดทุกห้องแล้วก็หาไม่เจอแม้แต่เงาของเด็กทั้งสอง นางรีบไปถามทหารที่เฝ้าอยู่หน้าประตู ยืนยันว่าคู่แฝดไม่ได้ออกไป

ในใจนางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เด็กสองคนนั่นคงไม่บังเอิญเข้าไปในห้องลับหรอกมั้ง? คิดได้ถึงความเป็นไปได้นี้ ใบหน้าของฉ่ายเวินก็เขียวไปหมด

นั่นเป็นสถานที่ที่คนข้างนอกไม่มีทางรู้ คู่แฝดยิ่งไม่น่าจะรู้

นางรีบไปยังตำหนักนอนของตัวเอง หมุนขยับป้ายเย้าหวัง เตียงของนางก็ปรากฏถ้ำออกมาหนึ่งถ้ำ ในถ้ำเห็นชัดเจน มีบันไดลงไปใต้ดิน

ฉ่ายเวินตรวจสอบโดยรอบอย่างละเอียด ดูแล้วว่าไม่มีร่องรอยการขยับมาก่อน นางถึงได้วางใจลง

แรกทีนางได้เตรียมตัวไว้แล้ว ถ้าหากเด็กทั้งสองบุกเข้าไปในห้องลับจริง นางได้แต่ฆ่าปิดปากเท่านั้น

ฉ่ายเวินตรวจสอบโดยรอบห้องลับเรียบร้อยก็จากไป กลับออกมาก็มาขยับเทวรูปเย้าหวังอีกครั้ง รูขนาดใหญ่บนเตียงก็หายไป

ฉ่ายเวินเก็บผ้าปูเตียงเรียบร้อบก็จากไป แต่ไม่เห็นตาสองคู่มองอย่างดีใจที่มองหลังนางจากหน้าต่างไม่ไกลนัก

“ฉองเหลา เจ้ารีบไปกลับบอกท่านแม่ พวกเราพบห้องใต้ดินในห้องของผู้หญิงไม่ดี”

“ทำไมข้าต้องไป?” ฉองเหลาไม่พอใจ ก่อนหน้านี้พวกเขารู้ว่าลุงหนอนผีเสื้อไม่เป็นมิตรกับท่านแม่ ตอนที่อยากเข้าไปบรรเทาความสัมพันธ์ จิงโม่เองก็บอกให้ตัวเองจะไปทำอะไร จากนั้นตัวเองเสี่ยงอันตราย ผลสุดท้ายก็คือจิงโม่ได้กินถังหูลู่ติดกันสิบกว่าวัน และตัวเองต้องดูจิงโม่กินถังหูลู่ติดต่อกันสิบกว่าวัน

ดังนั้นครั้งนี้ เขาจะไม่ติดกับอีกแล้ว

จิงโม่มองดูฉองเหลาที่ท่าทางหนักแน่น สุดท้ายก็ไม่ดึงดันอีก แต่ว่าปล่อยให้ฉองเหลาอยู่ที่นี่นางไปแจ้งข่าว นางก็ไม่วางใจ ดังนั้นนางจึงกัดฟันแนะนำว่า “พวกเราเข้าไปพร้อมกันดูหน่อยไหม?”

“ดี ดี” ฉองเหลาผงกหัวไปพลางเปิดหน้าต่างที่ปิดอยู่ไปพลาง

เงาร่างเล็กๆสองร่างรีบแอบเข้าไปในตำหนักนอนของฉ่ายเวิน พวกเขาไม่ได้แม้กระทั่งเปิดกลไกออกด้วยซ้ำงดูจืงมองอย่างดีใจถึงได้วางใจลงงต้องรู้แน่ ถึงเวลานั้นตัวเองคงต้องถูกตีแน เงาร่างก็เข้าไปในห้องลับแล้ว

แต่ว่าทั้งสองก็ดูถูกการป้องกันของห้องลับนี้ พวกเขาเพิ่งบุกเข้าไป ก็มีลูกธนูพุ่งมาหาพวกเขา ถ้าเป็นคนอื่นคงต้องตายเป็นแน่ แต่ว่าคู่แฝดต่างจากคนทั่วไป ภายในที่มืดพวกเขาก็ยังมองเห็นลูกธนูที่พุ่งมาหาตัวเองได้

จิงโม่กลับฉองเหลามองหน้ากัน ทั้งสองยื่นมือไปกอดกันไว้ จากนั้นก็กลิ้งออกไปเหมือนลูกบอล หลบลูกธนูที่พุ่งมายังพวกเขา

แต่ว่าตอนที่พวกเขาสัมผัสโดนพื้นอยู่ๆก็มีใบมีดโผล่ขึ้นมา ......

ชูเซี่ยไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปเมื่อไหร่ นางรู้สึกว่าเข้าไปยังโลกหนึ่งที่ไม่รู้จัก ในกลิ่นเลือดมีกลิ่นเย้ายวนปนด้วย เด็กสองคนที่นางเป็นกังวลกำลังประสบอันตรายรอบแล้วรอบเล่าอยู่ในห้องลับ นางมองดูเด็กๆที่ตอนแรกรับมืออย่างง่ายดายจนตอนท้ายที่รับมืออย่างยากลำบาก

ชูเซี่ยมองดูมีดที่มีเลือดติดที่พุ่งไปยังหลังของเด็กๆ และในตอนน้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับใบมีด นางร้องออกมาเสียงดัง แต่เด็กๆเหมือนไม่ได้ยินเสียงเธออย่างนั้น

ชูเซี่ยสามารถเห็นกลไกในห้องลับได้อย่างชัดเจน แต่ว่าเด็กทั้งสองกลับมองไม่เห็น พวกเขาทำได้เพียงแต่ใช้ร่างกายตัวเองไปสัมผัส

“อย่า อย่าไปที่นั่น......” ชูเซี่ยรู้สึกว่าตัวเองตะโกนจนเสียงแหบ แต่คู่แฝดกลับไม่รู้สึกถึงตัวตนของนาง

ชูเซี่ยลืมตาตื่นขึ้น ภายในห้องเต็มไปด้วยแสงไฟแล้ว หลี่เฉินเย่นมองดูนางอย่างเป็นกังวล นัยน์ตาเต็มไปด้วยการสำรวจ

“เฉินเย่น เด็กๆอยู่ในห้องลับ พวกเราต้องรีบไปหาพวกเขา พวกเขามีอันตราย” น้ำเสียงพูดของชูเซี่ยจริงจังอย่างมาก

หลี่เฉินเย่นมองดูชูเซี่ย นานมาก กว่าจะถามไปคำหนึ่ง “เจ้าฝันถึงหรือ?”

ในขณะชูเซี่ยพยักหน้า ต้นแขนก็มีความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เป็นหลี่เฉินเย่นบีบแขนนางไว้โดยไม่รู้ตัว

“เจ้าฝันเห็นพวกเขาอยู่ในห้องลับใช่หรือเปล่า? พวกเขาเป็นยังไง เจอเข้ากับอันตรายอะไร ชูเซี่ย เจ้ารีบบอกข้า”

หลี่เฉินเย่นถามอย่างรีบร้อน นัยน์ตามีแต่ความเจ็บปวด ถ้าไม่ใช้เพราะชูเซี่ยอุทานในฝัน เขาแทบจะลืมไปแล้วว่า เมื่อแปดปีก่อนเป็นความฝันของชูเซี่ยที่ช่วยตัวเขาเองเอาไว้จากความตาย เมื่อห้าปีก่อนความเป็นความตายของอันหรัน ชูเซี่ยก็ช่วยเขาไว้โดยพึ่งการชี้นำของความฝัน

ตอนนี้ ถ้าชูเซี่ยฝันเห็นเด็กทั้งสอง งั้นเด็กๆคงจะไม่........

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า