ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 323

ตอนที่ 323 ฉวยโอกาสคุกคาม

เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆเวินจึงปล่อยข่าวการหายตัวไปของพวกเขาออกไป แต่กลับลืมไปว่าภายในวังนี้ยังมีไทเฮาอีกคนหนึ่งที่เป็นห่วงเด็กๆเหมือนกันกับพวกเขา

ตอนเที่ยงหวั่นเหนียงบอกว่าเด็กๆถูกชูเซี่ยลงโทษ จะให้คัดหนังสืออยู่ที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยนางก็รู้สึกสงสารแล้ว กี่ครั้งที่จะมาช่วยเด็กทั้งสองก็ถูกหวั่นเหนียงห้ามเอาไว้ ก่อนเข้านอนนางยังได้กำชับกับหวั่นเหนียงว่า พรุ่งนี้ให้พาคู่แฝดมาแต่เช้า นางได้ตัดสินใจแล้วว่าจะปลอบใจเด็กๆทั้งสองดีๆ

แต่ว่าข้างนอกในตอนกลางคืนมีเสียงดังเอะอะมาก ทำให้ไทเฮาตื่นขึ้นมา

นางยังได้ยินแว่วๆจากคนข้างนอกพูดถึงชื่อจิงโม่และอันเหยียน ในนาทีนั้น นางไม่มีอารมณ์อีกแล้ว ลงจากเตียง ตะโกนเรียกคนข้างนอกเข้ามาถามเรื่องคู่แฝดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ทันที่ทหารคนนั้นจะพูดเรื่องราวทั้งหมดจบ ไทเฮาก็เป็นลมไปก่อน

ก่อนที่ชูเซี่ยจะกลับมานางรู้สึกว่าตัวเองไม่มีใจอยากอยู่แล้ว เป็นเพราะคู่แฝดอารมณ์ดีทั้งสองที่เป็นเหตุผลให้นางมีกำลังใจอยู่ต่อ แต่ว่าตอนนี้เด็กๆทั้งสองเกิดเรื่องขึ้น นี่เป็นเรื่องที่เอาชีวิตนางก็ว่าได้

หวั่นเหนียงเห็นไทเฮาเป็นลมไป ก็ให้คนไปเรียกชูเซี่ยทันที แม้ว่านางจะรู้ว่าตอนนี้ชูเซี่ยแต่เรื่องตัวเองก็หนักอยู่แล้ว

ตอนที่คนของตำหนักไทเฮามาแจ้งเรื่อง เวินกำลังฟังข่าวที่ทหารของพรรคมังกรเหินมาแจ้ง พอจัดการธุระเสร็จนางเพิ่งรู้ข่าวอาการป่วยของว่าฮองไทเฮา ดังนั้นตอนที่ชูเซี่ยเอากระเป๋ายาเดินเข้าตำหนักไทเฮา เหล่านางสนมของหลี่เฉินเย่นคมังกรเหินมาแจ้ง พอจัดการธุระเสร็จนางเพิ่งรู้ว่าฮองไทเฮาไวินอี้ว่าได้ไม่ทันที่ทหารคนนั้นจะพูด้ามเอาไว้ กต่างก็ “แสดงความกตัญญู” อยู่หน้าเตียงไทเฮาแล้ว

ไทเฮาตื่นขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ไม่มีชีวิตชีวา เพียงแค่หลับตาฟังสิ่งที่พวกเขาพูดเท่านั้น แต่ก็ยังมีคนที่หัวเราะโดยไม่รู้กาลเทศะออกมาเบาๆ

ถ้าหากเป็นตอนปกติไทเฮาคงไม่ใส่ใจมาก ในเมื่อลูกชายตัวเองพาพวกนางเข้าวังมาแต่กลับไม่แตะต้องแม้สักนิด นางรู้สึกผิดในใจ แต่ในวันนี้ เกิดเรื่องขึ้นกับคู่แฝด พวกเขายังอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ทำให้ไทเฮานึกถึงเรื่องราวมากมายของราชวงศ์ก่อน

คู่แฝดของนางไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับพวกเขา คู่แฝดไม่อยู่แล้วอาจจะเป็นเรื่องดีต่อพวกเขา คิดถึงจุดนี้ ใบหน้าของไทเฮาก็นิ่งลงมา ตะโกนกับผู้หญิงที่ยื่นอยู่หน้าหน้าต่างตัวเองว่า : “ข้ากำลังจะตายอยู่แล้ว หลานชายและหลานสาวของข้าก็ไม่อยู่แล้ว พวกเจ้าพวกคนที่ไม่มีความรู้สึกกลับหัวเราะออกมาได้ ไปให้พ้น ไป”

ชูเซี่ยกำลังจะเข้าไปปลอบประโลม แต่กลับเห็นฉ่ายเวินที่อยู่ใกล้ไทเฮาที่สุดลุกขึ้นยืน ยิ้มเบาๆพูดกับไทเฮาว่า : “เสด็จแม่ เด็กๆทั้งสองหายไปพวกเราก็ร้อนใจ แต่ร่างกายของท่านต้องมาก่อน ถ้าหากหาตัวเด็กๆทั้งสองเจอแล้ว แต่ท่านกลับป่วย เด็กๆจะทุกข์ใจเอาได้”

“เจ้าไม่ต้องมาทำเป็นแกล้งที่นี่ ถ้าหากเด็กทั้งสองหายไปต้องเกี่ยวกับเจ้าแน่ ข้าไม่สนว่าจะเป็นหนานจ้าวหรือเป่ยจ้าว ข้าจะให้เจ้าชดใช้ชีวิตเด็กๆทั้งสองเป็นแน่” ไทเฮาเงยหน้าขึ้นมองหน้าฉ่ายเวิน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“พระองค์ไทเฮาท่านอย่าได้ใส่ร้ายข้านะ ใครจะไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองนั่นเป็นเหมือนมุกในสายตาท่านกับฮ่องเต้ ลูกเห็นแล้วก็ชอบ จะทำไม่ดีต่อพวกเขาได้ยังไรกัน” ใบหน้าฉ่ายเวินภายใต้ผ้ากันหน้ามีแต่ความน้อยใจ แต่ว่าในนาทีที่ก้มหน้าลง นัยน์ตานางก็มีความกังวลแว็บเข้ามา

นางไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองไปไหนแล้ว นางมั่นใจได้ว่าเด็กๆหายตัวไปตอนที่เล่นซ่อนแอบกับตัวเองแน่นอน นางก็สงสัยว่าหลี่อวิ๋นลี่เป็นคนพาเด็กๆไป เพราะว่าคนที่สามารถเข้าออกตำหนักของตัวเองได้อย่างไม่มีใครเห็นนอกจากหลี่อวิ๋นลี่ก็ไม่มีอีกแล้ว

คิดถึงหลี่อวิ๋นลี่ ฉ่ายเวินก็กำมือแน่น เขาไม่รู้หรือยังไงว่าคู่แฝดนั้นสำคัญต่อตัวเองมากแค่ไหน? กลับแอบลงมือได้ ...... ถ้าหากหลี่เฉินเย่นสงสัยตัวเอง

“ไทเฮา ข้ามีถุงบุหงาอันหนึ่งท่านสามารถลองดูหน่อย ท่านน่าจะเป็นห่วงเด็กๆทั้งสองเกินไปจนเป็นลม”

ตอนที่ฉ่ายเวินพูดหน้าตาแลดูเข้าอกเข้าใจ พูดจบก็เอาถุงบุหงาวางไว้ตรงหัวเตียงไทเฮา

“พวกเจ้ากลับไป ไว้พระสวดมนต์ให้ข้าไป ทางที่ดีพวกเจ้าควรภาวนาให้เด็กๆทั้งสองปลอดภัย ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าอย่างได้หวังว่าจะมีใครมีความสุข ถึงตายข้าก็จะลากพวกเจ้าไปด้วย” ไทเฮาพูดอย่างเย็นชาเสร็จก็ให้พวกเขาจากไป

แต่ตอนที่เหล่านางสนมกำลังกลับออกไปก็เห็นชูเซี่ยเดินเข้ามาในตำหนัก ไม่เหมือนสายตาไม่เป็นมิตรอย่างแต่ก่อน ตอนนี้พวกเขาเห็นสายตาชูเซี่ยมีเรื่องราวมากขึ้น มีความเยาะเย้ย มีความมั่นใจ ยิ่งมีความตื่นเต้นที่ปกปิดไม่อยู่

เมื่อครู่นี้ตอนที่ฟังไทเฮาพูดยังรู้สึกว่าไทเฮาพูดหนักไปหน่อย แต่พอมาดูตอนนี้ พวกผู้หญิงพวกนี้สมควรที่จะถูกปฏิบัติเช่นนี้แล้ว

“ชูเซี่ย เด็กทั้งสองฉลาดขนาดนั้น ทำไมอยู่ๆถึงได้หายไป?” ไทเฮาเห็นชูเซี่ย ก็ไม่ได้คำนึงความอ่อนเพลียของร่างกาย จับโต๊ะตรงหัวเตียงลุกยืนขึ้นมา น้ำตาไหลออกมาตอนที่พูดกับชูเซี่ย

“เด็กๆจะต้องไม่เป็นอะไร เสด็จแม่ เมื่อครู่นี้ฉ่ายเวินพูดถูก ถ้าท่านป่วย เด็กๆกลับมาจะเสียใจเอาได้” ชูเซี่ยพยุงไทเฮานั่งลงไปพลางก็ปลอบโอนไปพลาง

แต่ว่ามีกลิ่นหอมที่คุ้นเคยกลิ่นหนึ่งแตะเข้าจมูกชูเซี่ย ชูเซี่ยค้นหาตามกลิ่นนี้ ที่แท้กลิ่นหอมนั้นก็มาจากถุงบุหงาที่ฉ่ายเวินเอาให้ไทเฮา

กลิ่นหอมนี้ ถ้าหากเพิ่มกลิ่นคาวเลือด นั่นก็คือกลิ่นของห้องลับ

ชูเซี่ยเข้าใจในทันที การหายตัวไปของคู่แฝดคราวนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับฉ่ายเวิน

“ไทเฮา พวกเราสามารถหาคู่แฝดเจอแล้ว ท่านพักก่อน ข้ากับหลี่เฉินเย่นจะรีบไปหา จากนั้นจะพาเด็กๆกลับมาหาท่าน”

ตอนที่ชูเซี่ยพูดก็มีความมั่นใจแล้ว มีกลิ่นนี้แล้ว แม้ว่านายท่านเหมาจะไม่ทำงาน เจ้าถ่านเองก็สามารถตามรอยจากลิ่นได้

ชูเซี่ยกำชับกับเชียนซานให้รีบนำข่าวไปแจ้งให้กับหลี่เฉินเย่น ตัวเองก็กลับตำหนัก ถ้าหาจะค้นตำหนักของฉ่ายเวิน เตรียมพวกยาแก้พิษหน่อยก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะถึงยังไง ไม่ใช่ทุกคนที่เหมือนคู่แฝดที่พิษทำอะไรไม่ได้

ชูเซี่ยที่ได้รู้ข่าวของคู่แฝดกำลังรบก็ฟื้นฟูขึ้นมาทันใด นางเตรียมลงมืออย่างมั่นใจเต็มร้อย คิดไว้หมดแล้ว ถ้าหากเด็กๆเกิดเหตุอะไรขึ้นแม้สักนิด นางก็จะเอาคืนจากฉ่ายเวินกับหลี่อวิ๋นลี่ให้ได้

ชูเซี่ยถึงขั้นที่เตรียมดำเนินการพร้อมกับหลี่เฉินเย่น แต่ไม่คิดว่าทางหลี่เฉินเย่นกลับไม่มีข่าวคราวอะไรส่งกลับมาเลย ตอนที่เชียนซานกลับมาเห็นใบหน้ากังวลของชูเซี่ย ลังเลเล็กน้อยก่อนจะบอกว่า : “หัวหน้าพรรค หรือไม่พวกเราพรรคมังกรเหินดำเนินการกันก่อน ทางฮ่องเต้ยังต้องรอสักก่อน”

“เกิดเรื่องขึ้นกับราชสำนัก? เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าบอกข้ามา และตำหนักฝ่ายในมันแยกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้คู่แฝดหายไป ต้องมีคนใช้ประโยชน์จากโอกาสตอนที่ใจฮ่องเต้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนี้แน่ๆ” ชูเซี่ยพูดอย่างมั่นใจ ตอนนี้พวกคนในราชสำนักคงจะเตรียมการฉลองแล้วมั้ง?