ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 324

ตอนที่ 324 เป็นดั่งหอกข้างแคร่

ชูเซี่ยคาดการณ์สถานการณ์พวกคนในราชสำนักไว้บ้างแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าพื้นที่ที่เกิดเรื่องจะเป็นเก้อโจว

“ทหารเก้อโจวก่อกบฏ ตอนนี้ที่ท้องพระโรงกำลังหารือเรื่องการปราบปรามกบฏ เลือกคนออกตรวจตราแทน”

“เฉินหยวนชิ่งเข้าประชุมด้วย?”

ชูเซี่ยจ้องมองเชียนซาน เห็นเชียนซานพยักหน้า ใจนางก็ตึงขึ้นมา

เพราะว่าอันเหยียนฝังเข็มให้เฉินหยวนชิ่งช่วงนี้น่าจะอยู่ในช่วงที่ทนเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น เขาไม่ได้มาขอร้องตัวเอง น่าจะยังหาทางระงับความเจ็บปวดไม่ได้

แต่ว่าเขาเข้าประชุมบอกได้เพียงว่าเขามีเป้าหมาย ในช่วงนี้เขาได้รับการสนับสนุนจากหลี่เฉินเย่นอย่างลับๆ ยิภายนอกยิ่งรับช่วงลูกน้องหลายคนต่อจากเหลียงกุยและจางเซียนฮุย อาศัยเพียงอำนาจของเขาในราชสำนักและกองทัพ เขาจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของหลี่เฉินเย่นก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ถ้าหากการออกตรวจตราแทนเป็นเขาล่ะก็ ถึงเวลานั้นกองกำลังห้ามื่นนายที่ประจำอยู่ในเก้อโจว ถ้าหากไม่สามารถให้เขาใช้ได้ เกรงว่าจะเป็นผลร้ายมากกว่า

แต่ว่าเขาน่าจะต้องทำให้ได้สินะ?

ยิ่งในตอนนี้เขาคุมอำนาจกองกำลังส่วนใหญ่รอบเมืองหลวงด้วย ถ้าหากทหารที่ประจำเก้อโจวถูกเขารวบเข้าไปอีก งั้นความเชื่อถือจากกองทัพของหลี่เฉินเย่นคงถูกสั่นคลอน อำนาจราชสำนักคงถูกเฉินหยวนชิ่งควบคุมโดยสมบูรณ์

“เจ้ารีบไปแจ้งคนของเรา ให้พวกเขาสนับสนุนให้หลี่ฉางอันไปเก้อโจว”

“แต่ว่าคนของเรา” ...... เชียนซานลำบากใจ พวกเขาพรรคมังกรเหินมีอำนาจเป็นของตัวเองในราชสำนักก็จริง

แต่ว่าอำนาจเหล่านั้นเหลียงทั่วไปแล้วมีเหลียงกวางเสียงเป็นหัว ตอนนี้เหลียงกวางเสียงซ้ายขวาไม่มั่นคง ขุนนางที่ภักดีต่อพรรคมังกรเหินคนอื่นๆก็ไม่มีน้ำหนักเสียง แทบจะไม่มีอิทธิอย่างเหลียงกวางเสียงเลย

ถ้าหากอยากจะแย่งมาจากเฉินหยวนชิ่งจริงๆล่ะก็ โอกาสที่จะสำเร็จมีไม่สูงนัก

“ถึงแม้ว่าหลี่เฉินเย่นจะยินยอม หลี่ฉางอันก็ไปเก้อโจวไม่ได้ ข้าเพียงแค่อยากกวนน้ำให้ขุ่นเท่านั้น จากนั้นฉกฉวยโอกาสกวนน้ำจับปลา”

เชียนซานมองดูชูเซี่ย สุดท้ายก็ไม่ได้บอกเรื่องกังวลในใจออกมา ปลาครั้งนี้ตัวใหญ่เกินไป ใครๆก็อยากได้ ถึงแม้น้ำจะขุ่นแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นพวกเขาเสมอไป

ชูเซี่ยคงคาดไม่ถึงว่า คนที่อยากกวนน้ำจับปลาในครั้งนี้มีมากเกินไป ทำให้ภายในหนึ่งชั่วยาม ได้มีคนเสนอรายชื่อคนที่เหมาะสมไปสิบกว่าคน

ถ้าไม่ใช่นายพลในสายของเฉินหยวนชิ่ง ถ้าไม่ใช่ขุนนางในกลุ่มของจางเซียนฮุย เสนาบดีเซียวเองก็เสนอศิษย์เอกของตัวเอง แน่นอนว่าก็มีเสนอชื่อขุนนางนายพลในกลุ่มของหลี่อวิ๋นลี่ด้วย ทุกคนล้วนมีเหตุผลที่จะไปและทุกคนก็มีเหตุผลที่จะไม่ไป

เป็นสถานที่ที่ใช้หารือเรื่องการปกครองบ้านเมืองแท้ๆ แต่เพราะเรื่องการออกตรวจตราแทนกลับทำให้เหมือนอย่างกับสนามรบอย่างนั้น ถ้าหากคำพูดสามารถเป็นมีดได้ การโจมตีกันของเหล่าขุนนาง สามารถทำให้พวกเขามีบาดแผลเต็มตัว ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส

หลี่เฉินเย่นนั่งมองดูเหล่าขุนนางที่ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองแล้วก็ไม่ในใจหน้าตาอยู่บนเก้าอี้มังกร ความโลภอันน่ารังเกียจนั่น ทำให้เขารู้สึกรังเกียจ ถ้าหากมีทางเลือก เขาอยากจะออกไปจากบัลลังก์อันสูงส่งนี้ ออกไปจากคนละโมบไร้ยางอายพวกนี้

แต่ว่ามองดูเสนาบดีเซียว จางซือคงพวกเขายังคงพยายามแย่ชิง เพื่อแย่งชิงประโยชน์ของเขา เขาก็ยิ่งเข้าใจ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะทิ้งจากไปดื้อๆได้

“ฝ่าบาท ขุนนางที่หลายท่านเสนอมาต่างมีข้อดีข้อเสียของตนเอง แต่มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง ตำแหน่งฐานะของพวกเขาสำคัญเพียงพอ”

การออกตรวจตราแทน นี่เป็นสิ่งที่มีเกียรติอันยิ่งใหญ่ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไว้วางใจของฝ่าบาท การออกตรวจตราที่ผ่านมาในอดีต ล้วนเป็นคนใกล้ชิดบุตรแห่งสวรรค์ และต่างก็เป็นขุนนางอันจงรักภักดี

มองดูคนของตัวเองและจางซือฮุยเงียบๆในท้องพระโรง คนของหลี่เฉินเย่นไกล่เกลี่ย เฉินหยวนชิ่งที่กำลังแย่งชิงลุกขึ้นเดินมาด้านหน้าหลี่เฉินเย่นกระทันหัน คุกเข่าลงกับพื้น พูดอย่างหนักแน่น

หลี่เฉินเย่นเองก็ไม่ได้ละเลยสีหน้าความเจ็บปวดบนใบหน้าตอนที่ขยับร่างกายของเฉินหยวนชิ่งเมื่อครู่นี้ ยิ่งไม่ได้ละเลยร่างกายที่ยังคงสั่นอยู่เล็กน้อยของเขาในตอนนี้

อดทนความเจ็บปวดมาเข้าประชุม พูดคำพูดเช่นนี้ออกมา หลี่เฉินเย่นอยากจะคิดว่าเขาไม่มีความเห็นแก่ตัวคงไม่ได้

“งั้นใต้เท้าเฉินมีใครที่เหมาะสมหรือเปล่า?” ตอนที่พูดหลี่เฉินเย่นหน้าตาดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจ เหมือนกับว่าไม่รีบร้อนที่จะเลือกคน ยิ่งเหมือนกับว่ามีตัวเลือกในใจอยู่แล้ว

“ข้ากระหม่อมรู้สึกว่าถ้ายเว่ยเหลียงกวางเสียงเหมาะสมมาก” เฉินหยวนชิ่งเพิ่งพูดจบ ท้องพระโรงที่เงียบสงัดเพราะว่าเขาเอ่ยปากก็เดือดขึ้นมากอีกครั้ง แต่ว่าในครั้งนี้ ไม่มีคนที่ออกมาคัดค้าน

แน่ชัดแล้วว่า คนที่เหลียงกวางเสียงเพิ่งเสนอเหมาะสมกว่าทุกคนที่พวกเขาเพิ่งได้เสนอออกมา โดยเฉพาะในมือของเหลียงกวางเสียงยังมีอำนาจทหารส่วนหนึ่งด้วย ดังนั้นให้เขาไปจึงเหมาะสมที่สุด

ข้อเสนอที่เฉินหยวนชิ่งเสนอมา คนของเขาไม่มีทางที่จะคัดค้านอยู่แล้ว จางเซียนฮุยในช่วงนี้ก็ใกล้ชิดกับเหลียงกวางเสียงมาตลอด หวังว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน เรื่องดีที่เห็นชัดในตอนนี้ ถ้าหากจางเซียงฮุยทำเสียเรื่อง งั้นความสัมพันธ์ของเขากับเหลียงกวางเสียงก็คงหมดกัน และคนของเหลียงกวางเสียงเองก็คงไม่คัดค้านเรื่องดีที่หล่นจากฟ้าแบบนี้แน่ และแม้ว่าคนของพรรคมังกรเหินจะรู้ว่าเหลียงกวางเสียงไม่มีใจภักดีต่อพรรคมังกรเหินอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้ฉีกขาดความสัมพันธ์ ดังนั้นก็ไม่มีทางจะเป็นศัตรูกันอย่างเปิดเผย

ดังนั้นยังคงใช้เหลียงกวางเสียง ขอเพียงหลี่เฉินเย่นตกลง เทียบกับการใช้คนของเฉินหยวนชิ่ง คนของจางเซียนฮุย แม้ว่าเหลียงกวางเสียงจะไม่ค่อยน่าพอใจนัก แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เลวแล้ว เพราะยังไง พรรคมังกรเหินยังคงมีอำนาจต่อเขา

“ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นคงต้องรบกวนถ้ายเว่ยลำบากไปเที่ยวหนึ่งแล้วล่ะ ถึงเก้อโจวแล้ว ปลอบโยนประชาชนให้ดี ต้องสืบสาเหตุของการกบฏให้ได้ จะต้องเอาใจทหารกลับมาให้ได้บกวนถ้ายเว่ยือกที่เลวแล้ว เพราะยังไง พรรคมังกรเหินยังคงมีอำนาจต่อเขา

ขาจะทิ้ง”

หลี่เฉินเย่นไม่ได้บอกว่ายินดีด้วยหรือไม่ยินดีด้วย เพียงแค่มองดูเหลียงกวางเสียงที่ยังมีอาการอึ้งอยู่ กำชับน้ำเสียงหนักแน่น

เหลียงกวางเสียงมองดูหลี่เฉินเย่นด้วยสีหน้าลำบากใจ ผ่านไปนานก็ไม่มีการตอบรับ พอเวลาที่เขาอยากจะเอ่ยปาก หลี่เฉินเย่นก็ลุกขึ้นเลิกการประชุมแล้ว

เหลียงกวางเสียงรับการอวยพรจากเพื่อนร่วมงาน เพียงแต่ใบหน้าเขาไม่มีรอยยิ้มเลย

ถ้าหากตอนนี้เขาบอกกับพวกเพื่อนร่วมงานว่าตัวเองไม่อยากไป พวกเขาคงคิดว่าตัวเองเล่นตัว เรื่องดีๆที่หล่นจากฟ้ายังไม่อยากรับ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่อยากไปจริงๆ

ร่างกายของกุยเอ๋อในช่วงนี้เริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการตอบสนองจะยังช้าอยู่บ้าง แต่ว่าตอนที่ตัวเองไปดูเขาเขาอาลัยตัวเองมาก และหลิงกุ้ยท่ายเฟยเองก็อดหลับอดนอนเสียสุขภาพเพื่อกุยเอ๋อ ตอนนี้กำลังป่วยอยู่

ผ่านประสบการณ์การถูกวางยาในนมแม่ หลังวางยาในเครื่องดื่ม หลิงกุ้ยท่ายเฟยเองเองกลัวไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้นางยังคาดหวังว่าสามารถจับมือกับเหลียงกวางเสียงได้เหมือนสามีภรรยาทั่วไป ตอนนี้นางไม่ขออีกแล้ว นางขอเพียงเหลียงกวางเสียงสามารถอยู่เคียงข้างตัวเอง สามารถอยู่ปกป้องกุยเอ๋อของตัวเอง

เหลียงกวางเสียงรู้ว่าผู้หญิงอย่างนี้จะถ่วงความเจริญตัวเอง แต่ว่าเห็นหน้านางที่อิดโรยและสายตาที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ คำพูดตำหนิอะไรก็พูดไม่ออกมา แค่อยากจะรักนาง ดูแลนาง

ทหารประจำเก้อโจวห้าหมื่นนายไม่ได้เกลี้ยกล่อมง่ายขนาดนั้น ข้างในนั้นมีอดีตชิ่งหลินจวิน นั่นเป็นถึงยอดทหารที่ร่วมรบตายกับเจิ้นกั๋วอ๋อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า