ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 333

ตอนที่ 333 ข้าก็คือนาง

เมื่อฮองไทเฮาได้ยินที่ชูเซี่ยพูดกลับหัวเราะในทันใด หล่อนตบมือชูเซี่ยหลายที สีหน้าเปี่ยมด้วยความเมตตาอาทร

“ข้าน้อยก็ไม่อยากให้อวี่โหรวทำผิดกฎวัง แต่อวี่จู๋มาเข้าฝันข้าทุกคืน บอกว่าเป็นห่วงฝ่าบาท อยากให้น้องสาวดูแลฝ่าบาทแทนหล่อน ท่านไทเฮาก็ทรงรู้ อวี่จู๋ตายโดยการถูกกล่าวหา แต่หล่อนมีความรักที่ลึกซึ้งต่อฝ่าบาท ทำให้วิญญาณของหล่อนยากที่จะไปสู่สุขคติภูมิ ข้าเป็นพี่ชาย......”ไม่น่าเชื่อว่าในตอนท้ายเฉินหยวนชิ่งกลับน้ำตาไหลพราก

แม้เฉินอวี่จู๋น้องสาวของเขาจะกลับมาแล้วก็ตาม แต่หล่อนก็ยังหมกมุ่นอยู่กับฝ่าบาท ต้องยอมทนทุกข์ทรมานเพื่อฝ่าบาท ทำให้เขาแค่คิดก็เจ็บปวดไปทั้งใจ

“หยวนชิ่ง เจ้าก็รู้ดี ว่าอวี่จู๋ได้เสียชีวิตไปห้าปีกว่าแล้ว ฝ่าบาทก็ทรงมีคนใหม่ในใจแล้ว เจ้าให้อวี่โหรวเข้าวัง ข้ากลัวว่าฝ่าบาทจะทรงทำให้ผู้หญิงดีๆ คนนี้ผิดหวัง”ไทเฮาพูดอย่างให้เฉินหยวนชิ่ง

หากเป็นก่อนหน้าที่ชูเซี่ยกลับมา เฉินหยวนฉิ่งพูดอะไรแบบนี้ออกมา แน่นอนว่าหล่อนต้องให้เฉินอยี่โหรวเข้าวังอย่างไม่ลังเล แต่ว่าตอนนี้ ชูเซี่ยกลับมาแล้ว หล่อนจะไม่ให้ใครมาเป็นอุปสรรคกีดขวางทั้งสองอีกแล้ว โดยเฉพาะเฉินอวี่โหรวที่เป็นน้องสาวของเฉินอวี่จู๋ แถบตอนนี้เฉินหยวนชิ่งก็มีกำลังทหารในมือจำนวนมาก

“เพียงแค่สามารถทำให้พีสาวไปสู่สุขติภูมิ อวี่โหรวไม่รู้สึกลำบากใจอะไรเลย ขอไทเฮาทรงโปรด”ไม่รอให้เฉินหยวนชิ่งเปิดปากพูด เฉินอวี่โหรวก็ได้คุกเขาลงบนพื้น

“อวี่โหรว เจ้า......”เฉินหยวนชิ่งมองดูน้องสาวที่รีบร้อนใจอย่างนี้ ในใจนั้นทั้งโมโหและสงสาร หากอวี่จู่ยอม เขาอยากให้หล่อนไปไกลจากราชวัง ไปใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข แต่หล่อนกลับยืนยันที่ต้องเป็นผู้ชายไร้ความจริงใจคนนี้ เพื่อที่จะได้แต่งงานกับเขา หล่อนต้องยอมทำร้ายใจตนเอง

“เรื่องนี้ข้าจะทรงหารือกับฝ่าบาทอีกที ข้าก็เหนื่อยแล้ว พวกเจ้ากลับกันก่อนเถอะ”ไทเฮาไม่อยากได้ยินคำพูดหยั่งลึกของเฉินหยวนชิ่งเหล่านี้อีกแล้ว หล่อนเคยเห็นความรักแน้นแฟ้นหยั่งลึกแต่ชูเซี่ยมีแต่หลี่เฉินเย่นแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดังนี้จึงไม่รู้สึกกับ “ความรักลึกซึ้ง”ของเฉินอวี่จู๋แล้วล่ะ

เฉินหยวนชิงคิดไม่ถึงหรอกว่า ทุกครั้งพูดถึงความรักลึกซึ้งของเฉินอวี่จู๋ด้วยความเมตตานั้น ความรักที่ลึกซึ้งเพียงใดก็ล้วนถูกทำลายในที่สุด ความถูกใจที่มากเพียงใดก็มักกลายเป็นภาระในที่สุด

เดิมทีเฉินหยวนชิ่งคิดว่าเรื่องที่จะพาเฉินอวี่โหรวเข้าวังนั้นจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกไทเฮาปฏิเสธ เขาโมโหเล็กน้อย และดึงเฉินอวี่โหรวเดินจากไป แต่เฉินอวี่โหรวกลับแกะมือเฉินหยวนชิ่งออก พลันส่ายหน้าอย่างนิ่มนวล จากนั้นคุกเข่าต่อหน้าไทเฮาอีกครั้ง “ท่านไทเฮา ข้าอยากคุยอะไรกับพี่ชูเซี่ยเสียหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นเราไปตำหนักฉ่ายเหว่ยกันเถอะ”ชูเซี่ยมองดูแววตาอ้อนวอนของเฉินอวี่โหรว สุดท้ายก็ไม่อาจปฏิเสธหล่อนได้

ใบหน้ากับหล่อนคล้ายกับเฉินอวี่จู๋มาก มองดูท่าทีอ้อนวอนของหล่อน ชูเซี่ยไม่พลันนึกถึงคืนที่หล่อนจากโลกนี้ไป คำพูดเหล่านั้นที่หล่อนเปล่งออกมาจากลมเฮือกสุดท้าย

“ชูเซี่ยเจ้าอย่าคิดจะทำอะไร หากอวี่โหรวเป็นอะไรไป ข้าไม่ให้อภัยเจ้าแน่นอน”ตั้งแต่ออกมาจากพระตำหนักไทเฮา เฉินหยวนชิ่งตามอยู่ด้านหลังพวกเขาอย่างกับทหารอารักขา เห็นชูเซี่ยเหลือบไปทางเขา เขาพลันพูดเตือน

“ตำหนักฉ่ายเหว่ยของข้าไม่มีสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากและสัตว์ดุร้ายหรอก ข้าก็ไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแม่ทัพเฉิน แม้ว่าแม่ทัพเฉินจะดูข้าไม่ถูกตาตลอดเรื่อยมาก็ตาม หากเจ้าไม่วางใจสามารถพาน้องสาวของเจ้ากลับไปได้ หล่อนต่างหากที่เป็นฝ่ายอยากจะคุยกับข้า ข้าไม่ได้เป็นฝ่ายเรียกหล่อนมาคุย” ชูเซี่ยไม่มีอะไรจะคุยกับเฉินหยวนชิ่งแล้ว แม้ว่าความจริงจะอยู่ตรงหน้าก็ตาม แต่เขาก็มักจะคิดว่าหล่อนเป็นฝ่ายกระทำ

ชูเซี่ยทำให้เฉินหยวนชิ่งไม่มีอะไรจะพูดอีก เพียงแต่จ้องมองชูเซี่ยด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม ส่วนเฉินอวี่โหรวก็ยังคงเดินตามหลังเฉินหยวนชิ่งอย่างสงบเสงี่ยม เห็นทั้งสองไม่มีใครยอมใคร แต่กลับไม่ได้พูดอะไร

เฉินอวี่โหรวอยากคุยกับชูเซี่ยเพียงลำพัง ดังนั้นเฉินหยวนชิ่งจึงต้องจำใจออกไป ก่อนออกไปก็ได้มองชูเซี่ยด้วยสายตาโหดเหี้ยมอีกครั้ง เป็นการเตือนอย่างชัดเชนเลยทีเดียว

“พี่สาว ข้ากลับมาแล้ว”เสียงฝีเท้าของเฉินหยวนชิ่งค่อยๆห่างไป เสียงอันนุ่มนวลของเฉินอวี่โหรวดังสนั่นข้างหูชูเซี่ย

ชูเซี่ยหันกลับมาในทันใด มองดูตาของเฉินอวี่โหรว พลันถามด้วยเสียงค่อนข้างเบา “เจ้าเป็นเฉินอวี่จู๋ใช่หรือไม่”

ความจริงแล้วควรรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หากเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องเฉินหยวนชิ่งจะออกไปต้อนรับด้วยตนเองทำไมกัน หากเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องเฉินหยวนชิ่งจะคอยปกป้องอย่างนี้ทำไมกัน

“ใช่”เฉินอวี่จู๋ตอบด้วยเสียงเบา นาทีนั้นทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรอีก

“ข้าไม่วางใจเขา เขาเป็นวีรชน ข้ารู้ว่าตอนนี้เขาลำบากมาก ข้าอยากให้พี่ชายข้าช่วยเขา”เป็นเวลานานพอสมควร เฉินอวี่จู่ถึงเปิดปากพูดอยากอดใจไม่ไหว คำพูดจริงจัง ชูเซี่ยมองดูแววตาที่เป็นประกายของหล่อน ในใจพลันรู้สึกซาบซึ้ง

หากวีรบุรุษในใจของเฉินอวี่จู๋ไม่ใช่หลี่เฉินเย่น เธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยให้หล่อนและวีรบุรุษของหล่อนได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่าตอนนี้ หล่อนควรทำอย่างไรดีล่ะ

ความไม่มีแรง ความกระวนกระวาย ทั้งหมดนี้กำลังรบกวนสติปัญญาของชูเซี่ยหล่อนเพียงแต่นั่งก้มหน้า ราวกับว่าเวลาได้หยุดลงแล้ว

“ข้าไม่สนใจหรอกว่าจะได้เป็นฮองเฮาหรือสนมของเขา ขอเพียงแค่สามารถช่วยเขาได้ ดังนั้นขอพี่สาวช่วยให้ข้าสมหวังด้วยเถอะ ข้าได้ยินเรื่องของพวกเจ้าแล้ว ข้ารู้ว่าเขาจะเชื่อฟังสิ่งที่เจ้าพูด”เฉินอวี่จู๋พูดเสียงเบา แต่ไม่ได้สังเกตเหตุชูเซี่ยว่าสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ท้ายที่สุดชูเซี่ยก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรเฉินอวี่จู่ แม้หล่อนจะรู้ว่าเธอน่าจะตอบรับ แต่เธอจะตอบรับจริงๆ รึ

รู้ทั้งรู้ว่าหลี่เฉินเย่นให้ในสิ่งที่หล่อนต้องการไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าในใจของหลี่เฉินเย่นมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น แต่เพื่อแผ่นดินของเขาเธอจะตอบรับจริงไหม หลี่เฉินเย่นไม่ยอมแน่นอน หล่อนรู้มาโดยตลอด แต่หล่อนก็เข้าใจดีว่า นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด

“เขาไม่มีทางชอบเจ้า ดังนั้น พวกข้าจะไม่ใช้เจ้าเป็นเครื่องมือหรอก”ในที่สุดชูเซี่ยก็ได้ตัดสินใจ พูดอะไรออกไป หล่อนรู้สึกโล่งอกไปที

“วังในตอนนี้ซับซ้อนกว่าพระตำหนักอ๋องเมื่อก่อนอีกนะ ตอนนี้ราชสำนักวุ่นวาย หญิงบอบบางอย่างเจ้า ไม่เข้าไปจะดีกว่า ในเมื่อสามารถรอดกลับมาได้ก็ควรจะใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลินกับการปกป้องรักษาของพี่ชาย ทำตามที่เขาคาดหวัง หาคนที่ชอบเจ้าและเจ้าก็ชอบเขาแล้วไปใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขเถอะ”ชูเซี่ยกล่าว

“ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่สาวถึงกลับมาล่ะ หลักการเกี่ยวกับสิ่งที่ตนไม่ปรารถนา ก็อย่าไปยัดเยียดให้ผู้อื่น พี่สาวก็น่าจะเข้าใจดีนะ”เมื่อเฉินอวี่จู๋พูดจบ ดวงตาพลันเต็มไปด้วยหยดน้ำตา เพียงคำพูดแทงใจดำเล็กน้อย ก็ทลายความเสแสร้งของชูเซี่ยได้

ชูเซี่ยไม่รู้ว่าควรตอบว่าอย่างไรดี หากตนไม่ได้ตกหลุมรัก เมื่อเกิดใหม่อีกหนหล่อนต้องตามหารักแท้อย่างแน่นอน และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ แต่คนๆ นั้นคือหลี่เฉินเย่น เป็นโชคชะตาที่หล่อนหนีไม่พ้น

“เรื่องนี้ เราต่างก็กลับไปไตร่ตรองดูอีกรอบเถอะ”สุดท้าย ชูเซี่ยทำได้เพียงยอมประนีประนอม ให้เวลากับทั้งสองฝ่าย

“ถ้าอย่างนั้นพี่สาวสามารถช่วยพี่ชายข้าได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าเขาจะป่วยหนักมาก มักจะปวดตามร่างกาย ข้ารู้ว่าฝีมือการแพทย์ของเจ้าโดดเด่นที่สุดแห่งยุคสมัย ข้า......”

“พี่ชายของเจ้าไม่เป็นอะไรหรอก เป็นฝีมือของลูกศิษย์ข้าเอง เดี๋ยวข้าจะออกใบสั่งยาให้เจ้า ให้เขาดื่มสักห้าวันก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ”

เดิมทีชูเซี่ยเองก็ไม่ต้องใช้เรื่องของอันหรันให้เฉินหยวนชิ่งยอมศิโรราบ เพียงแค่ต้องการสั่งสอนเขาเสียหน่อยเท่านั้น ตอนนี้เขาก็ทรมานมาหลายวันแล้ว ถึงเวลาให้เขากลับสู่ภาวะปกติแล้วล่ะ

“ขอบคุณพี่สาวยิ่งนัก ข้ารู้อยู่แล้วว่าฝีมือการแพทย์ของพี่สาวโดดเด่นที่สุดในยุคสมัย ไม่มีโรคไหนที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้”เฉินอวี่จู๋ตอบรับ หล่อนแสดงความซาบซึ้งใจของตนอย่างตื่นเต้น ส่วนชูเซี่ยเพียงแค่สายหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ตอนนั้น ข้าไม่สามารถแก้พิษในตัวเจ้าได้จริงๆ เจ้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า