ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 339

ตอนที่ 339 แผนร้ายสำเร็จ

หลี่เฉินเย่นเพิ่งก้าวขาออกมาจากตำหนักของชูเซี่ยข้างนอกก็ลือกันลั่นเลยว่า ชูเซี่ยและฝ่าบาททะลาะกัน

เหตุเพราะหลี่เฉินเย่นทรงเอาอกเอาใจเหลียงเฟย

และมีคนช่วยยืนยันด้วยว่าเมื่อวานฝ่าบาททรงไปหานายหญิงชูเซี่ยแต่ถูกชูเซี่ยปฏิเสธไม่ให้เข้าไป แต่หลังจากนั้นได้ดันทุรังวิ่งเข้าไปในตำหนักฉ่ายเหว่ย และเครื่องลายครามของตำหนักฉ่ายเหว่ยได้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

ประชุมเช้าวันนี้ นายหญิงชูก็ได้ใช้โทเค็นหนึ่งในการให้ฝ่าบาททรงแต่งตั้งโหรวเฟย ขุนนางหลายท่านก็ทราบสถานการณ์ตอนนั้นดี ยังไงฝ่าบาทก็ไม่เต็มใจให้โหรวเฟยเข้าวัง

เพียงชั่วครู่ ในวังนั้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันครึกโครม เรื่องเกี่ยวกับฝ่าบาทและนายหญิงชูเซี่ยได้ยินมิได้ขาด

สุดท้ายก็ลงเอยที่ว่านายหญิงชูริษยา ตนไม่ได้อยู่กับฝ่าบาท ก็ไม่ยอมให้ฝ่าบาทอยู่กับคนอื่น เห็นฝ่าบาททรงชอบเหลียงเฟย ก็เพิ่มสนมให้ฝ่าบาท

แน่นอนว่าฝ่าบาทก็ทรงรู้สึผิดหวังเป็นที่สุดกับนายหญิงชูแบบนี้ ดังนั้นวันนี้หลังจากที่ไปทะเลาะกับนายหญิงชูที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยแล้วก็รีบตรงไปยังตำหนักของเหลียงเฟย

แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้เหล่าสนมตื่นตะหนกที่สุดไม่ใช่ความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่เป็นเพราะว่าในที่สุดฝ่าบาทก็เริ่มสนใจเหล่านางในมากขึ้น ในเมื่อเขายอมให้โอกาสเหลียงเฟย ถ้าอย่างนั้น พวกเขาก็มีโอกาสแล้วเช่นกัน

แน่นอนว่าในบรรดาคนที่ตื่นตะหนกนั้น เหลียงเฟยก็อยู่บนจุดสูงสุดของความตื่นเต้น แม้จะเป็นเมื่อวาน หล่อนก็คิดไม่ถึงเลยว่า หล่อนและฝ่าบาทได้ใกล้ชิดและได้สัมผัสกันแล้ว แม้หลังจากนั้นตนจะสลบไปอย่างไม่ได้สติ วันนี้ตอนตื่นมาฝ่าบาทก็ทรงไปท้องพระโรงแล้ว แต่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานหลังจากที่ตนหลับไปก็มีคนมาเล่าให้ตนฟังหมดแล้ว

แม้ฝ่าบาทจะทรงไม่พูดอะไร แต่ก็ต้องชอบตนแน่นอน เมื่อนึกถึงอ้อมแขนอันอบอุ่นเมื่อวานที่โอบกอดตนไว้ในตอนที่ตนไม่ได้สติไว้ หน้าของหล่อนแดงในทันใด

หล่อนเข้าวังมาสี่ปี ไม่เคยอยู่กับฝ่าบาทสองต่อสองเลย แม้จะมีเรื่องเมื่อวานเกิดขึ้น แต่คิดว่าตนจะต้องได้อยู่กับหลี่เฉินเย่นอีก หล่อนอดไม่ได้ที่จะเขินอาย และพลันอะไรไม่ถูก

ทุกคนต่างรู้ว่าหล่อนถูกพ่อส่งเข้าวัง และแบกเกียรติแห่งวงศ์ตระกูลเอาไว้ ไม่มีใครรู้ เขาก็ชอบหลี่เฉินเย่นเหมือนกัน แต่หลี่เฉินเย่นมักเย็นชากับตน ทำให้หล่อนไม่มีโอกาสเสียที

หล่อนอยากทุ่มสุดตัวและสู้เพื่อตัวเองตั้งนานแล้ว เพียงแต่หล่อนยังไงก็ไม่กล้า หล่อนกลัวว่าตนจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก หล่อนกลัวว่าบิดาจะทอดทิ้งตน ดังนั้นหล่อนเตรียมตัวเสมอมา แต่ก็ไม่กล้าลงมือทำเสียที

เมื่อวานนี้ หล่อนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ ชูเซี่ยรู้เรื่องที่หล่อนตกลงกับฉ่ายเวินแล้ว และรู้เรื่องที่ตนไม่สนใจความเป็นความตายของเสี่ยวเชี่ยน หล่อนรู้อยู่เต็มอก ว่าฝ่าบาทจะทรงรู้เรื่องนี้ หล่อนกลัวว่าฝ่าบาทจะรู้วาตนเป็นผู้หญิงโหดเหี้ยม ถ้าเป็นอย่างนั้น ตนจะไม่มีโอกาสอีกแล้วจริงๆ

ดังนั้นหล่อนได้ทุ่มสุดชีวิต และชนะในที่สุด

ตอนนี้หล่อนตั้งหน้าตั้งตารอผู้ชายที่ตนรักอย่างมีความสุข หล่อนรู้อีกว่า ฝ่าบาทไม่ให้รางวัลอะไรตนหรอก เพราะรู้สึกละอายใจต่อชูเซี่ย

แต่หล่อนจะอดทนไว้ หล่อนจะใช้ความอ่อนโยนและความใส่ใจของตนบอกให้ฝ่าบาทรู้ ว่าหล่อนดีกว่าชูเซี่ยหลายพันหลายหมื่นเท่า

หล่อนจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับตำแหน่ง เพียงแค่หล่อนได้เห็นเขาทุกวัน ได้อยู่กับเขาก็เพียงพอแล้วล่ะ

เพราะฉะนั้น ตอนที่หลี่เฉินเย่นปรากฏตัวในตำหนักของตัว หล่อนรู้สึกว่าโลกของตนถูกแสงอาทิตย์เติมจนเต็ม

หล่อนเข้าไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม เห็นหลี่เฉินเย่นขมวดคิ้ว หล่อนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้น อยากจะช่วยทำให้รอยย่นระหว่างคิ้วเรียบลง

หลี่เฉินเย่นเห็นหล่อนยื่นมือออกมา ได้หันหน้าไปด้านข้างเพื่อหลีกหนีการถูกสัมผัสจากหล่อน และเหลียงเฟยก็วางมือลงอย่างรู้ตัว และเดินตามหลี่อวิ๋นเขียนไปที่เก้าอี้ มองดูเขานั่งลง หล่อนรีบให้บ่าวรับใช้เสิร์ฟน้ำชา หลี่เฉินเย่นเพียงแค่ดื่มชา ผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองไม่ได้คุยกันสักคำเดียว

“ฝ่าบาท ข้า......”เหลียงเฟยกังวลใจกับการไหลไปของเวลา คำพูดหวานๆ ในใจไม่สามารถพูดออกมาเลยสักคำ

“เจ้าเป็นคนดีมาก”หลี่เฉินเย่นเพียงมองเหลียงเฟยด้วยสายตาที่เรียบๆ หนึ่งที จากนั้นก็ดื่มชาต่อ

พอน้ำชาหมดเขาลุกขึ้นเตรียมเดินออกไป เหลียงเฟยอยากหยุดเขาไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่เฉินเย่นกลับเป็นคนพูดขึ้นว่า “ให้กรมวังส่งของประดับตกแต่งประณีตมาตำหนักเหลียงเฟยเสียหน่อย ใช้มาตรการเดียวกับตำหนักฉ่ายเหว่ย”

ตอนที่หลี่เฉินเย่นพูดประโยคสุดท้าย เหลียงเฟยดีใจจนจะกระโดดขึ้นเต้น

ผู้หญิงในวังอย่างพวกหล่อน แม้ปากจะไม่ยอมรับ แต่ต่างก็รับรู้ถึงความรู้สึกของฝ่าบาทที่มีต่อชูเซี่ยของตกแต่งประดับของตำหนักฉ่ายเหว่ยได้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดก่อนที่ชูเซี่ยจะเข้าอยู่ ว่ากันว่าฝ่าบาทเป็นคนเลือกเองกับมือด้วย

ดังนั้น แม้ฝ่าบาทจะไม่ได้พูดอะไรกับตนมาก แต่สื่อที่เขาต้องการสื่อก็ชัดเจนมากแล้วไม่ใช่รึ

“ต่อไปไม่ต้องไปหาชูเซี่ยเพื่อทำให้ตนเองต้องทุกข์ทรมาน”ในขณะที่เหลียงเฟยชะงัก หลี่เฉินเย่นได้เดินไปถึงหน้าประตูตำหนักแล้ว ขณะที่เหลียงเฟยคิดว่าเขากำลังจะเดินออกไป น้ำเสียงอันอ่อนโยนและทรงพลังดึงดูดของเขา พลันทำให้เหลียงเฟยรู้สึกว่ากำลังลอยอยู่ในหมู่เมฆ

เหลียงเฟยไม่รู้หรอก ที่หลี่เฉินเย่นทำแบบนี้ ทำเพื่อชูเซี่ยทั้งนั้น เพียงแค่ปกปิดความใส่ใจที่เขามีต่อชูเซี่ยสายตาของฉ่ายเวินและคนมีใจคนอื่นถึงจะตกมาอยู่ที่เหลียงเฟย

ในเมื้อหล่อนกล้าเล่นงานตน ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะเล่นงานหล่อนกลับ นี่เป็นเพียงการเอาคืนแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันแค่นั้น หลี่เฉินเย่นไม่รู้สึกเป็นภาระทางใจแต่อย่างไร

แต่เหลียงเฟยเป็นคนเชื่อฟังคนที่ไหนกันล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ว่าหล่อนชอบหลี่เฉินเย่นจริงๆ การที่หลี่เฉินเย่นทำดีต่อเธอนั้น หล่อนอยากป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้จริงๆ รวมถึงชูเซี่ยด้วย

ดังนั้นทั้งบ่ายของวันนั้น หล่อนเป็นเหมือนไก่ตัวผู้ที่หยิ่งยโส ประกาศไปทั่วถึงความเอ็นดูที่หลี่เฉินเย่นมีต่อตน หล่อนไม่รู้หรอก คนที่หลี่เฉินเย่นรู้จากใจจริงคนนั้นไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ฉ่ายเวินที่รักหลี่เฉินเย่นเข้ากระดูกนั้นอิจฉาจวนตาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหล่อนรู้ดีว่า เหลียงเฟยใช้วิธีไหนได้ใจศิษย์พี่ไป

วิธีน่ารังเกียจแบบนี้ของเหลียงเฟยหล่อนไม่เอาด้วยหรอก เพราะหล่อนรู้ดีกว่าทุกคนในธาตุแท้ของศิษย์พี่ หากความรักเริ่มจากยาพิษ เขาไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้แน่นอน ดังนั้นหล่อนถึงได้ให้ยาพิษนั้นกับเหลียงเฟย

แต่คิดไม่ถึงว่าศิษย์พี่จะ......

ศิษย์พี่ที่ผิดแปลกอย่างนี้ ฉ่ายเวินไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่หล่อนพอใจกับปฏิกิริยาของชูเซี่ยมาก หล่อนรู้สึกว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป หากชูเซี่ยกล้าทำอะไรเหลียงเฟยอีก วันที่ชูเซี่ยจะถูกไล่ออกจากวังก็ไม่นานแล้วล่ะ

ดังนั้น แม้หล่อนจะเกลียดเหลียงเฟย หล่อนก็ต้องเก็บเหลียงเฟยไว้ หล่อนเป็นเหมือนเข็มที่คอยทิ่มแทงหัวใจชูเซี่ยหากหล่อนยังอยู่ สักวัน ระหว่างศิษย์พี่และชูเซี่ยก็ต้องแตกหัก

เวลานั้นก็ถึงทีที่ตัวเองจะได้ประโยชน์

ตอนนี้ฉ่ายเวินเกลียดผู้หญิงอีกคนที่จะกำลังจะเข้าวังมากกว่า หญิงสาวผู้คล้ายเฉินอวี่จู๋

ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคนเดียวที่หลี่อวิ๋นลี่พูดถึง แต่หล่อนคือเฉินอวี่จู๋จริงรึ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า