ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 340

ตอนที่ 340 ขอแต่งงานใหม่

ตอนนี้ลือกันลั่นกับความเกลียดชังระหว่างชูเซี่ยและฝ่าบาท เพื่อไม่สร้างปัญหาให้ชูเซี่ยเพิ่ม หลี่อวิ่นเชียนทำได้เพียงลดความถี่ในการไปตำหนักฉ่ายเหว่ยลง เพียงแค่ไม่มีชูเซี่ยอยู่ข้างกาย รู้สึกชีวิตในแต่ละวันผ่านพ้นไปอย่างยากลำบาก

ส่วนชูเซี่ยก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับงาน ตอนนี้เหล่านางในต่างเตรียมพร้อมที่จะสร้างปัญหา เหล่าทหารของพรรคประตูเหินต้องคอยรักษาการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกี่ยวเรื่องแบบเหลียงเฟยครั้งก่อนอีก

ตอนนี้ชูเซี่ยแค่คิดถึงก็ยังรู้สึกตกใจไม่หาย หากวันนั้นตนไม่ได้ตามไป เชียนไม่......

“แม่จ๋า เสด็จพ่อไม่ต้องการพวกเราแล้วจริงๆใช่ไหม เขาหาสนมมาเป็นแม่ของพวกเราจริงๆ”เมื่อเสียงอ่อนนุ่มของฉองเหลาดังขึ้นข้างหู ตนถึงนึกขึ้นได้ว่า แผนการของตนและหลี่เฉินเย่นนั้นสองแฝดยังไม่รู้เรื่อง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองน่าจะ......

“แม่จ๋า พวกท่านจะไม่แต่งงานใหม่แล้วจริงๆเหรอ พวกเราก็ยังคงหวังอยากให้พ่อและแม่อยู่ด้วยกัน”น้ำเสียงของจิงโม่เผยความไม่เป็นธรรม

ทั้งสองกระพริบตาพลันมองดูชูเซี่ยราวกับว่าหากชูเซี่ยพูดเพียงว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นความจริง พวกเขาก็พร้อมที่จะร้องไห้ในทันที

มองดูเด็กทางสองที่ยังมีรอยแผลจางๆบนใบหน้า ชูเซี่ยพลันไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนดี

หล่อนมักจะบอกลูกทั้งสองว่าหล่อนและเสด็จพ่อของพวกเขาได้หย่าร้างกันแล้ว ลูกๆก็บอกว่าตามใจแม่ หล่อนคิดว่าพวกเขาจะไม่สนใจ อย่างน้อยก็ไม่ได้สนใจอย่างตอนนี้ แต่ว่า......

“แม่จ๋า หากเสด็จพ่อทำให้แม่โกรธ ข้าจะไปชกเขา”เห็นได้ชัดว่าฉองเหลาได้ยินข่าวลือแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกดีที่เขามีต่อเสด็จพ่อเริ่มลดลงเรื่อยๆ ส่วนจิงโม่เมื่อได้ยินที่ฉองเหลาพูดก็พลันผงกหัว หล่อนอยากเข้าไปกอดแม่ด้วยซ้ำ

“เรื่องของผู้ใหญ่พวกเจ้าอย่าไปสนใจเลย แม่เพียงอยากบอกพวกเจ้าว่า ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็ยังเป็นเสด็จพ่อของพวกเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นคือ เสด็จพ่อทรงรักพวกเจ้า แม่ก็รักพวกเจ้าเหมือนกัน”ยังไงชูเซี่ยก็คิดคำพูดไม่ออก ดังนั้นคำที่กล่าวออกไปนั้นแลดูค่อนข้างสง่าผ่าเผย

จากเรื่องในครั้งที่แล้ว หล่อนไม่กล้าที่จะให้สองแฝดตกอยู่ในอันตรายอีก

“แม่วางใจเถอะ หากเสด็จพ่อไม่ต้องการท่านแล้ว ข้าก็จะตามไปด้วย ถึงตอนนี้ให้เขาไม่มีราชทายาทสืบราชบัลลังก์”ฉองเหลารับประกันกับชูเซี่ยอย่างเอาจริงเอาจัง ในขณะที่ชูเซี่ยคิดว่าจิงโม่ก็กำลังจะปลอบใจตนเช่นกันนั้น หล่อนร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วยว่า “แต่ถ้าไปกับแม่ พวกเราก็จะไม่ได้เจอเสด็จพ่ออีก ข้าก็ชอบเสด็จพ่อเหมือนกันนะ”

ความโศกเศร้าของชูเซี่ยถูกส่งไปยังฉองเหลาอย่างง่ายดาย ไม่นานทั้งสองก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น

“เจ้าทั้งสองไม่ได้เจอนายท่านเหมาและเจ้าถ่านนานแล้วนะ หรือพวกเจ้าจะไปอยู่กับพ่อบุญธรรมสักพักล่ะ”ชูเซี่ยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร และรู้ดีว่าไม่ควรให้เด็กทั้งสองอยู่ในวังต่อไป ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้สึกแย่กับหลี่เฉินเย่นมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่เอา พวกเราจะอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่นี่”เด็กทั้งสองตอบพร้อมกัน พลันทำให้ชูเซี่ยไม่รู้จะทำอย่างไรดี

หล่อนรู้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อแม่ในบ้านมีอิทธิพลต่อลูกๆมาก ความรู้สึกของพวกเขาไม่มีปัญหาใดๆ แต่ว่าการหลอกใช้ แผนการหลอกใช้ แผนชั่วปองร้ายจะบอกเด็กสี่ขวบที่อยู่ตรงหน้าสองคนจริงๆหรือ

“แม่สัญญากับพวกเจ้าว่า คนที่เสด็จพ่อของเจ้ารักในตอนนี้คือแม่ แม่ก็รักเสด็จพ่อของพวกเจ้าเหมือนกัน เพราะเหตุผลบางอย่าง พวกเราจึงทำได้เพียงทำให้คนอื่นคิดว่าพวกเรามีปัญหากัน ดังนั้น......”ชูเซี่ยไม่แน่ใจว่าการอธิบายแบบนี้ลูกๆจะเข้าใจหรือไม่ แต่หล่อนได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว เด็กอายุเพียงสี่ขวบ ไม่ว่าจะฉลาดหลักแหลมเพียงใด ก็ยังเป็นแค่เด็ก

“ถ้าอย่างนั้น แม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราหรือไม่ แสดงละครยังไงก็ต้องจริงจังเสียหน่อย ยกตัวอย่างเช่นพวกเราช่วยท่านตีคนคิดลบพวกนั้นหนึ่งยก”ชูเซี่ยคิดไม่ถึงว่าฉองเหลาไม่เพียงแต่เข้าใจเท่านั้น ยังมีข้อเสนอแบบนี้อีก และจิงโม่ก็ผงกหัวเห็นด้วยเหมือนกัน

“ไม่ต้องหรอก พวกเจ้าไปอยู่กับพ่อบุญธรรมสักพักได้หรือไม่”สุดท้ายชูเซี่ยก็เลือกที่จะส่งพวกเขาออกไป แม้ว่าที่หล่อนเข้าวังก็เพื่อต้องการปกป้องสองแฝด แต่หลายวันมานี้ในวังมีปัญหามากมาย หล่อนกลัวว่าจะดูและไม่ดี

โดนเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ความอยากของเหล่านางในต่างถูกกระตุ้น ต่างจ้องที่จะเขมือบหลี่เฉินเย่น ส่วนหลี่เฉินเย่นมีจุดอ่อนให้ลงมือได้ไม่มากนัก สองแฝดถือเป็นจุดลงมือง่ายจุดหนึ่ง

“ไม่เอา เราจะรอดื่มเหล้ามงคลในวัง”

“แม่ทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน รู้ทั้งรู้ว่าจะมีงานเลี้ยงก็ยังจะให้พวกเราออกไป ท่ายังนเป็นแม่แท้ๆของพวกเราอยู่ไหม”

เมื่อเทียบกับการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาของฉองเหลาแล้ว คำพูดของจิงโม่ดูแทงใจดำมากกว่า ชูเซี่ยล้มเลิกความคิดที่จะให้พวกเขาออกไปในทันใด ตามนิสัยของเขาทั้งสอง หากรู้ว่าจะมีงานเลี้ยง เทพเทวดาที่ไหนจะมาพวกเขาก็ไม่ไปหรอก แต่ชูเซี่ยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจ

ไม่เคยเห็นเด็กที่หวงกินขนาดนี้มาก่อน เป็นงานมงคลของพ่อแท้ๆของคนแท้ๆต้องตื่นเต้นและตั้งหน้าตั้งตารอขนาดนี้ไหม

เพราะคำอธิบายของชูเซี่ยสองแฝดไม่ได้โศกเศร้าอีกต่อไป เด็กที่สบายใจแล้วกระซิบอยู่ข้างชูเซี่ยชูเซี่ยสายตาอบอุ่นหน้าตายิ้มแย้ม ทั้งตำหนักฉ่ายเหว่ยอบอวลด้วยความอบอุ่นที่ไม่สามารถอธิบายได้

นี่เป็นภาพที่เฉินหยวนชิ่งได้เห็นตอนบุกเข้ามา เมื่อเขาเริ่มตระหนักถึงความผิดของตน สามแม่ลูกก็ได้มองไปทางเขาแล้ว

“คุณอาแมงบ้งท่านมาแล้วรึ ข้าได้รับบาดเจ็บ จึงไม่ได้ไปขอบคุณท่าน ปิงถังหูลู่ของท่านอร่อยมาก ข้าชอบมากเลย ข้า......”จิงโม่เงยหน้ามองเฉินหยวนชิ่ง พลันกระพริบตาขึ้นลง ราวกับองุ่นที่มีหยดน้ำค้างในยามเช้า

เห็นสาวน้อยนุ่มนวลกอดขาตนเองไว้ เฉินหยวนชิ่งทำตัวไม่ค่อยถูก แต่แค่ครู่เดียวเขาก็ได้สติและนั่งยองๆ พลันพูดกับจิงโม่ว่า “ถ้าเจ้าชอบ หากมีโอกาสอีกอาก็จะให้ปิงถังหูลู่พวกเจ้าอีก”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าคุณอาแมงบ้งดีกับข้าที่สุด”จิงโม่ดีใจพลันกอดคอของเฉินหยวนชิ่ง ปากเล็กนุ่มๆของพลันจูบไปที่แก้มของเฉินหยวนชิ่ง

เฉินหยวนชิ่งชะงัก เป็นเวลานานพอสมควรก่อนจะยกมือมาลูบหน้าของตน เขาคิดอยู่เสมอว่าความรู้สึกอ่อนนุ่มนี้จะมีเพียงในฝันเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่า จิงโม่จะ.......

เฉินหยวนชิ่งรู้สึกว่าใจของตนถูกเติมจนเต็ม แม้แต่การกลับมาของน้องสาวก็ไม่สามารถทำให้เขารู้สึกอย่างนี้

“แม่ทัพเฉินรักเด็กขนาดนี้ ก็ควรจะมีลูกของตนเองสักคน”ชูเซี่ยคิดไม่ถึงว่าเฉินหยวนชิ่งผู้เยือกเย็นจะถูกเด็กทำให้ชะงักได้ขนาดนี้ พลันอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้น

เฉินหยวนชิ่งเพิ่งได้สติ พลันถลึงตาใส่ชูเซี่ยหนึ่งทีและพูดว่า “ให้เด็กๆออกไปก่อนเถอะ ข้ามีธุระจะคุยกับเจ้า”

ชูเซี่ยพยักหน้าให้เด็กทั้งสอง เด็กทั้งสองออกไปอย่างว่าง่าย เฉินหยวนชิ่งมองจิงโม่อย่างไม่ละสายตา เงาเล็กๆน้อยมักทำให้เขาหลง และได้รวมหล่อนกับอวี่จู๋เมื่อหลายปีก่อนเข้าด้วยกัน

เมื่อเงาเล็กๆทั้งสองหายไปจากสายตา เขาพูดกับชูเซี่ยอย่างเย็นชาว่า “หลังจากที่อวี่จู๋เข้าวังมาแล้ว เจ้าต้องรับประกันความปลอดภัยของหล่อน”

เฉินหยวนชิ่งพูดด้วยสีหน้าแน่วแน่ แต่มองอี้กลับมองดูเฉินหยวนชิ่งที่หนักแน่นเพียงนี้ พลันถามอย่างสงสัยว่า “เพื่ออะไรล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า