ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 341

ตอนที่ 341 คุกคาม

ชูเซี่ยคิดว่ารอให้เฉินอวี่โหร่วเข้ามาในวังเสียก่อนจากนั้นนางจึงค่อยส่งคนไปให้การคุ้มครองนาง เพราะว่านางคือเฉินอวี่จู๋ นางคือคนที่ทำให้ชูเซี่ยและหลี่เฉินเย่นถูกความรู้สึกผิดเกาะกุมในจิตใจมาตลอด

แต่ทว่าการตัดสินใจที่จะส่งคนไปไม่ได้หมายความว่านางจะต้องไปด้วยตนเองเสียหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามนี้ที่เฉินหยวนชิ่งมาออกคำสั่งกับนางเช่นนี้

“เมื่อหลายปีก่อนเป็นเพราะความอิจฉาริษยาของเจ้าถึงกับทำให้นางต้องจากโลกนี้ไปถึงห้าปี เรื่องนี้เป็นเจ้าที่ติดค้างนาง” เฉินหยวนชิ่งคิดไม่ถึงว่ามาจนถึงบัดนี้แล้วชูเซี่ยก็ยังคิดที่จะไม่ยอมรับมันอยู่อีก ดังนั้นตอนที่ชายหนุ่มเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกไปสีหน้าจึงเต็มไปด้วยความแค้นเคือง

เมื่อได้รับฟังเหตุผลข้อนี้ของเฉินหยวนชิ่งก็ทำให้ชูเซี่ยอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ หญิงสาวจ้องมองมาที่เฉินหยวนชิ่งก่อนจะค่อยๆเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เฉินหยวนชิ่ง ตอนนั้นข้ารักษาเฉินอวี่จู๋อย่างสุดความสามารถของข้าแล้ว ตัวข้าเองไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องละอายใจแก่ตัวเองแม้แต่น้อย ข้า ไม่ ได้ ติด ค้าง นาง!”

“อีกอย่างข้ารบกวนท่านเดินออกจากตำหนักของข้าและเลี้ยวซ้ายตรงไปทางตำหนักของหรูกุ้ยเฟยแล้วไปวางท่ายะโสโอหังของท่านที่นั่นจะดีกว่า เพราะตอนนั้นหญิงผู้นั้นเป็นคนวางยาพิษน้องสาวท่าน ตอนนี้นางย่อมต้องพยายามปกป้องคุ้มครองน้องสาวท่านอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว” ชูเซี่ยยิ่งคิดยิ่งโมโห เมื่อก่อนนางยังหลงชื่นชมว่าชายหนุ่มผู้นี้รักใคร่น้องสาวน่าชื่นชมยิ่งนัก นับเป็นบุรุษที่น่ายกย่อง แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าตอนนี้จะกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ไม่ยอมรับฟังเหตุผลก็ช่างมันเถิด แต่นี้ถึงขั้นฟังภาษาคนไม่เข้าใจก็เกินไปกระมัง

“ชูเซี่ย ตอนนี้ในมือของเจ้ามีกองทัพพรรคมังกรเหินอยู่ในมือ ตอนนี้คนของพรรคเจ้าก็กลายเป็นองครักษ์ผู้รับผิดชอบในการคุ้มครองวังหลวงไปแล้ว ดังนั้นจึงมีเพียงเจ้าที่ปกป้องนางได้” เฉินหยวนชิ่งเอ่ยเสียงต่ำ ยามนี้ท่าทีของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เหลือท่าทีของคนที่พร้อมจะรับฟังเหตุผลอีกแล้ว เขาวางท่าราวกับตนเองเป็นเจ้าหนี้ที่กำลังทวงหนี้จากนางก็ไม่ปาน

“ทางฝั่งหรูกุ้ยเฟยเองก็มีราชองครักษ์ของแคว้นหนานจ้าวเช่นกัน การปกป้องคุ้มครองน้องสาวของท่านก็ควรเป็นหน้าที่ที่นางต้องรับผิดชอบไม่อาจปัดไปให้ผู้อื่นได้ ท่านก็ไปหานางเถิด” ชูเซี่ยกล่าวจบก็เตรียมพร้อมจะลุกขึ้น ยามนี้นางจนปัญญาที่จะแลกเปลี่ยนกับเฉินหยวนชิ่งแล้ว

หยิ่งยะโส จองหองอวดดี เอาความคิดตนเองเป็นใหญ่ ตอนนี้ชูเซี่ยเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าเพราะเหตุใดหลี่เฉินเย่นจึงได้กล่าวว่าเฉินหยวนชิ่งในยามนี้ไม่ใช่เฉินหยวนชิ่งคนเดิมอีกต่อไปแล้ว

“ชูเซี่ย ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถทำได้ ยามนี้ในวังหลวงมองไปทางใดก็ล้วนมีแต่คนของเจ้า มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะปกป้องนางได้” คราวนี้ท่าทีของเฉินหยวนชิ่งอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังแสดงออกราวกับว่าการที่ชูเซี่ยต้องปกป้องคุ้มครองน้องสาวของเขานั้นเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว

“แม่ทัพเฉินเจ้าคะ ยามนี้ตัวท่านเองก็เป็นถึงผู้รักษาการตำแหน่งเสนาบดีกลาโหม สามารถออกคำสั่งกองกำลังทหาภายใต้อาณัติของท่านเป็นแสนๆ ผู้ที่มีความสามารถที่จะปกป้องน้องสาวของท่านสมควรเป็นท่านจึงจะถูก อีกอย่างหนึ่ง เราไม่ได้สนิทกันสักหน่อยนะเจ้าคะ” ชูเซี่ยอดไม่ได้ที่จะกล่าววาจาเยาะเย้ยออกไป

เมื่อเฉินหยวนชิ่งได้ยินเช่นนั้นก็กัดฟันเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากหรือ แต่ตอนนี้คนในพรรคของเจ้ารับผิดชอบในส่วนของราชองครักษ์ในวังทั้งหมด ข้าไม่อาจวางตัวคนของข้าเข้ามาในวังได้”

ในที่สุดชายหนุ่มตรงหน้าก็ยอมกล่าวออกมาตรงๆเสียที ความจริงแล้วชายหนุ่มก็คิดที่จะแอบแทรกแซงกำลังคนของตนเข้ามาในวังจริงๆ แต่เพราะในยามนี้คนของนางควบคุมกองราชองครักษ์ในวังหลวงไว้จนหมดแล้ว เขาจึงอับจนหนทางที่จะส่งคนของตนเองเข้ามาในวังหลังแห่งนี้นี่เอง

นับตั้งแต่ที่เฉินอวี่จู่ตายไป ชายหนุ่มก็พยายามรวบรวมกำลังสร้างขุมกำลังของตนเองในราชสำนักมาโดยตลอด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่เฉินอวี่จู๋น้องสาวของเขาได้กลับมาอีกครั้ง ดังนั้นแม้ว่าเขาจะสามารถรวบรวมอำนาจมาไว้ในมือได้มาก แต่ก็ยังไม่มากพอ สายเกินไป

หากว่าอำนาจที่เขารวบรวมไว้ตลอดหลายปีมานี้สามารถปกป้องคุ้มครองเฉินอวี่จู๋ได้ เขาก็ไม่วันที่จะต้องแบกหน้ามาหาชูเซี่ยเป็นอันขาด

“ชูเซี่ย ข้าไว้หน้าเจ้าแล้วแต่เจ้ากลับไม่คิดไว้หน้าข้างั้นหรือ เดิมทีความปลอดภัยของน้องสาวข้าก็สมควรเป็นความรับผิดชอบของเจ้าด้วยซ้ำ ต่อจากนี้ไป หากว่าเกิดอะไรขึ้นกับอวี่จู๋แล้วล่ะก็ข้าจะให้หลี่เฉินเย่นเป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนให้ข้าอย่างสมน้ำสมเนื้อแทน!” เฉินหยวนชิ่งนึกไม่ถึงว่าชูเซี่ยจะไม่สนใจในข้อเสนอของเขาทั้งยังเอ่ยวาจาเยาะเย้ยเขาเช่นนี้

เมื่อไม่มีทางเลือกชายหนุ่มจึงจำต้องใช้วิธีคุกคามนางแทน แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องของนางมากนักแต่มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้แน่ชัดที่สุดก็คือหลี่เฉินเย่นเป็นจุดอ่อนของนาง

ชูเซี่ยได้ยินคำพูดของเฉินหยวนชิ่งก็หัวเราะคิกคักออกมาก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะบอกอะไรให้นะเจ้าคะ การที่ท่านจะให้ข้าคอยปกป้องคุ้มครองน้องสาวของท่านข้าไม่สามารถทำได้ แต่ทว่าหากท่านกล้าแตะต้องหลี่เฉินเย่นแล้วล่ะก็ ข้าเองก็ไม่ลังเลที่จะให้น้องสาวคนดีของท่านเป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนเช่นกัน”

ใบหน้าของชูเซี่ยยังคงยิ้มแย้มยามที่นางกล่าววาจาเช่นนี้ไป น้อยครั้งมากที่นางคิดจะพูดจาข่มขู่ผู้อื่นเช่นนี้ แต่ทว่าเมื่อลองทำตัวเป็นนักเลงข่มขู่ผู้อื่นแบบที่เฉินหยวนชิ่งทำนางก็รู้สึกสะใจไม่น้อย

“ชูเซี่ย เจ้า...”

“ตอนนี้แม่ทัพเฉินเองก็คงรู้แล้วสินะเจ้าคะว่าควรปฎิบัติตนต่อฝ่าบาทเช่นไรดี หากว่าท่านยังทำตัวกำเริบเสิบสานเช่นนี้ต่อไป ครั้งหน้าข้าเองก็คงต้องบอกเรื่องที่ท่านทำตอนอยู่ในท้องพระโรงให้น้องสาวของท่านอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ถึงตอนนั้น...” ชูเซี่ยเหลือบมองใบหน้าของเฉินหยวนชิ่งที่บัดนี้ซีดเผือดจนดูไม่ได้

แต่ก็เป็นเพีงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น จากนั้นสีหน้าของชายหนุ่มก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม ดวงตาคมจับจ้องมาที่ใบหน้าของชูเซี่ยก่อนจะแสร้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อวี่จู่เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นเสมอ นางย่อมเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำล้วนเพื่อนางเพียงผู้เดียว หากว่าตัวข้าไม่ใช่ขุนนางที่มีอำนาจทางการทหารมากมาย หากว่าข้าไม่มีอำนาจที่เขาต้องกลัวเกรงแล้วล่ะก็ เจ้าคิดหรือว่าชายผู้นั้นจะยอมแยแสในตัวอวี่จู๋”

ยิ่งเฉินหยวนชิ่งอธิบายให้ชูเซี่ยฟังมากเท่าใดก็เหมือนกับว่าชายหนุ่มกำลังอธิบายบอกให้ตนเองฟังมากเท่านั้น ชูเซี่ยเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไร นางเพียงแค่จ้องมองเฉินหยวนชิ่งและยิ้มรับฟังแต่โดยดี เฉินหยวนชิ่งมองนางด้วยสรหน้ารำคาญใจอย่างยิ่ง เพราะเขามองออกมายามนี้ในดวงตาของนางที่มองตรงมาที่เขาเต็มปด้วยความเวทนาสงสารเขา

“อวี่จู๋นางจะต้องเข้าใจในการกระทำของข้า ในภายภาคหน้าชีวิตของนางจะต้องมีแต่ความสุข”

“อืม ข้าก็ขอให้ท่านสมปรารถนาก็แล้วกันนะเจ้าคะ”

ชูเซี่ยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยวาจาประชดประชันกับคำพูดทั้งหมดที่เฉินหยวนชิ่งมา ความรู้ผิดที่หลี่เฉินเย่นเคยมีต่อเฉินอวี่จู่ยิ่งมาก็ยิ่งน้อยลงไปทุกที เหตุผลก็ไม่ใช่อะไรเลย มันก็มาล้วนมาจากการกระทำของเฉินหยวนชิ่งทั้งสิ้น หากว่าเฉินหยวนชิ่งไม่เที่ยววางอำนาจบาดใหญ่ในท้องพระโรง เอาเถิด ต่อให้หลี่เฉินเย่นจะไม่ถือสาหาความเขาและทำดีต่อเฉินอวี่จู๋ แต่เหล่านางสนมในวังหลังก็หาใช้หญิงสาวที่มีจิตใจงดงามถือศีลกินเจเสียเมื่อไหร่ พวกนางก็ย่อมหาเล่ห์กลอุบายในการแก่งแย่งชิงดีหลี่เฉินเย่นมาเป็นของตนอยู่ดี

ดังนั้น ทุกอย่างไม่มีทางเป็นไปตามความต้องการของเฉินหยวนชิ่ง...

เฉินหยวนชิ่งยืนจ้องเขม็งมาที่ชูเซี่ยแต่ไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ในหัวของเขาเอาแต่พร่ำบอกว่าไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก นี่มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าโดยแท้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงคิดจะหันหลังกลับออกไป แต่ตลอดระยะทางที่ชายหนุ่มเดินกลับในหัวของเขามีแต่คำพูดของชูเซี่ยที่ดังก้องอยู่ในนั้น หากว่าตัวเขาตั้งตนเป็นปรปักษ์กับหลี่เฉินเย่นจริงๆ แล้วเฉินอวี่จู๋จะเป็นอย่างไรต่อไป?

เพียงแค่คิดถึงสายตาที่เต็มไปด้วยประกายของเฉินอวี่จู๋ยามที่จ้องมองหลี่เฉินเย่นเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

เฉินหยวนชิ่งเองก็คงนึกไม่ถึงว่าในเวลาเดียวกันนั้นชูเซี่ยเองก็กำลังขบคิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาทั้งสองต่างก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเฉินอวี่จู๋ที่แสนเฉลียวฉลาดผู้นั้นจึงได้ทำเช่นนี้ นางรู้ทั้งรู้ว่าหัวใจของหลี่เฉินเย่นมีเจ้าของอยู่แล้วแต่ทำไมจึงยังเต็มใจที่จะก้าวเท้าลงมายังนรกอย่างวังหลังแห่งนี้กันนะ

ชูเซี่ยไม่เชื่อว่าจะมีรักแท้เช่นนี้อยู่จริง ส่วนเฉินหยวนชิ่งก็ถูกน้องสาวของตนเองทำให้มัวเมาเชื่อในคำพูดของน้องสาวตนเองทุกอย่าง ในใจของชายหนุ่มยามนี้คิดเพียงแต่ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้น้องสาวของเขาได้รับในสิ่งที่นางต้องการ

หลังจากผ่านพ้นบทสนทนาที่ไม่ลงรอยกันแล้ว ชูเซี่ยและเฉินหยวนชิ่งต่างก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมการเรื่องที่โหร่วเฟย

จนกระทั่งผ่านพิธีการแต่งตั้งโหร่วเฟยเรียบร้อยแล้วชูเซี่ยจึงเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าหลิวมี่เหอเองก็เคยมีตำแหน่งเป็นโหร่วเฟยเช่นกัน

แม้ว่าเรื่องราวในอดีตที่ผุดขึ้นมาในหัวจะทำให้นางรู้สึกวุ่นวายใจอยู่บ้างแต่ชูเซี่ยก็ตั้งใจแล้วว่านางจะยังอยู่เคียงข้างหลี่เฉินเย่นต่อไป

ชูเซี่ยคิดว่าตลอดว่าตนเองสามารถทำใจได้แล้วเรื่องที่หลี่เฉินเย่นแต่งตั้งนางสนม แต่ทว่าเมื่อนางมายืนอยู่ต่อหน้าพิธีกรรมเช่นนี้นางก็รู้สึกปวดใจมากอยู่ดี

หลี่เฉินเย่นแต่งตั้งนางสนมมามากมาย จริงอยู่ที่พวกนางต่างก็ไม่เคยได้รับความรักจากชายหนุ่ม แต่ตัวนางเองซึ่งได้รับทั้งความรักจากเขาทั้งยังได้ให้กำเนิดบุตรให้แก่เขาถึงสองคนกลับไม่มีโอกาสเหมือนเฉินอวี่โหรว เฉินอวี่จู๋ นางไม่มีโอกาสที่จะมีฐานะอยู่เคียงข้างเขาอย่างสมเกียรติดั่งที่ผู้อื่นได้รับ

ยางรู้สึกอิจฉาเฉินอวี่จู๋ ทั้งยังรู้สึกอิจฉาเหล่านางสนมของหลี่เฉินเย่นทั้งหลายที่ได้มีตำแหน่งอยู่ข้างกายเขาอย่างสมฐานะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า