ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 345

ตอนที่ 345 เล่นละคร

แม้ว่าหลี่เฉินเย่นและเฉินหยวนชิ่งจะเป็นขุนนางราชสำนักทั้งคู่ไม่อาจลงไม้ลงมือในพระตำหนักใหญ่ได้แต่วาจาของทั้งคู่ก็ช่างเชือดเฉือนกันราวกับกำลังต่อสู้กันด้วยดาบก็ไม่ปาน ทางด้านเฉินอวี่โหรวที่อยู่อ้อมแขนของเฉินหยวนชิ่งก็ร้องไห้อย่างโศกเศร้าพลางมองไปที่หลี่เฉินเย่นอย่างอาลัยอาวร ภาพตรงหน้าทำให้ชูเซี่ยนึกถึงวันนั้น วันที่เฉินอวี่จู๋พิษกำเริบ

หญิงสาวรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนยิ่งนัก นางอยากจะสนับสนุนเฉินอวี่โหรวให้สมหวังแต่ผู้ชายคนนั้นก็เป็นคนที่นางรัก

หลี่เฉินเย่นหันกลับมามองชูเซี่ยด้วยแววตาที่ฉายชัดถึงความหงุดหงิด แต่ชูเซี่ยเพียงยิ้มให้เขาบางๆและก้มหน้าหลบสายตาของชายหนุ่ม หากว่าทำได้จริงนางก็ไม่อยากปล่อยให้หลี่เฉินเย่นไปเช่นกัน เฉินหยวนชิ่งเองก็คงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่อกีทั้งเฉินอวี่โหรวผู้นี้ก็เคยเป็นคนที่ยอมสละแม้กระทั่งชีวิตของตัวนางเองก็เพื่อเชียน

“นายหญิงชู หากว่าเราจำไม่ผิดเจ้ามีสิทธิในการปกป้องวังหลวงเท่านั้นไม่ใช่หรือ นึกไม่ถึงว่าท่านและแม่ทัพเฉินก็เป็นเหมือนกัน ชอบสอดมือเข้ามายุ่งในเรื่องบ้านของเราเหลือเกิน” หลี่เฉินเย่นกล่าวจบก็เดินสะบัดชายเสื้อจากไปอย่างหงุดหงิด

ชูเซี่ยถอนหายใจก่อนจะหันกลับมาที่เฉินหยวนชิ่ง “ไปส่งโหรวเฟยเข้าพิธีเถิด ฝ่าบาททรงนำไปก่อนแล้วล่ะ”

เดิมทีเฉินหยวนชิ่งตั้งใจจะพาตัวของน้องสาวออกจากวังแล้ว และเขาจะทำทุกวิธีทางให้หลี่เฉินเย่นผู้นี้เป็นฝ่ายก้าวเท้ามาหาเขาที่จวนแม่ทัพเพื่อสู่ขอน้องสาวของเขาด้วยตนเอง แต่นึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าจู่ๆหลี่เฉินเย่นที่หัวรั้นไม่ยอมคนเมื่อครู่กลับยอมเปลี่ยนความคิดมาเข้าพิธีกับน้องสาวของเขาเสียอย่างนั้น

เมื่อคล้อยหลังของเฉินหยวนชิ่งที่เดินออกไปจากพระตำหนักใหญ่ไปแล้ว ไทเฮาก็ทรงเสด็จเข้ามาใกล้ชูเซี่ยและกุมมือของนางไว้ “หากว่าฝ่าบาททรงเข้าพิธีกับนางจริงๆ คืนนี้พระองค์ก็ต้องค้างคืนกับนางที่ตำหนัก เจ้ารู้ข้อนี้ใช่หรือไม่”

ชูเซี่ยพยักหน้า ขนบธรรมเนียมนี้นางรู้ดี ดังนั้นนางจึงต้องให้หลี่เฉินเย่นไป นางรู้ดีว่ามีเพียงนางที่เกลี้ยกล่อมหลี่เฉินเย่นไปที่นั่นได้

หากว่าหลี่เฉินเย่นแสดงท่าทีชอบพอต่อเฉินอวี่โหรวก็เท่ากับเป็นการชนะใจเฉินหยวนชิ่งด้วยเช่นกัน หากว่าพิธีส่งตัวทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเชียนและเฉินหยวนชิ่งต้องมึนตึงกันยิ่งกว่าเดิม ผลที่ออกมาก็มีแต่แย่กับแย่

“เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมกับเจ้าเลยจริงๆ หากว่าราชวงศ์เราไม่มีธรรมเนียมคร่ำครึเช่นนั้น ฝ่าบาทก็คงไม่...” มีคำพูดมากมายเป็นพันเป็นหมื่นแต่สิ่งที่ทรงทำได้ก็เพียงแค่ถอนพระปัสสาสะออกมา

“ไทเฮาทรงเชื่อมั่นในตัวพวกหม่อมฉันนะเพคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ต้องดีขึ้นในที่สุดเพคะ” น้อยครั้งที่ชูเซี่ยจะได้ฟังถ้อยคำปลอบโยนจากองค์ไทเฮา เมื่อชูเซี่ยรู้สึกได้ถึงความใส่พระทัยที่พระองค์มีต่อนาง นางก็ค่อยๆเอื้อมมือมากอบกุมพระหัตถ์ของพระองค์ไว้ก่อนเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจังเป็นการยืนยัน

แต่ทว่าเส้นทางที่นางเลือกเดินนั้นช่างเป็นเส้นทางที่ยาวเหลือเกินทั้งยังเต็มไปด้วยหลุมบ่อ เส้นทางที่บิดเบี้ยวสายนี้จะค่อยๆเปลี่ยนชีวิตของทั้งเขาและนาง แม้แต่งานแต่งตั้งพระสนมเล็กๆงานนี้ก็เป็นหนึ่งในหลุมบ่อที่นางและเขาต้องเผชิญเช่นกัน

ตกเย็นชูเซี่ยก็เดินทางมาถึงตำหนักโหรวหยีและก็พบว่าซ่องิว่นเชียนและเหล่านางสนมวังหลังก็ล้วนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว หลี่เฉินเย่นนั่งอยู่ที่กลางพระตำหนักด้วยสีหน้าเย็นชา ข้างกายของเขามีโหรวเฟยนั่งอยู่ ถัดไปทางขวามือก็มีฉ่ายเวินและหลันกุ้ยเฟยนั่งอยู่เช่นกัน มีเพียงเก้าอี้ทางซ้ายมือเท่านั้นที่ถูกเว้นว่างเอาไว้

ชูเซี่ยย่างกรายเข้าไปถวายบังคมต่อหน้าหลี่เฉินเย่นก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้ารับเบาๆด้วยใบหน้าเย็นชาราวน้ำแข็งสลัก ทุกอย่างเป็นดังข่าวลือที่แพร่กระจายไม่ผิด ระหว่างฮ่องเต้และชูเซี่ย...

เราพระสนมต่างก็เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงระหว่างพวกเขาทั้งคู่ มีเพียงชูเซี่ยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นางไม่รอให้หลี่เฉินเย่นเปิดปากพูดอะไรก็เดินย่างไปนั่งที่นั่งที่ถูกเว้นว่างไว้ด้านซ้ายมือของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆและส่งยิ้มให้ถ้วนทั่ว

ทุกคนในที่นี้เมื่อเห็นชูเซี่ยนั่งลงก็ค่อยๆผุดลุกขึ้นมาและย่อกายคำนับ ฉ่ายเวินและหลันกุ้ยเฟยก็มีนางกำนัลข้างกายช่วยพยุงขึ้นและย่อกายคำนับเช่นกัน โหรวเฟยที่นั่งอยู่ข้างกายหลี่เฉินเย่นก็ตั้งใจจะลุกขึ้นเพื่อทำการคำนับแต่กลับถูกชายหนุ่มข้างกายรั้งไว้เสียก่อน

“วันนี้เป็นวันมงคลของเจ้าไม่จำเป็นต้องคาระวะนาง” หลี่เฉินเย่นกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คำพูดของเขาทำให้เหล่านางสนมในวังต่างก็กัดฟันด้วยความอิจฉาริษยา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า