ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 346

ตอนที่ 346 ทำให้ทุกคนโกธ

“เหลียงเฟย พระสนมเพคะ...”

“รีบไปเรียกหมอหลวงเร็วเข้า เร็ว” ชูเซี่ยตั้งใจจะเดินจากไป หูของนางก็ได้ยินเสียงของเหล่านางกำนัลในวังหลังตะโกนอย่างวุ่นวายเสียงดังไปหมด

“โหรวเฟยเพคะ...”

“รีบไปเชิญหมอหลวงมาเร็วเขา...”

“หรูกุ้ยเฟย...”

“ฝ่าบาท...”

ชูเซี่ยนึกไม่ถึงว่าคล้อยหลังนางมาทุกอย่างจะดูสับสนอลหม่านถึงเพียงนี้ หญิงสาวเตรียมจะหันหลังกลับนางก็ได้ยินหลี่เฉินเย่นคำรามเรียกชื่อนางอย่างขุ่นเคือง “ชูเซี่ย!”

ชูเซี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจผวาหันกลับมามองแล้วนางก็พบว่า เหลียงกุ้ยเฟยและหรูกุ้ยเฟยหมดสติอยู่บนพื้น และยังมีร่างของโหรวเฟยที่นั่งอยู่ข้างกายหลี่เฉินเย่นเมื่อครู่ยามนี้สลบไสลไม่ได้สติอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม

“ชูเซี่ย รีบมาดูพวกนางเร็วเข้า” หลี่เฉินเย่นกล่าวเรียกชูเซี่ยเสียงดัง ก่อนจะก้มหน้ามองโหรวเฟยด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เป็นแววตาที่เสียดแทงสายตาชูเซี่ยเหลือเกิน

“เจ้ายังยืนนิ่งอยู่ทำไมกัน รีบมาเร็วเข้า” ตอนที่หลี่เฉินเย่นเงยหน้าขึ้นมามองนางก็เห็นว่านางยังยืนนิ่งจึงตะโกนเรียกอีกครา

ชูเซี่ยจึงเริ่มคืนสติและวิ่งมาหยุดอยู่ข้างกายของเขาก่อนจะเอื้อมมือไปจับชีพจรของโหรวเฟย รอจนได้ความนางจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อจะบอกผลแก่เขา ตอนนั้นเองที่นางรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังสั่น

เชียนกำลังเครียด

หลี่เฉินเย่นเห็นชูเซี่ยกำลังมองมาที่ตนเอง เมื่อเห็นสีหน้าของนางเขาก็หลุบตาลง เขาอยากจับมือของนางเอาไว้แต่หญิงสาวกลับชักมือออกเสียก่อน “ถูกพิษน่ะเจ้าค่ะ ข้าสามารถแก้ได้”

หลี่เฉินเย่นมองชูเซี่ยอย่างรู้สึกผิด เขาอยากอธิบายให้นางเข้าใจ แต่ริมฝีปากกลับเอ่ยอะไรไม่ออก นอกจากคำว่า “ดี”

“นายหญิงชู ได้โปรดช่วยมาตรวจอาการพนะสนมของพวกข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ” นางกำนัลของหลียงเฟยได้ยินว่าท่านหมอเวินสามารถถอนพิษของโหรวเฟยได้จึงรีบเรียกคุกเข่าขอร้องอีกฝ่าย

ชูเซี่ยเหลือบมองนางกำนัลข้างกายของเหลียงเฟยจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แต่นึกไม่ถึงว่านางกำนัลผู้นั้นจะยังคุกเข่าและโขกศีรษะต่อหน้านางเช่นนี้ “นายหญิงชูเจ้าคะ พระสนมของเราเป็นสตรีของฝ่าบาท ที่พระนางทำลงไปก็ล้วนเป็นเพราะตำแหน่ง นาง...”

นางกำนัลผู้นี้ยามนี้ร้อนใจเป็นห่วงพระสนมของตนเองยิ่งนัก นางรีบร้อนอธิบายเรื่องของเหลียงเฟยเพราะทุกคนในวังต่างก็รู้ดีว่าฝ่าบาทและชูเซี่ยห่างเหินกันก็เป็นเพราะฝ่าบาททรงพึงพระทัยในตัวเหลียงเฟยขึ้นมา

“ชูเซี่ย เจ้ารีบไปดูเหลียงเฟยหน่อยเถิด” ชูเซี่ยที่กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่างกลับถูกหลี่เฉินเย่นเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็ตวัดสายมองไปที่ชายหนุ่มอยากเยือกเย็นเสียดแทงไปจนถึงกระดูกของเขา ทำให้หลี่เฉินเย่นรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มก้มลงมองโหรวเฟยในอ้อมแขนอีกครั้งนางก็ค่อยๆเดินไปที่เหลียงเฟยก่อนจะตรวจชีพจรให้ แต่ผลวินิจฉัยที่ได้กลับไม่เหมือนกับโหรวเฟย “พิษที่นางโดนข้าไม่อาจถอนได้”

“นายหญิงชูเจ้าคะ พระสนมของพวกเราและโหรวเฟยโดนพิษในเวลาเดียวกัน แต่เพราะเหตุใดพิษของโหรวเฟยจึงแก้ได้แต่พิษของเหลียงเฟยกลับ...” ยังไม่ทันที่นางกำนัลผู้นี้จะกล่าวจบในตำหนักก็เกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้นพร้อมกับที่ทุกคนที่มองมาที่ชูเซี่ยด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

“ชูเซี่ย หากเจ้าไม่พอใจเจ้าก็ลงมากับข้าเถิด เจ้าอย่าได้ริษยาหญิงสาวตัวเล็กๆเพียงคนเดียวจนหลงลืมว่าเจ้าเป็นหมอสิ” คำพูดของหลี่เฉินเย่นที่กล่าวมาราวกับมีดที่แทงทะลุเข้ามากลางใจของนางและยิ่งสะกิดให้ทุกคนในตำหนักแห่งนี้เข้าใจว่านางเป็นผู้ลงมือ

ชูเซี่ยมองหลี่เฉินเย่นก่อนจะแย้มรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความประชัดประชัน “ยังดีที่ฝ่าบาททรงรู้ว่าหม่อมฉันเป็นหมอ ในเมื่อหม่อมฉันเป็นหมอจะเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วยได้อย่างไรเล่า เพียงแต่ว่าพิษที่เหลียงเฟยได้รับไม่เหมือนกับพิษที่โหรวเฟยได้รับเพคะ หม่อมฉันเองก็จนปัญญา”

ชูเซี่ยกล่าวอย่างใจเย็นทั้งที่หัวใจของนางกำลังดำดิ่งสู่เบื้องลึก นางอยากบอกออกไปเหลือเกินว่าทุกคนในที่นี้ล้วนแต่สงสัยในตัวนางได้ แต่เขาทำไม่ได้

“นายหญิงชูเจ้าคะ ได้โปรดช่วยตรวจอาการให้พระสนมของข้าน้อยด้วยเถิดเจ้าค่ะ” ในสถานการณ์เช่นนี้ชุนหลานไม่มีทางเลือกอีกแล้ว นางไม่รู้ว่าชูเซี่ยจะยอมรักษาฉ่ายเวินหรือไม่ จริงอยู่ที่อีกฝ่ายเป็นหมอ แต่ทว่าความแค้นที่นางมีต่อฉ่ายเวินก็ฝังรากลึกยิ่งกว่าเหลียงเฟยด้วยซ้ำ

ตอนที่ชุนหลานเอ่ยปากร้องขอนางนั้น นางก็ทำเพียงเดิมพันเท่านั้น เดิมพันว่าชูเซี่ยจะเห็นแก่ความเป็นหมอของตนยอมช่วยรักษา แต่หากว่านางไม่ยอมรักษาก็จะทำให้หลี่เฉินเย่นผิดหวังในตัวนางอย่างยิ่งยวดแน่ ไม่ว่าจะเป็นผลเช่นไรก็ล้วนแต่เป็นเรื่องดี

ชูเซี่ยปรายตามองไปที่หลี่เฉินเย่นก่อนกระตุกยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากจากนั้นนางก็ค่อยๆเดินไปที่ข้างกายของฉ่ายเวินและตรวจดูชีพจรของนางด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ทำให้ผู้อื่นรู้สึกราวกับว่านางเป็นเพียงท่านหมอผู้หนึ่งเท่านั้น

ทุกคนในตำหนักใหญ่ต่างก็เฝ้ามองทุกการกระทำของชูเซี่ย แต่ก็ล้วนเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวอยากให้อีกฝ่ายตายเท่านั้น ผู้ที่ห่วงฉ่ายเวินอย่างแท้จริงคงมีเพียงชูเซี่ย หลี่เฉินเย่นและชุนหลานเท่านั้น

หลังจากที่นางตรวจชีพจรสักพักก็เงยหน้าขึ้นกล่าวกับชุนหลานยิ้มๆ “พานายหญิงของเจ้ากลับไปพักเถิด อีกไม่กี่ชั่วยามนางก็ฟื้นขึ้นมาเองนั่นล่ะ”

ชุนหลานมองชูเซี่ยอย่างตื่นตะลึง นานทีเดียวกว่าจะหาน้ำเสียงของตนเองเจอ “ท่านหมอเวินกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันเจ้าคะ จริงอยู่ที่นายหญิงของพวกข้าเคยทำร้ายลูกๆของท่าน แต่นั่นก็เพราะนางไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย เหตุใดท่านเห็นคนใกล้ตายแล้วจึงไม่ช่วย”

“ผู้ใดว่าข้าเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วย?” ชูเซี่ยได้ยินคำถามของชุนหลานแล้วก็บังเกิดโทสะขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

จริงอยู่ที่นางเข้ามาในวังด้วยฐานะหัวหน้าพรรคมังกรเหิน แต่ในยามนี้นางเป็นเพียงท่านหมอผู้หนึ่งเท่านั้น นางกำนัลผู้นี้ถือดีอะไรมาสงสัยในจรรยาบรรณแพทย์ของนาง

หากว่านางไร้จรรยาบรรณจริงนางคงเดินสะบัดชายผ้าออกไปจากตำหนักแห่งนี้แล้ว คนที่นี่ที่ถูกพิษล้วนแต่เป็นผู้หญิงของหลี่เฉินเย่น มีผู้ใดบ้างเล่าที่ไม่ใช่ศัตรูของนาง?

ที่นางยอมอยู่ที่นี่ก็เพราะว่านางเป็นหมอ นางไม่อาจละทิ้งจรรยาบรรณของตนเองเห็นผู้ที่ใกล้ตายแล้วไม่ยอมให้ความช่วยเหลือได้

ยิ่งสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นพิษของฉ่ายเวิน

ชูเซี่ยกล่าวจบนางก็หยิบกระเป่าเข็มที่อยู่ในอกเสื้อของตนออกมา ก่อนจะฝังเข็มลงที่จุดชีพจรตามตำแหน่งร่างกายฉ่ายเวินช้าๆ จากนั้นไม่นานก็กล่าวขึ้นมา “พิษในตัวหรูกุ้ยเฟยถูกถอนแล้ว”

ชูเซี่ยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงของนางที่กล่าวออกมาเต็มไปด้วยวาจาประชดประชัน

ขนตาของฉ่ายเวินกระพรือเบาๆก่อนที่ดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำตาจะค่อยๆปรือขึ้น หญิงสาวมองเห็นชูเซี่ยก็ยิ้มให้นางก่อนเอ่ยเสียงนุ่มนวล “เป็นพี่สาวที่ช่วยข้าหรือเจ้าคะ ขอบคุณพี่สาวมากเจ้าค่ะ”

ใบหน้าของฉ่ายเวินเต็มไปด้วยความซาบซึ้งตื้นตัน แต่ชูเซี่ยกลับยิ้มเย็นให้นางและก้มลงไปกระซิบข้างกูของอีกฝ่ายเบาๆ “ใต้หล้านี้ยังมีผู้ใดสามารถวางยาพิษเจ้าได้ด้วยหรือ”

ฉ่ายเวินนิ่งงันไป นางแกล้งสลบไปจริงๆ แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของนางก็คือการที่ชูเซี่ยยิมกลับมาตรวจชีพจรให้นางนั่นเอง นางไม่คิดว่าชูเซี่ยจะยอมกลับมา ดังนั้นเมื่อครู่หลังจากที่โหรวเฟยและเหลียงเฟยสลบไปนางจึงแสร้งหมดสติเช่นกัน

“พี่สาว ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าเพียงแค่รักฝ่าบาทเท่านั้น เพียงแค่นั้นท่านกลับไปอาจทนได้ถึงขั้นวางยาพิษเชียวหรือ ท่านคิดว่าเพียงแค่ช่วยถอนพิษให้เหล่านางสนมในที่นี้จะทำให้ฝ่าบาททรงกลับมาดีต่อท่านงั้นหรือเจ้าคะ”

หลังจากที่ฉ่ายเวินถูกจับได้นางก็มองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มรู้ทันของอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด นางจึงได้เอ่ยเช่นนี้ออกมา ก็เพื่อให้ทุกคนในตำหนักเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดมาจาก...

ชูเซี่ยวางยาพิษหรูกุ้ยเฟย? เช่นนั้นเหลียงเฟย โหรวเฟยก็เป็นฝีมือของนางเช่นกันหรือ ถ้าเช่นนั้นที่นางทำทีเป็นตรวจชีพจรเพื่อรักษานั้นก็... โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหลียงเฟย แท้จริงแล้วนางคงไม่คิดจะช่วยรักษาใช่หรือไม่

ชูเซี่ยมีเหตุผลที่จะเกลียดชังในตัวเหลียงเฟย ดังนั้นนางจึงคิดสังหารอีกฝ่าย?

หลังจากที่ฉ่ายเวินกล่าวจบ ทุกคนต่างก็หันมามองชูเซี่ยเป็นตาเดียว ก่อนหน้านี้ชูเซี่ยเอาแต่เก็บตัวอยู่ที่ตำหนักฉายเวยพวกนางทุกคนจึงรู้เรื่องเกี่ยวกับนางน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย แต่มาวันนี้เมื่อได้ยินคำพูดของหรูกุ้ยเฟยแววตาของพวกเขาที่มีต่อชูเซี่ยก็เริ่มเปลี่ยนไปในแง่ร้ายมากขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า