ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 348

ตอนที่ 348 คนที่วางพิษ

หลี่เฉินเย่นอ้าปากจะเอ่ยแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ดวงตาคมของเขาจ้องมองที่ชูเซี่ยด้วยดวงตาที่สงบราบเรียบ

“แม่ทัพเฉินตื่นตูมเกินไปแล้ว อาการของน้องสาวของท่านไม่ได้ร้ายแรงเสียหน่อย เพียงแค่ดื่มยาถอนพิษก็ฟื้นขึ้นมาแล้วล่ะ” ชูเซี่ยกล่าวยิ้มๆราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศหาใช่ชีวิตคนไม่

“เจ้ายังคิดจะเสแสร้งอะไรอีก เจ้าวางยาพิษน้องสาวของข้า หัวใจของเจ้ามันช่างอำมหิตยิ่งนัก” เฉินหยวนชิ่งกล่าวจบก็เตรียมจะโจมตีอีกฝ่ายทันที แต่ทว่าเชียนซานที่อยู่หลังชูเซี่ยก็เข้ามาขวางกระบวนท่าไว้ทั้งยังตอบโต้กลับ

เฉินหยวนชิ่งเป็นฝ่ายตั้งรับการโจมตีของเชียนซาน ในตอนที่พวกเขาทั้งสองต่อสู้กันอยู่นั้นชูเซี่ยจึงค่อยๆถอยกายออกจากวงต่อสู้นี้ช้าๆ

เชียนซานเองก็เป็นถึงสาวใช้ข้างกายของหัวหน้าพรรคมังกรเหินวรยุทธของนางย่อมไม่ธรรมดา แม้ว่าเฉินหยวนชิ่งเองก็มีวรยุทธล้ำเลิศแต่ก็ต่อสู้กันได้อย่างสูสี ทั้งเขาและนางต่างก็ต่อสู้กันเกือบร้อยกระบวนท่าก็ไม่มีท่าทีว่าฝ่ายไหนจะเพลี่ยงพล่ำ แต่ว่าชั่วขณะหนึ่งที่เชียนซานเผลอเขาก็พุ่งเข้าโจมตีชูเซี่ยทันที เดิมทีชูเซี่ยสามารถหลบการโจมตีของอีกฝ่ายได้ไม่ยากแต่นึกไม่ถึงว่าจู่ๆด้านหลังของนางก็มีแรงผลักกระแทกตัวนางไปข้างหน้า

ในเมื่อไม่อาจหลบพ้นการโจมตีของเฉินหยวนชิ่ง ชูเซี่ยจึงได้แต่เบี่ยงกายหลบเพื่อรับการโจมตีให้น้อยที่สุด

แขนของนางถูกฝ่ามือของเฉินหยวนชิ่งกระแทกเข้าอย่างแรง ความเจ็บปวดจู่โจมไปทั้งร่างจนชูเซี่ยต้องกัดฟันข่มมันเอาไว้ เมื่อเห็นว่าโจมตีนางได้สำเร็จเฉินหยวนชิ่งก็ยิ้มออกมาด้วยความสะใจอย่างไม่คิดปิดบัง

“นายหญิง!” เชียนซานนึกไม่ถึงว่าเฉินหยวนชิ่งจะลงมือกับชูเซี่ยทีเผลอ นางเผลอกรีดร้องออกมายามที่เห็นนายหญิงของตนถูกฝ่ามือของเฉินหยวนชิ่งซัดเข้าที่แขน ดวงตาของนางตวัดมองเฉินหยวนชิ่งด้วยแววตาโกรธแค้นและแฝงไปด้วยการการไม่ยอมแพ้อย่างยิ่ง เชียนซานต่อสู้กับเฉินหยวนชิ่งอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็นึกไม่ถึงว่าสาวใช้ผู้นี้จะละทิ้งนายหญิงของตนเข้าต่อสู้กับศัตรูเช่นนี้ เวลาเช่นนี้นางควรเป็นห่วงชูเซี่ยมากกว่าไม่ใช่หรือ

เฉินหยวนชิ่งพยายามหลบหลีกกระบวนท่าของนางแต่ก็ยังถูกโจมตีเข้าที่ร่างกายหลายครั้ง ชูเซี่ยเห็นว่าเฉินหยวนชิ่งถูกเชียนซานตีไปหลายครั้งก็พยายามเอ่ยปากห้ามปราม “เชียนซาน กลับมานี่ พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถิด”

เฉินหยวนชิ่งเห็นว่าเชียนซานยอมหยุดมือแต่โดยดีเขาก็หยุดมือด้วยเช่นกัน แต่ดวงตาที่อีกฝ่ายมองที่ชูเซี่ยยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

หลี่เฉินเย่นเป็นห่วงบาดแผลของชูเซี่ยเหลือเกินแต่ก็ต้องกัดฟันไม่เอ่ยปากออกไป ยิ่งเมื่อเห็นว่าเชียนซานแลเฉินหยวนชิ่งหยุดต่อยตีกันแล้ว หัวใจของเขาก็ถูกความเป็นห่วงและความสงสารเข้าครอบงำทั้งใจ แต่เขาทำไม่ได้ ชายหนุ่มรู้ดีว่าตนเองได้ยามนี้ทำได้แค่เพียงจ้องมองนางจากที่ไกลๆเท่านั้น

ชายหนุ่มพยายามข่มกลั้นความเจ็บปวดอย่างสุดกำลังแต่ถึงกระนั้นน้ำเสียงที่กล่าวมาก็ยังติดจะพร่าอยู่สักหน่อย “แม่ทัพเฉินชักจะเหิมเกริมมากไปหน่อยแล้วกระมัง ถึงอย่างไรนางก็เป็นหัวหน้าพรรคมังกรเหิน”

ไม่เพียงแต่หัวหน้าพรรคมังกรเหินเท่านั้น หลี่เฉินเย่นอยากปกป้องนางในฐานะที่นางเป็นผู้หญิงของเขาด้วยเช่นกัน แต่ว่าเขาก็รู้ดีว่ายามนี้มีเพียงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมังกรเหินของนางเท่านั้นที่จะใช้ยกขึ้นมาอ้างเพื่อห้ามปรามเฉินหยวนชิ่งได้

“หัวหน้าพรรคที่มีจิตใจคับแคบและเหี้ยมโหดเช่นนี้มีอะไรให้คนต้องเกรงกลัวหรือนับถือกัน ฝ่าบาททรงกล่าวเกินจริงไปแล้ว” แต่แท้จริงแล้วเฉินหยวนชิ่งไม่ได้คิดเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าจำแหน่งของนางมีอิทธิพลเพียงใดในราชสำนัก เพียงแต่การที่เขาเห็นน้องสาวของตนต้องโดนกระทำเช่นนี้เขาก็ไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้

“เฉินหยวนชิ่ง ตีครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่เจ้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้แต่นายหญิงของข้าก็ไม่เคยถือสาหาความเจ้า เจ้าอย่าได้ใจให้มันมากนัก แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆยังมีความอดทนมากกว่าเจ้าด้วยซ้ำ หากเกิดอะไรขึ้นพรรคมังกรเหินของเราจะให้เจ้าชดใช้อย่างสามสม!” เชียนซานขัดหูขัดตาในตัวเฉินหยวนชิ่งผู้นี้เหลือจะทน แม้กระทั่งคำพูดที่นางกล่าวก็ไม่คิดจะรักษาหน้าผู้ใดอีกต่อไป

เฉินหยวนชิ่งมองเชียนซนาก่อนจะส่งเสียงขึ้นจมูก ยามนี้เขารู้ดีถึงความสามารถของเชียนซานแล้ว และไม่คิดจะมีเรื่องกับอีกฝ่าย

“ฝ่าบาท ทางที่ดีก็ขอให้พระองค์ทรงควบคุมแม่ทัพสุดที่รักของท่านเอาไว้ให้ดี หากวันหน้าเขายังกล้าทำตัวไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเช่นนี้อีกพวกข้าก็จะนับว่าเขาเป็นศัตรูของพรรคมังกรเหิน!” เชียนซานไม่สนใจเฉินหยวนชิ่งอีกแล้วแต่กลับพุ่งเป้าไปที่หลี่เฉินเย่น เขาไม่ใช่รักนายหญิงของนางมากหรอกหรือแต่กลับทนมองนายหญิงของนางถูกรังแกได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังไม่ยอมเอ่ยคำพูดใดออกมาสักคำ นั่นทำให้เชียนซานรู้สึกขุ่นเคืองใจอย่างยิ่ง

“เชียนซาน เจ้าดูอาการบาดเจ็บของนายหญิงเจ้าก่อนเถิด”

ยามนี้เชียนซานไม่พอใจในตัวเขา หลี่เฉินเย่นกล่าวอะไรนางก็ล้วนฟังไม่เข้าหูขัดหูขัดตาไปเสียหมด ชูเซี่ยบาดเจ็บนางย่อมเห็น แต่เพราะมัวกับต่อสู้กับเฉินหยวนชิ่งจนละเลยนายหญิงของตนมันใช้ได้ที่ไหนกัน

“ท่านไม่ต้องมายุ่ง” เชียนซานตวัดสายตามองหลี่เฉินเย่นอย่างหงุดหงิดจากนั้นก็เดินกลับไปข้างกายชูเซี่ย ชูเซี่ยเห็นว่านางกลับมาใกล้แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองนางด้วยสีหน้าซีดเผือดและส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงห้าม

เวิวอี้ไม่พูดอะไรอีกแล้วนางเพียงสั่งให้เชียนซานพานางออกไปจากที่นี่ แม้แต่มองหลี่เฉินเย่นสักครั้งนางก็ยังไม่ยอมมองราวกับว่าความรู้สึกที่มีต่อหลี่เฉินเย่นนั้นมันไม่เหลือแล้วจริงๆ

หลี่เฉินเย่นไม่กล้ามองภาพของชูเซี่ยที่เดินห่างจากเขาไปเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่นางบาดเจ็บเช่นนี้ด้วยแล้ว เขากลัวว่าหากเขามองนางดวงตาของเขาจะแสดงความรู้สึกออกมาจนหมด ความรู้สึกที่เขาแสดงออกว่ารักและทนถนอมนางมากเพียงใด

“แม่ทัพเฉิน วันนี้เจ้าวู่วามเกินไปแล้ว” หลี่เฉินเย่นส่งสายตาเย็นเยียบให้แก่เฉินหยวนชิ่ง แต่ทว่าสายตาของชายหนุ่มกลับหลุบมองเพียงร่างบอบบางของน้องสาวที่นอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของหลี่เฉินเย่น แม้กระทั่งคำพูดของหลี่เฉินเย่นชายหนุ่มก็ไม่สนใจ

“โหรวเอ๋อ พี่ชายมาแล้ว พี่ชายมาสายเกินไปอีกแล้ว” เฉินหยวนชิ่งยามนี้เป็นห่วงน้องสาวของตนเองจนร้อนรนไปหมด ชายหนุ่มสาวเท้ายาวไปที่นางก่อนจะแย่งชิงร่างของน้องสาวมาจากอ้อมแขนหลี่เฉินเย่น

แม้จจะรู้ว่าพิษที่โหรวเอ๋อได้รับไม่รุนแรงนักเพียงแค่ดื่มยาถอนพิษก็หาย แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดี ยิ่งมาเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่สมควรให้น้องสาวของตนเองถวายตัวเข้าวังเลยจริงๆ เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆที่นางย่างเท้าเข้ามาในวังก็ถูกโบยทั้งตอนนี้ยังมาถูกพิษอีก ทำเอาเขาอกสั่นขวัญแขวนไปหมดแล้ว

“ฝ่าบาทกระหม่อมขอร้อง พระองค์ทรงโปรดดูแลคุ้มครองน้องสาวของกระหม่อมด้วยเถิด ชีวิตนี้ของนางพบเจอเรื่องทุกข์ทรมานมามากมายนัก นางรักฝังใจในตัวพระองค์มาตลอด ไม่ง่ายเลยกว่านางจะได้ถวายตัวเข้าวังหลวงเป็นสนมให้พระองค์ ทรงอย่าได้ทำให้นางผิดหวังเสียใจไปมากกว่านี้เลยพะย่ะค่ะ”

หากว่าเขาเลือกได้ เขาก็อยากพาน้องสาวของตนเองออกไปจากวังแห่งนี้ แต่ในเมื่อเฉินอวี่โหรวปรารถนาที่จะได้อยู่เคียงข้างกับหลี่เฉินเย่นแล้วเขาจะทำอะไรได้เล่านอกจากพยายามปกป้องนางอย่างสุดกำลังความสามารถของเขา มายามนี้เห็นน้องสาวของตนถูกลอบวางยาพิษเขาไม่อาจทำอะไรได้จึงได้แต่ร้องขอความเมตตาจากฮ่องเต้ให้พระองค์คอยคุ้มครองดูแลนางเท่านั้น

ทว่าหลี่เฉินเย่นก็เพียงปรายตามองมาที่เขานิ่งๆไม่กล่าวอะไรออกมาสักคำ

เฉินหยวนชิ่งผู้นี้มีสัยหยิ่งยะโสจองหอง เฉินอวี่จู๋รักใคร่ฝังใจในตัวของเขาแล้วอย่างไร ทนเห็นน้องสาวของตนเองผิดหวังไม่ได้เช่นนั้นหรือ แล้วชูเซี่ยเล่า นางเองก็รักใคร่ฝังใจในตัวของเขาเช่นกันแต่เขากลับต้องทำให้นางผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่างั้นหรือ ช่างน่าขำสิ้นดี!

“พี่สาว ท่านแม่จากไปแล้ว พวกเราไม่มีท่านแม่อีกแล้ว” เสียงเล็กของเด็กน้อยสองคนดังขึ้นจากมุมห้องจัดงานเลี้ยงพร้อมกับมือน้อยๆทั้งสองคู่ที่เต็มไปด้วยอาหาร เมื่อครู่หลังจากที่พวกเขาสองคนแอบเข้ามาในงานเพื่อกินของในงานเลี้ยงนั้นก็เฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักด้วยเช่นกัน ในฐานะผู้ชมที่อยู่มาตั้งแต่ต้นแล้วตอนนี้เด็กน้อยทั้งสองเริ่มตระหนักได้เสียแล้วว่ายามนี้พวกเขากำลังกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมโดยไม่รู้ตัว เพราะดูเหมือนว่าท่านพ่อท่านแม่ของพวกเขาจะแยกทางกันเสียแล้ว

น้ำเสียงเล็กๆที่เต็มไปด้วยความเสียใจและน้อยอกน้อยใจพาลให้ทุกคนต่างก็รักใคร่สงสาร เมื่อได้ยินเสียงของฉองเหลาหลี่เฉินเย่นก็ตวัดสายตามาจ้องมองเด็กตัวน้อยสองคนที่มีเศษอาหารเลอะอยู่เต็มปากด้วยความตกใจ หัวใจของชายหนุ่มคล้ายจะหวาดกลัวขึ้นมา ชายหนุ่มกางมือออกตั้งใจจะเรียกให้ลูกๆทั้งสองเข้ามาตนเองแต่นึกไม่ถึงว่าฉองเหลาที่อยู่ข้างกายจิงโม่จะร้องไห้โฮออกมาเสียก่อน

“น้องชาย ครั้งนี้พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราไม่น่าวางยาพิษให้สนมของเสด็จพ่อกินเลย ไม่เช่นนั้นท่านแม่ก็ไม่ต้องถูกเข้าใจผิดหรอก ไม่อย่างนั้น...”

เสียงของจิงโม่ไม่ดังเท่าฉองเหลาก็จริงแต่ทว่าก็ดังพอที่จะทำให้ทุกคนในห้องนี้ได้ยินอย่างชัดเจนเลยทีเดียว ทุกคนต่างก็ตื่นตะลึงกับสิ่งที่ตนเองเพิ่งได้ยินไป เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตำหนักแห่งนี้เกิดขึ้นจากน้ำมือของเด็กตัวเล็กๆสองคนนี้งั้นหรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า