ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 350

ตอนที่ 350 ให้มันสิ้นสุด

“ท่านอา ท่านยังจะให้ท่านแม่ของพวกข้ากลับมาทำไมอีกเจ้าคะ หรือว่าจะให้นางกลับมาช่วยถอนพิษให้คนงามในอ้อมกอดของท่าน?” ไม่รอให้หลี่เฉินเย่นกล่าวอะไรจิงโม่ก็เอ่ยถามยิ้มๆและแสดงท่าทางราวกับเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ปาน

“ท่านอาไม่มีทางให้ท่านแม่ของพวกเรากลับมาหรอกพี่สาว เมื่อครู่เขาก็คิดว่าท่านแม่ของพวกเราเป็นคนวางยาพิษไปแล้ว หากว่าให้ท่านแม่ของเรากลับมาแก้พิษแบบนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการสอนจระเข้ว่ายน้ำนะพี่สาว” ฉองเหลาปั้นสีหน้าจริงจังเอ่ยกับพี่สาวของตนอย่างเป็นการเป็นงาน

ทุกคนต่างก็ย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เฉินหยวนชิ่งทั้งประณามนางและทำร้ายร่างกายจนชูเซี่ยพาร่างกายที่บาดเจ็บของตนเองจากไปโดยที่ไม่ได้โต้ตอบอะไรชายหนุ่มด้วยซ้ำ

“ถ้าท่านแม่ของพวกข้าวางยาพิษจริงจะเสียเวลามาหาทางถอนพิษพวกนางทำไมกัน ถ้าเช่นนั้นไม่ต้องวางยาตั้งแต่แรกไม่ดีกว่าหรือ” จิงโม่และฉองเหลาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แม้ว่าการพูดคุยของพวกเขาจะดูไร้เดียงสาแต่ทุกคนก็จับได้ว่าน้ำเสียงของเด็กน้อยสองคนนี้กำลังน้อยอกน้อยใจ เสียใจและโกรธเคืองมากแค่ไหน

“จิงโม่ ท่านแม่ของเจ้าไม่ใช่ผู้วางยาพิษ ท่านแม่ของเจ้าเป็นหมอที่ดี” สุดท้ายเฉินหยวนชิ่งก็ยอมรับออกมาอย่างยอมแพ้ เขาทนมองสายตาเสียใจของจิงโม่ไม่ได้จริงๆ สายตาของนางทำให้เขารู้สึกประหม่าไปหมด ไม่รู้จะทำเช่นไรแล้ว

“หมอที่ดีก็เสียใจเป็น เจ็บตัวเป็น ข้าไม่ยอมให้ท่านแม่กลับมาเสียอย่าง ท่านอาก็ไปหาคนอื่นมารักษาก็แล้วกัน” เสียงเล็กๆของจิงโม่เอ่ยตอบเฉินหยวนชิ่งด้วยสีหน้าสงบมั่นคง

เฉินหยวนชิ่งกลับตอบคำว่าดีออกไปโดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวราวกับถูกผีเข้าสิงก็ไม่ปาน

เมื่อเผชิญไหน้ากับจิงโม่เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหัวใจของเขายากจะควบคุมร่างกายของตนเองได้ ราวกับว่าความหยิ่งทระนง ความยะโสโอหังของตัวเขาเองยอมศิโรราบให้แก่เด็กหญิงตัวน้อยผู้นี้เพียงผู้เดียว

หลี่เฉินเย่นจับจ้องเด็กหญิงเด็กชายตัวน้อยของตนเองอย่างเวทนา ยามนี้หัวใจของเขากลายเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีไอระเหยตลอดเวลา ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้เด็กๆของตนหวังจะปลอบประโลมแต่จู่ๆก็ได้ยินถ้อยคำที่ราวกับสายฟ้าฟาดลงมากลางใจของเขา

จิงโม่และฉองเหลาจับมือกันและหันมาทางหลี่เฉินเย่นก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไว้พบกันใหม่ขอรับ/ไว้พบกันใหม่เจ้าค่ะ เสด็จพ่อ”

ท่าทางเด็กขาดของเด็กน้อยทั้งสองทำให้หัวใจของหลี่เฉินเย่นแตกสลาย ชายหนุ่มวิ่งไปข้างหน้าเพื่อตามพวกเขาให้ทันแต่ทว่าจนแล้วจนรอดก็ตามได้เพียงเงา

“รีบตามพวกเขากลับมาให้เราเดี๋ยวนี้ เราไม่อนุญาติให้พวกเขาออกจากวังแม้แต่ก้าวเดียว!” หลี่เฉินเย่นคำรามเสียงดังก้อง การที่ชูเซี่ยออกไปจากวังก็เป็นจุดสิ้นสุดความอดทนของเขาแล้ว หากว่าจิงโม่และฉองเหลาไปจากอ้อมอกของเขาอีกคนเขาจะต้องเสียสติเป็นแน่

ทันทีที่ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งทุกคนในตำหนักต่างก็วิ่งวุ่นออกตามหานายน้อยจิงโม่และฉองเหลากันยกใหญ่ ด้านฉ่ายเวินก็เพิ่งจะตื่นจากภวังค์ความคิดของตนเอง นางรู้สึกสับสนกับเรื่องราวทั้งหมดไม่น้อย ก็คนที่วางยาพิษเหล่าสนมก็คือนางไม่ใช่หรือแล้วเหตุใดจึงกลายเป็นคู่แฝดวางยาพิษไปได้เล่า

การเคลื่อนไหวของคู่แฝดสองคนนี้แปลกประหลาดและไม่ธรรมดาเลย หลี่เฉินเย่นและเหล่าองครักษ์วิ่งตามร่างเล็กสองร่างนั้นเพียงพริบตาเดียวพวกเขาก็หายไปไม่เห็นแม้แต่เงา เหล่านางสนมและฉ่ายเวินเมื่อเห็นท่าทางร้อนพระทัยของฝ่าบาทก็แสร้งทำทีเป็นร้อนใจช่วยกันออกตามหาเด็กน้อยทั้งสองบ้างโดยเริ่มจากอุทธยานในตำหนักของโหรวหยีเป็นที่แรก

“เสด็จแม่คนงามท่านตามหาพวกข้าอยู่หรือ” น้ำเสียงเล็กๆน่าเอ็นดูดังขึ้นอยู่ข้างหูของฉ่ายเวิน หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองก็พบร่างเล็กๆสองร่างยืนอยู่บนต้นไม้ เด็กน้อยทั้งสองคนกำลังมองมาที่นางด้วยรอยยิ้มใสกระจ่างราวกับดวงอาทิตย์น้อยๆสองดวง

“ฉองเหลา จิงโม่ พวกเจ้ารีบลงมาเร็วเข้า เสด็จพ่อกำลังตามหาพวกเจ้าอยู่นะ” แม้ว่าจะยังหวาดผวากับเด็กสองคนนี้ไม่หายแต่ทว่าตอนนี้นางพบพวกเขาแล้ว มันเป็นโอกาสดีที่นางจะสร้างความดีความชอบต่อหน้าหลี่เฉินเย่น ฉ่ายเวินจึงกล่าวกับคู่แฝดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างยิ่ง

“เสด็จพ่อไม่เชื่อใจท่านแม่ทำให้ท่านแม่ของพวกข้าเสียใจยิ่งนัก พวกเราจะไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่คงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วล่ะ ท่านแม่เคยบอกว่าเสด็จแม่คนงามชอบเสด็จพ่อของพวกเรามาก จากนี้ไปท่านต้องดูแลเสด็จพ่อของพวกข้าให้ดีๆรู้หรือไม่ จะให้ดีต้องให้กำเนิดบุตรชายให้เสด็จพ่อด้วย หากว่ามีน้องชายตัวน้อยไว้สืบบังลังก์แล้วเสด็จพ่อจะได้ไม่ต้องตามหาพวกเราอีก” จิงโม่เอ่ยด้วยสีหน้าเสียอกเสียใจ ฉองเหลาเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับพี่สาวด้วยสีหน้าที่เสียใจเช่นกัน

ฉ่ายเวินมองดูปีศาจน้อยสองตนอย่างครุ่นคิด นางพร่ำบอกกับตนเองว่าอย่าได้เชื่อใจพวกเขาอีกเป็นอันขาดไม่เช่นนั้นก็จะถูกหลอกอย่างที่ผ่านมา แต่ทว่าในส่วนลึกของจิตใจนางก็ยินดีเหลือเกิน หากว่าเด็กสองคนนี้ไปจากวังหลวงจริงๆเช่นนั้นจากนี้ไปช่วงเวลาแห่งความสุขของนางกับศิษย์พี่ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วสินะ

นางเริ่มควบคุมความปลื้มปิติยินดีที่ท่วมท้นในหัวใจไม่ได้เสียแล้ว ชูเซี่ยก็ไปจากวังแล้ว ลูกๆของนางและหลี่เฉินเย่นก็จากไปด้วย เช่นนี้ในวังหลวงแห่งนี้ก็เหลือเพียงนางกับศิษย์พี่เสียที

ฉ่ายเวินไม่คิดจะนับรวมเหล่านางสนมคนอื่นๆมาเป็นศัตรูหัวใจให้เสียเวลา เพราะยามนี้คนที่มีภัยคุกคามต่อนางทั้งโหรวเฟยและเหลียงเฟยก็ถูกนางวางยาพิษไม่ได้สติไปแล้ว ส่วนจะให้ฟื้นขึ้นมาหรือไม่นั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนาง

ฉ่ายเวินรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ไม่มีชูเซี่ยนั้นไม่ว่านางจะทำอะไรก็ล้วนราบรื่นไปเสียหมด วังหลังที่ไม่มีชูเซี่ยนั้นแม้กระทั่งอากาศก็ยังดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

“แต่ว่าก่อนที่พวกเราจะออกไปจากวังพวกเราก็อยากจะบอกเสด็จพ่อเหลือเกินว่าแท้จริงแล้วผู้ที่วางยาพิษไม่มช่พวกเราหรอก ข้าเห็นนะว่าพี่สาวคนงามเป็นคนวางยาพิษ” ฉองเหลาทำทีเป็นกระซิบกระซาบกับจิงโม่จากนั้นทั้งสองคนก็พยักหน้าให้กันราวกับกำลังปรึกษาหารือกันอยู่

“อืม ความจริงแล้วข้าก็เห็นเหมือนกัน ยาพิษของโหรวเฟยมาจากจอกสุราของนาง ส่วนของเหลียงเฟยมาจากสันในหมูผัดเปรี้ยวหวาน เดิมทีข้าอยากเข้าไปกินสันในหมูผัดเปรี้ยวหวานนั่นสักหน่อย รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆนั่นข้าชอบที่สุดเลย น่าเสียดาย” จิงโม่เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอด แต่ฉ่ายเวินที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาหน้าซีดเผือดไปแล้ว

นางเป็นผู้ใช้พิษที่มีฝีมือร้ายกาจ การวางยาพิษแต่ละครั้งของนางไร้ร่องรอยไม่เคยมีผู้ใดจับได้ แต่ทว่าเด็กสองคนนี้กลับเห็นนางวางยาทั้งยังรู้ว่าวางที่ไหนงั้นหรือ?

ฉ่ายเวินไม่รู้ว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของเด็กๆหรือไม่ แต่ที่พวกเขากล่าวมานั้นล้วนถูกต้องทั้งสิ้น...

“พวกเจ้าอย่าได้กล่าวส่งเดช ข้าไม่ได้ ข้า...” ฉ่ายเวินพยายามโต้เถียงกลับไปแต่น้ำเสียงของนางตะกุกตะกักราวกับร้อนตัวก็ไม่ปาน

“แต่ว่าพวกเรามีเงื่อนไขให้ท่านสองข้อ หากพี่สาวคนงามยอมทำตามพวกเราก็จะไม่บอกเสด็จพ่อดีหรือไม่” จิงโม่เห็นท่าทางร้อนรนของฉ่ายเวินก็ใจดียอมเสนอเงื่อนไขให้อีกฝ่าย

“เงื่อนไขอะไร บอกมาเลย” ฉ่ายเวินกัดฟันถาม ยามนี้นางทำได้เพียงยอมทำตามเงื่อนไขของเด็กไม่ประสาสองคนนี้เพื่อปกปิดความผิดของตนเท่านั้น

“พวกเรายังไม่ได้คิด แต่ว่าท่านต้องรับปากพวกเราไม่ก่อนว่าจะทำตามเงื่อนไขของเราสองข้อไม่เช่นนั้นพวกเราจะนำเรื่องนี้ไปบอกแก่เสด็จพ่อ เข้าใจหรือไม่”

ฉ่ายเวินได้ยินก็สะดุ้งขึ้นมา ยามนี้ทางที่ดีที่สุดคือนางต้องตกปากรับคำเด็กสองคนนี้ไปก่อน หลังจากที่ชูเซี่ยและคู่แฝดสองคนนี้ออกไปจากวังแล้วนางก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว เมื่อไม่มีชูเซี่ยและคู่แฝดสองคนนี้นางก็จะกลายเป็นผู้ครอบครองวังหลังแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว ขอเพียงแค่นางทำดีกับศิษย์พี่ของตนอย่างสุดความสามารถเมื่อนั้นศิษย์พี่ก็จะได้เห็นความดีของนางในที่สุด จากนั้นต่อให้เด็กสองคนนี้จะมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของนางศิษย์พี่ก็จะทำใจลงโทษนางไม่ลงอยู่ดี

“พี่สาวคนงาม ท่านจงจำไว้ให้ดีเถิด รอจนพวกเรากลับวังอีกครั้งท่านต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพวกเรานะเข้าใจหรือไม่” เมื่อเห็นสีหน้ายินดีไม่ยินร้ายของฉ่ายเวิน ฉองเหลาก็เอ่ยเตือนสตินางอีกครั้ง

ฉ่ายเวินคิดใคร่ครวญอยู่สักพัก นางไม่เห็นว่าจะมีเงื่อนไขใดที่นางทำไม่ได้จึงรับปากตกลงอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่ได้ฟังเงื่อนไขเสียด้วยซ้ำ

เด็กทั้งสองคนพยักหน้าอย่างพออกพอใจจากนั้นก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหายไป เมื่อนั้นฉ่ายเวินจึงได้สติขึ้นมาและเริ่มคิดทบทวนในสิ่งที่เด็กสองคนกล่าวไว้

‘รอจนพวกเรากลับวังอีกครั้งท่านต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพวกเรานะเข้าใจหรือไม่’

แต่ฉ่ายเวินก็ส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ก็ในเมื่อพวกเขาคิดจะตามชูเซี่ยออกไปจากวัง ตำแหน่งองค์ชายน้อยองค์หญิงน้อยในวังก็ไม่เอาแล้วพวกเขายังจะกลับมาอีกหรือ

แต่หากว่าพวกเขาคิดจะกลับมาเล่า แล้วเช่นนั้นนางกับศิษย์พี่จะเป็นอย่างไรนะ หรือว่าแท้จริงแล้วชูเซี่ยคิดจะกลับมาอีกงั้นหรือ

แต่ว่าต่อให้ชูเซี่ยมีแผนจะกลับมาที่วังหลวงจริงๆแล้วอย่างไรเล่า ตราบใดที่ชูเซี่ยยังมีพิษอยู่ในร่างกายการจัดการนางก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า