ตอนที่ 352 รีบด่วน
ทันทีที่ชูเซี่ยพ้นออกมาจากรั้ววังหลวงนางและเชียนซานก็เร่งเดินทางมุ่งหน้าไปเก้อโจวทันที และด้วยการเดินทางอย่างไม่พักตลอดทั้งคืนทำให้พวกเขามาถึงเมืองเก้อโจวในวันถัดมา
การเดินทางอย่างหามรุ่งหามค่ำทำให้ทุกคนต่างก็เหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียกันหมด เดิมทีชูเซี่ยตั้งใจว่ารอให้ไปถึงสำนักเฉาปังในตัวเมืองเก้อโจวแล้วค่อยพักผ่อนทีเดียว น่าเสียดายเหลือเกินที่นายท่านเหมากลายเป็นลาที่รักความสะดวกสบายไปเสียแล้ว สุดท้ายพวกนางจึงต้องแวะพักที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งตรงชานเมืองเสียก่อน
“ไม่ทราบว่านายท่านเหมามีลาตัวเมียตัวไหนที่เข้าตาหรือไม่ ข้าจะได้ซื้อตัวนางมาให้ท่าน” ชูเซี่ยกล่าวพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆราวกับว่ากำลังมองหาคู่ให้แก่นายท่านเหมาอยู่จริงๆ นายท่านเหมาโกรธจนแทบจะยกกีบเท้าขึ้นเตะหญิงสาวข้างกายขึ้นมาตงิดๆ
แน่นอนว่ายามนี้ทุกคนต่างก็เหน็ดเหนื่อยจนไม่มีกระจิตกระใจจะมาตามหาคู่ให้นายท่านเหมาอยู่แล้ว ชูเซี่ยเพียงแค่ต้องการจะผ่อนคลายความกังวลของทุกคนก็เท่านั้น จากนั้นเมื่ออาหารมาทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตากินก่อนที่จะเร่งเดินทางกันต่อ
การเดินทางในคราวนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกขอบคุณในตัวนายท่านเหมาด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะกับเชียนซานที่วิ่งมาหยุดอยู่ข้างกายนายท่านเหมาและกล่าวกึ่งยิ้มกึ่งเอาอกเอาใจ “นายท่านเหมาเป็นลาดีถึงเพียงนี้ไม่รู้ว่าจะมีลาตัวเมียที่ไหนโชคดีได้ครองคู่กับท่านนะเจ้าคะ”
นายท่านเหมาตวัดสายตามองค้อนเชียนซานก่อนจะยกกีบเท้าหวังจะเตะสาวช่างจ้อผู้นี้แต่เชียนซานกลับวิ่งหนีเข้าร้านอาหารเสียก่อนจึงไม่ทันเห็นว่ายามนี้นายท่านเหมากำลังมองตามเชียนวานด้วยสีหน้าแสดงถึงความภาคภูมิใจมากเพียงใด
เพียงครู่เดียวเท่านั้นที่นายท่านเหมาก็ปั้นสีหน้าคล้ายรำคาญใจเช่นเดิมจากนั้นก็ชะเง้อมองชูเซี่ยและเชียนซานที่อยู่ในร้านอาหารชั่วครู่และก็ค่อยๆแยกตัวออกไปหาอะไรแถวนี้กิน เขาหรือจะมีกระจิตกระใจมาตามหาลาตัวเมียแถวนี้ ที่เขาต้องการพักที่นี่เพราะร่างกายเขาไม่ได้ออกกำลังกายมานานแล้วต่างหากเล่าจึงได้เหนื่อยง่ายเช่นนี้
ด้านเชียนซานและชูเซี่ยหลังากกลับมานั่งที่และกินข้าวไปได้เพียงไม่กี่คำก็เริ่มสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ พวกนางสองคนจึงลอบสบสายตากันจากนั้นเชียนซานก็กวักมือเรียกเสี่ยวเอ้อคนหนึ่งมาหาพวกนาง “เสี่ยวเอ้อ ตอนนี้เมืองเก้อโจวมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ นับตั้งแต่ที่พวกข้านั่งลงที่ร้านอาหารของ้จ่าก็เห็นว่ามีคนหอบหิ้วสัมภาระออกนอกเมืองไม่ขาดสายเลย”
ที่เชียนซานไม่ได้พูดออกไปก็คือคนที่หอบหิ้วสัมภาระหนีออกนอกเมืองส่วนใหญ่จะเป็นเพียงเด็กสาวเท่านั้น
“ข้าว่าพวกท่านเปลี่ยนใจกลับไปตอนนี้จะดีกว่านะขอรับ อย่าได้มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเก้อโจวเลย” เสี่ยวเอ้อผู้นี้ไม่ได้ตอบคำถามของเชียนซาน เขาเพียงแต่พยายามพูดกล่าวอ้อมๆอย่างระมัดระวังคำพู
“ทำไมหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” คราวนี้เชียนซานถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เริ่มตื่นตัวมากขึ้น
“พวกท่านไม่เคยได้ยินข้าวลือหรือขอรับ เรื่องมันเริ่มจากเมื่อหลายปีก่อนที่จู่ๆเหล่าเด็กสาวในเมืองเก็อโจวเริ่มหายตัวไปอย่างลึกลับโดยเฉพาะเด็กสาวที่มีรูปโฉมงดงามกำเนิดในชาติตระกูลดี และก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันมีข่าวลือออกมาว่าเด็กสาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับพวกนั้นถูกกักขังและส่งตัวไปให้พวกขุนนาง เมื่อมีข่าวลือเช่นนี้แพร่กระจายออกมาเหล่าบิดามารดาที่ต้องการปกป้องบุตรสาวของตนจึงจำเป็นที่จะต้องส่งตัวพวกนางออกนอกเมืองยิ่งห่างไกลจากเมืองเก้อโจวมากเท่าใดยิ่งดี”
เสี่ยวเอ้อผู้นี้เล่าไปพลางก็ถอนหายใจไปพลาง ด้านชูเซี่ยและเชียนซานยิ่งได้ฟังสีหน้าก็ยิ่งเคร่งขรึมเพราะพวกนางพอจสาเหตุการหายไปของเด็กสาวในเมืองเก้อโจวแล้ว
“แม่นางทั้งสองอายุยังน้อย หากว่าพวกท่านจะเดินทางไปเมืองเก้อโจวไม่ว่าอย่างไรก็ต้องผ่านตำบลอวี๋นจี๋ แต่ข้าน้อยว่าเพื่อความปลอดภัยแล้วพวกท่านก็อย่า...” เสี่ยวเอ้ออดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือน
“ขอบคุณพี่เสี่ยวเอ้อมากที่เตือนพวกข้า พวกข้ารู้แล้วว่าควรทำอย่างไรต่อไป” เชียนซานกล่าวจบก็หยิบเอาเงินก้อนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและส่งให้เสี่ยวเอ้อเป็นรางวัล เสี่ยวเอ้อผู้นี้เห็นเงินก็ตาโตขอบคุณยกใหญ่จากนั้นก็ถอยออกไป
“พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร” ชูเซี่ยเอ่ยถามหลี่ฉางอัน ว่านสู่นและว่านเฉียงเสียงเครียด
“นายหญิง พวกเราไปถล่มรังของพวกมันที่ตำบลอวี๋นจี๋กันเถิดเจ้าคะ หากพวกมันไม่ตายประชาชนคงไม่มีวันอยู่กันได้อย่างสงบสุขเป็นแน่” เชียนซานกล่าวอย่างเดือดดาล เมื่อครู่ยามที่นางงฟังเสี่ยวเอ้อเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนางก็อดไม่ได้ที่จะเวทนาสงสารเด็กสาวพวกนั้น เด็กสาวที่ต้องพบเจอเรื่องราวโหดร้ายทั้งที่พวกนางยังเด็กมากแท้ๆ
“นายหญิงขอรับ เรื่องนี้ไม่อาจรอได้พวกเราจำเป็นต้องรีบจัดการ” หลี่ฉางอันก็เห็นด้วยกับเชียนซานเช่นกัน
“เช่นนั้นพวกเราก็เดินทางไปตำบลอวี๋นจี๋เพื่อตรวจสอบดูก่อนก็แล้วกัน” ชูเซี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทว่าสีหน้าของนางบ่งบอกถึงการตัดใจที่จะช่วยเหลือเด็กสาวพวกนั้นไปแล้ว
นายท่านเหมาก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาเช่นกันจึงรีบวิ่งมารออยู่ตรงหน้าร้านเพื่อรอให้ชูเซี่ยออกมาเล่าเรื่องให้ตนเองฟังอีกครั้งแต่ทว่ายามนี้ชูเซี่ยกลับไม่ยอมพูดยอมจาอะไรทั้งนั้นเพราะในหัวนางมัวแต่คิดหาวิธีช่วยเหลือเด็กผู้หญิงพวกนั้นที่โดนจับตัวอยู่นั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...