ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 353

ตอนที่ 353 เสียสละตนเองเพื่อนช่วยคนอื่น

“อืม ข้าว่าเหตุผลที่เด็กสาวส่วนมากที่โดนจับเป็นเด็กสาวหน้าตาดีเพราะว่ามีคนตั้งใจจะใช้ความงามของพวกนางเป็นเครื่องมือมากกว่า”

“หมายความว่าอย่างไร” เชียนซานไม่เข้าใจที่ว่านเหลียงพูดมาแม้แต่น้อยจึงคาดคั้นนาง

“ก็หมายความว่าเด็กสาวทุกคนที่ถูกจับไปกำลังถูกจับอบรมสั่งสอนเอาไว้ใช้งานในรูปแบบหรือสถานการณ์ต่างๆไงล่ะเจ้าคะ” ว่านเหลียงกล่าวโดยไม่เงยหน้าจึงเหมือนกับว่าหญิงสาวกำลังกล่าวกับตนเองมากกว่า

“ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือใครกัน”

“ยังไม่ทราบ”

ในหัวของชูเซี่ยมีผู้ต้องสงสัยอยู่สี่คน เฉินหยวนชิ่ง จางเซียนฮุย เหลียงกุยและหลี่อวิ่นลี่...

“นายหญิงเจ้าคะ ความจริงเรื่องการลักพาตัวในตำบลอวี๋นจี๋เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วเจ้าค่ะแต่เด็กสาวที่ถูกลักพาตัวส่วนใหญ่จะเป็นคนจากนอกพื้นที่ แต่ระยะหลังๆมานี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหันมาลักพาตัวเด็กสาวในท้องถิ่นมากขึ้น เรื่องมันเลยใหญ่โตขึ้นมาน่ะเจ้าค่ะ”

“ข้าว่าเรื่องนี้มีความเป็นได้เก้าในสิบว่าจะเป็นฝีมือของหลี่อวิ่นลี่” ชูเซี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างมั่นใจ จางเซียนฮุยและเหลียงกุยมีตำแหน่งและอำนาจมากมายอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องวางแผนสาวงามอะไรพวกนี้เลย ส่วนเฉินหยวนชิ่งเองก็เพิ่งจะมีความทะเยอทะยานใฝ่หาอำนาจในระยะหลังมานี้นี่เอง จึงมีเพียงหลี่อวิ่นลี่เท่านั้นที่มีความเป็นไปได้สูงเพราะตัวเขาเองก็เป็นคนที่มีความสามารถในการอ่านใจคนอยู่แล้ว ดังนั้นอุบายในการซื้อใจคนและหลอกใช้คนคงมีแต่ชายคนนี้ที่คิดออกมาได้

“พวกมันใช้พิษในการควบคุมเด็กสาวให้พวกนั้นเชื่อฟังเจ้าค่ะ” เมื่อว่านเหลียงได้ยินคนที่ชูเซี่ยสันนิษฐานนางจึงเอ่ยสิ่งที่นางรู้ออกมาเพื่อสัมทับความเป็นไปได้ให้แก่ชูเซี่ยมากขึ้น

“นายหญิงเจ้าคะ บนร่างของข้าเองก็ได้รับพิษชนิดเดียวกันกับพวกนาง ท่านช่วยตรวจให้หน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ” ว่านเหลียงยื่นแขนของนางไปข้างหน้าเพื่อให้ชูเซี่ยตรวจ

ชูเซี่ยไม่ชักช้ารีบเอื้อมมือไปตรวจชีพจรให้นางทันที “พิษชนิดนี้ข้าถอนได้ รอให้ข้ากลับไปก่อนจะทพยาถอนพิษมามอบให้แก่เจ้า”

“นายหญิงช่างเป็นพระโพธิสัตว์กลับชาติมาเกินจริงๆ หากว่าพวกข้าได้ยาถอนพิษมาก็คงไม่ต้องกลัวพวกมันแล้วล่ะ เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะเป็นคนพาพวกนางออกมาจากหอนางโลมให้ได้ นายหญิงวางใจเถิดเจ้าค่ะ”

ว่านเหลียงรู้อยู่แล้วว่าชูเซี่ยจะต้องสามารถถอนพิษในกายของนางได้ เมื่อหลายวันก่อนนางเองก็พยายามจะหนีออกมาเพื่อตามหานายหญิงเช่นกันแต่นางก็เกรงว่าหากนางหนีออกมาและกลับเข้าไปใหม่จะทำให้คนพวกนั้นไม่ไว้ใจนางเข้มงวดกวดขันในการเฝ้าคุมเด็กสาวกันมากขึ้นจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรแต่โชคดีเหลือเกินที่สวรรค์ส่งนายหญิงมาหานางด้วยตนเองแช่นนี้

“ยาแก้พิษคงต้องใช้เวลาประมาณสิบวันจึงจะส่งมาถึง” ชูเซี่ยเห็นท่าทางดีใจของว่านเหลียงนางก็เอ่ยออกมาตรงๆเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายคาดหวังลมๆแล้งๆ

จริงอยู่ที่ว่านางสามารถเขียนเทียบยาขึ้นมาใหม่ได้แต่ว่าการหาสมุนไพรที่เป็นตัวยาก็ไม่ใช่ง่ายทั้งที่นี่ก็ไม่มีร้านขายยาจึงต้องได้แต่รอให้พรรคมังกรเหินที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงส่งยามาให้

“นายหญิง หากว่าเป็นเช่นนี้ข้าก็คงไม่อาจอยู่ถึงตอนที่ยาถอนพิษมาถึงแน่ ข้าบอกแล้วว่าตอนนี้ผู้ที่อันตรายที่สุดก็คือข้า” ว่านเหลียงร้อนรนขึ้นมาแล้ว เมื่อครู่นางอุตส่าห์ฝันหวานทั้งยังรับปากกับชูเซี่ยดิบดีว่านางจะเป็นผู้ที่พาเหล่าเด็กสาวออกมาจากหอนางโลมด้วยตนเอง แต่ว่าตอนนี้นางเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าตนเองจะมีโอกาสนั้นหรือไม่เพราะดูจากสีหน้าของแม่เล้าที่มองมาที่นางดูเหมือนจะเหลือเวลาไม่มากแล้วจริงๆ

ยามนี้ว่านเหลียงเริ่มรู้สึกเสียใจภายหลังเสียแล้ว รู้เช่นนี้ยามที่อยู่ในหอนางโลมนางคงไม่ทำตัวว่าง่ายเชื่อฟังเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกส่งตัวออกไปนอกตำบลเร็วถึงถึงเพียงนี้

“กลับไปครั้งนี้เห็นทีข้าจะต้องแกล้งโง่เสียแล้ว ไม่ว่าคนพวกนั้นสอนอะไรข้าข้าจะแกล้งทำเป็นทำไม่ได้ไม่รู้เรื่องก็แล้วกัน ข้า...” หัวของว่านเหลียงเริ่มตีกันวุ่นวายไปหมด นางไม่รู้ว่าจะเช่นไรต่อไปดีเพราะต่อให้ได้รับยาถอนพิษมาแต่เหล่าเด็กสาวพวกนั้นไม่มีนางอยู่ด้วยก็หนีออกมาไม่ได้อยู่ดี

ชูเซี่ยหันมามองว่านเหนียง “เจ้าก็บอกกับพวกนางว่าพวกข้ามียาถอนพิษให้ ให้พวกนางหนีตามเจ้าออกมาก่อนจากนั้นพวกเราก็ค่อยมอบยาถอนพิษให้ก็ไม่สาย”

“ไม่เจ้าค่ะ หากว่าพวกนางไม่ได้รับยาถอนพิษพวกนางย่อมไม่ออกมาแน่เพราะพวกเราเคยเห็นแล้วว่ายามพิษกำเริบจนตายมันเป็นเช่นไร” น้ำเสียงของว่านเหลียงที่กล่าวมาสั่นพร่าเล็กน้อยยามพูดถึงเด็กสาวที่พิษกำเริบจนตายต่อหน้านาง มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเป็นพิษชนิดใดกัน แม้กระทั่งนางที่เห็นเรื่องราวในยุทธภพมามากมายยังเกิดอาการหน้าถอดสีไม่ได้

ชูเซี่ยเห็นความหวาดกลัวของว่านเหลียงก็ตบบ่าเล็กๆของนางเบาๆเป็นการปลอบใจ นางรู้ว่ายามที่พิษกำเริบจะมีสภาพเป็นอย่างไร พิษชนิดนี้นับว่าร้ายแรงมากจริงๆ ยามที่พิษกำเริบคนที่ถูกพิษจะไม่สามารถควบคุมตนเองได้และพยายามเกาผิวหนังตนเองจนหนังหลุดลอกออกจนหมดเหลือเพียงเนื้อสีแดงๆข้างใน บางครั้งอาจเห็นถึงกระดูกเลยด้วยซ้ำแล้วจากนั้นผู้ที่ได้รับพิษก็จะตายไปเองช้าๆ

พิษชนิดนี้สำหรับบุรุษรูปร่างกำยำย่อมไม่น่ากลัวอย่างมากก็ตายอย่างทรมานเท่านั้น แต่กับเด็กสาวที่มีรูปโฉมงดงามการตายไปอย่างทรมานและมีสภาพไม่น่าดูเช่นนี้นับว่าน่ากลัวเกินไป

“นายหญิง หากว่าท่านคิดแผนการได้แล้วค่อยบอกข้านะเจ้าคะ ตอนนี้ข้าจำเป็นต้องกลับไปแล้วเพราะยาสลบที่ข้าใช้มีฤทธิ์ไม่รุนแรงนัก” ว่านเหลียงเห็นท่าทางครุ่นคิดของชูเซี่ยก็ตัดสินใจบอกลานาง

การหนีออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายและนางไม่สามารถอยู่ข้างนอกนี่เป็นเวลานานได้ ไม่เช่นนั้นตัวนางก็จะต้องย่ำแย่ไปด้วยอีกคน

“เดี๋ยวจะมีคนของพรรคมังกรเหินสะกดรอยตามเจ้ากลับไปด้วย เมื่อไหร่ที่ข้าคิดแผนออกข้าจะให้คนไปบอกเจ้า ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องตกอยู่อันตรายแน่ วางใจเถิด มีนายหญิงอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ใครต้องเป็นอะไรแน่” ชูเซี่ยกล่าวกับว่านเหลียงด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเหมือนกำลังเอ่ยคำมั่นสัญญา

หากว่าไม่จำเป็นจริงๆนางก็ไม่อยากให้ว่านเหลียงกลับไปที่นั่นเลยแต่หากไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือได้อย่างไร แม้ว่าจะไม่วางใจแต่นางก็ต้องตัดสินใจ

“ข้าเองก็จะแอบส่งข่าวภายในให้แก่นายหญิงเช่นกัน ตำบลอวี๋นจี๋มีคนของพวกมันไม่น้อยนายหญิงต้องระมัดระวังตัวให้มากนะเจ้าคะ” ว่านเหลียงกล่าวจบก็ทะยานออกไป ชูเซี่ยได้แต่มองตามเงาของอีกฝ่ายไปจนลับสายตาด้วยความเป็นห่วง

“หลี่ฉางอัน สั่งคนของเราให้ตามนางไปและให้ความคุ้มครองเด็กสาวพวกนั้น” ชูเซี่ยสั่งเสียงเรียบ

ชูเซี่ยรู้ดีว่าตราบใดที่เด็กสาวพวกนั้นยังอยู่ในหอนางโลมพวกนางก็จะยังไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพราะว่าพวกมันยังต้องฝึกอบรมพวกนางให้เป็นเครื่องมือที่พวกมันสามารถใช้ได้ในภายภาคหน้า แต่ที่นางเป็นห่วงก็คือหากว่าเด็กสาวพวกนั้นถูกส่งตัวออกมาแล้วล่ะก็ การค้นหาตัวพวกนางและช่วยถอนพิษให้คงเป็นเรื่องยาก ถึงตอนนั้น...

“นายหญิง แล้วถ้าหากว่าพวกมันส่งเด็กสาวพวกนั้นออกไปแล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ” เรื่องที่ชูเซี่ยกังวลนั้นหลี่ฉางอันเองก็กังวลอยู่เช่นกัน

จริงๆแล้วไม่ว่าทางใดก็ล้วนเสี่ยง จริงอยู่ที่ตราบใดพวกเด็กสาวยังอยู่ในหอนางโลมพวกนางก็จะปลอดภัยและเมื่อพวกนางถูกส่งตัวออกมาและพวกเขาให้การช่วยเหลือก็จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่หากจะปล่อยให้เด็กสาวอยู่ในหอนางโลมต่อไปเช่นนั้นก็เหมือนกับเป็นการให้พวกเขาทนมองดูเด็กสาวพวกนั้นเดินเข้าปากเสือช้าๆทีละก้าว

“เมื่อครู่ว่านเหลียงบอกว่าคนที่จะถูกส่งออกไปนอกเมืองมีเพียงแค่สามคนและตัวนางเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ในระหว่างที่พวกเขาส่งพวกนางออกนอกเมืองเก้อโจวไปหรือว่ากำลังเดินทางเข้าเมืองหลวงพวกเราก็ค่อยลงมือช่วยเหลือพวกนางก็ยังไม่สาย เพื่อไม่ให้พวกนั้นไหวตัวทันข้าเชื่อว่าทางฝั่งของว่านเหลียงนางก็คงไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรแน่ ข้าเชื่อใจนาง”

“แต่ว่า...” หลี่ฉางอันรู้สึกร้อนใจ ไม่ใช่ว่าเขาฟังไม่ออก คำพูดที่ชูเซี่ยบอกว่านางเชื่อใจว่านเหลียงเหมือนเป็นการบอกกับตนเองมากกว่าว่าให้เชื่อว่าว่านเหลียงจะปลอดภัย

การที่ให้ว่านเหลียงกลับไปที่นั่นอีกรอบจะดีจริงหรือ จริงอยู่ที่ฝีมือการค้นหาและสืบข่าวของนางจะดีเยี่ยมแต่ด้านวรยุทธนางก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมาก แล้วถ้าหากว่า...

“ไม่มีแต่ หากว่าต้องเลือกระหว่างหญิงสาวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับว่านเหลียงอย่างไรพวกเราก็ต้องเลือกช่วยเด็กสาวพวกนั้นเพราะว่าพวกเราเป็นคนของพรรคมังกรเหิน” คำพูดของชูเซี่ยชัดเจนทุกถ้อยคำและเหมือนเป็นคำพูดที่ปลุกไฟในกายของทุกคนในพรรคให้ตื่นตัวและมีกำลังใจเต็มที่

หน้าที่ของพรรคมังกรเหินคือปกป้องฮ่องเต้ ปกป้องราชสำนักรวมถึงประชาชนทั่วทั้งใต้หล้า พรรคมังกรเหินมีชีวิตเพื่อยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาชนของแผ่นดิน นั่นเป็นหน้าที่ที่พวกเขาทุกคนต้องแบกรับมันเอาไว้และเป็นเกียรติยศความภาคภูมิใจของพวกเขาด้วยเช่นกัน 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า