สรุปตอน ตอนที่ 354 ยอมตายเพื่อความเชื่อของตนเอง – จากเรื่อง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
ตอน ตอนที่ 354 ยอมตายเพื่อความเชื่อของตนเอง ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 354 ยอมตายเพื่อความเชื่อของตนเอง
“นายหญิงเจ้าคะ ตอนนี้พวกเราควรอยู่ที่นี่ต่อไปหรือเดินทางเข้าเมืองเก้อโจวดีเจ้าคะ” เชียนซานเอ่ยถาม
เรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองเก้อโจวก็วุ่นวายมากอยู่แล้ว มาตอนนี้ยังเกิดเรื่องลักพาตัวเด็กสาวที่ตำบลอวี๋นจี๋ขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็เจอแต่ปัญหา ทำให้หัวใจของเชียนซานสับสนวุ่นวายไม่อาจสงบได้เลยจริงๆ
“ไปเมืองเก้อโจว” ชูเซี่ยกล่าวจบก็หันหลังเดินจากไปท่ามกลางสายตาของหลี่ฉางอัน เชียนซาน ว่านสู่นและว่านเฉียงที่มองไปที่นางราวกับยังมีคำพูดอีกมากมายที่จะพูดอยากถามออกไป
“ข้ามีความรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่กับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เก้อโจวมีความเกี่ยวข้องกัน แต่มันก็อาจจะเป็นแค่ส่วนปลายของภูเขาน้ำแข็งที่พวกเราเห็นเท่านั้น ยามนี้มีข่าวลือแพร่กระจายออกมามากเกินไป หากว่าเป็นฝีมือของหลี่อวิ่นลี่จริงเขาย่อมไม่กล้าทำอะไรตอนนี้แน่ ดังนั้นข้าคิดว่ายามนี้พวกเด็กสาวคงยังปลอดภัย” ชูเซี่ยกล่าวสิ่งที่ตัวนางเองคาดเดาออกมา เชียนซานก็ผงกหัวหงึกๆเห็นด้วยกับนายหญิงของตน
จริงๆแล้วนางรู้สึกว่านี่เป็นแผนการของหลี่อวิ่นลี่ที่คิดจะรั้งให้พวกนางอยู่ที่ตำบลอวี๋นจี๋นี่มากกว่า หลี่อวิ่นลี่เป็นคนละเอียดรอบคอบ เขาเป็นคนที่ต้องมั่นใจจึงจะเคลื่อนไหว และเพราะตอนนี้เขากำลังวางแผนเคลื่อนไหวที่อื่นอยู่จึงได้สร้างปัญหาที่ตำบลอวี๋นจี๋แห่งนี้นี่เอง ซึ่งหากว่านางคาดเดาไม่ผิดแสดงว่ายามนี้ที่เก้อโจวต้องมีปัญหาร้ายแรงมากกว่าที่นี่แน่
เรื่องที่เกิดที่ตำบลอวี๋นจี๋เป็นเพียงสาส์นเตือนถึงผู้ที่ต้องการเดินทางให้พวกเขาหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางไปเมืองเก้อโจวเท่านั้น แม้กระทั่งเรื่องนี้นายท่านเหมาเองก็ยังนึกไม่ถึง
เพราะว่ามัวแต่จัดการเรื่องที่ตำบลอวี๋นจี๋กว่าพวกนางจะเดินทางเข้าสู่เขตเมืองเก้อโจวก็เกือบค่ำเข้าไปแล้ว ตอนที่พวกนางกำลังจะเดินทางเข้าสู่ประตูเมืองเก้อโจวก็เห็นผู้คนมากมายกำลังยืนมุงอยู่ที่ประตูทางเข้าเมืองและพูดคุยอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเหมืองที่ชื่อว่าก้วงซาน
ก่อนหน้าที่จะมาถึงเมืองเก้อโจวอาหมั่นก็เคยส่งข้อมูลเกี่ยวกับเมืองเก้อโจวมาให้นางอ่านก่อนแล้ว แต่นางก็จำได้ว่าอาหมั่นไม่มีเอ่ยถึงเรื่องเหมืองก้วงซานอะไรนี่เลย
ชูเซี่ย เชียนซานและหลี่ฉางอันเบียดเสียดผู้คนจำนวนมากที่ยืนอออยู่บริเวณหน้าประตูเมืองจนในที่สุดพวกนางก็มาถึงหน้าประตูเมืองเก้อโจวจนได้และตอนนั้นเองที่พวกเขาก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมืองเก้อโจวขณะนี้
มีคนมาตีกลองร้องทุกข์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านของพวกเขา อีกทั้งคนที่มาร้องทุกข์ยังเป็นเพียงแค่คนแก่ คนขี้โรคและคนพิการเท่านั้น
เรื่องมีอยู่ว่าเหล่าคนหนุ่มสาวในหมู่บ้านต่างก็ถูกพาตัวไปที่เหมืองก้วงซานจนหมด นับตั้งแต่พวกเขาถูกนำตัวไปนี่ก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้วกลับยังไม่มีข่าวคราวของพวกเขากลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เหล่าชาวบ้านที่เป็นห่วงบุตรหลานของตนเองจึงได้มาคุกเข่าอยู่หน้าประตูเมืองเพื่อร้องขอให้ขุนนางผู้ดูแลเมืองแห่งนี้ออกมาชี้แจงแก่พวกเขา
ชูเซี่ยมองดูผู้คนที่อยู่รอบๆมีทั้งเด็กเล็ก คนเฒ่าคนแก่ รวมถึงหญิงสาวที่ออกเรือนแล้วกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นจ้องมองประตูเมืองเก้อโจวด้วยสีหน้ากระวนกระวาย พวกเขาได้แต่เฝ้ารอคอยให้นายอำเภอเมืองออกมาพบพวกเขาราวกับว่ากำลังรอคอยความหวังสุดท้ายของพวกตนก็ไม่ปาน
ห่างจากฝูงคนไม่ไกลนักมีนายทหารผู้หนึ่งยืนมองพวกเขาด้วยท่าทางเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก
“นายทหารท่านนี้ ท่านไม่เห็นหรือว่าชาวบ้านเขามาตีกลองร้องทุกข์และคุกเข่าอยู่เช่นนี้เป็นเวลานานแล้ว เหตุใดท่านจึงยังไม่รีบไปแจ้งแก่นายอำเภอให้เขาส่งคนไปช่วยชาวบ้านอีกเล่า” เชียนซานอดไม่ได้ที่จะเดินไปหาและเอ่ยปากถามเขา
ชูเซี่ยเห็นด้วยกับคำพูดที่เชียนซานกล่าวออกไป หากว่าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วพวกเด็กๆและผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้ไม่ได้รับน้ำหรืออาหารเลยเกรงว่าจะทนได้อีกไม่นาน นางเองก็ต้องการให้นายทหารผู้นี้ทำอะไรสักอย่างเช่นกัน แต่นายทหารผู้นี้ไม่เพียงไม่ฟังเชียนซานแม้แต่มองยังไม่ปรายตามองด้วยซ้ำ “ดูแล้วพวกท่านคงเป็นคนต่างถิ่นสินะจึงไม่ทราบ ที่เมืองเก้อโจวของเรานั้นไม่เคยมีเหมืองก้วงซานอะไรนี่สักหน่อย แล้วจะให้นายอำเภอกับคนของเราไปตามหาคนให้พวกชาวบ้านได้ที่ไหนกันเล่า นี่เป็นเรื่องไร้สาระเข้าใจผิดกันชัดๆ!”
นายทหารที่คุมหน้าประตูก็พยักหน้ารับปาก หากว่าพวกเขาสามารถหาเหมืองก้วงซานพบก็จะต้องหาเด็กหนุ่มสาวในหมู่บ้านให้ท่านยายผู้นี้ได้อยู่แล้ว
หลังจากที่หญิงชรากล่าวจบก็ตั้งใจจะคุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้ง นายทหารผู้นั้นก็รีบรุดหน้ามาหวังจะรั้งร่างของหญิงชราเอาไว้ไม่ให้คุกเข่าให้ตนเอง แต่ว่านึกไม่ถึงจริงๆว่าทันทีที่หญิงชราผู้นี้ลุกขึ้นยืนก็วิ่งไปทางประตูเมือง
“แย่แล้ว” เชียนซานหลุดอุทานออกมาทั้งยังรีบพุ่งไปข้างหน้าแต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่งเพราะทันทีที่นางมาถึงหน้าประตูหญิงชราผู้นี้ก็เอาหัวกระแทกประตูล้มไปเสียก่อน เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากศีรษะของหญิงชราอย่างไม่ขาดสาย ภาพตรงหน้าทำให้ผู้คนต่างก็หวาดผวาตกใจกันอย่างมาก
“เหตุใดต้องทำเช่นนี้ด้วย” เชียนซานรีบพยุงร่างของหญิงชราขึ้นมาในอ้อมกอด หญิงชราผู้นี้แย้มยิ้มอ่อนแรงให้เชียนซานก่อนเอ่ยเสียงแหบพร่า “แม่นาง หากว่าท่านสามารถช่วยพวกข้าได้ ได้โปรดช่วยลูกชายของข้าด้วย ข้าไม่ได้พูดโกหกจริงๆนะเจ้าคะ”
“นายหญิง นายหญิง!” เชียนซานได้ยินคำพูดของท่านยายผู้นี้ก็น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางร้องเรียกชูเซี่ยเสียงดังลั่น นางรู้สึกได้ว่าชีวิตของท่านยายผู้นี้กำลังจะหลุดลอยไปแล้ว นางอยากให้ชูเซี่ยช่วยท่านยายผู้นี้ ช่วยคนเป็นแม่ที่น่าสงสารคนนี้
หญิงชราผู้นี้ใช้ความตายของตนเองเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ชาวบ้านพูดไปไม่ได้เป็นเรื่องไร้สาระหรือเรื่องโกหก พวกเขาไม่ได้โกหก เหล่าลูกหลานของพวกเขาต่างก็ไปทำงานที่เหมืองก้วงซานแล้วไม่ได้กลับมาจริงๆ
ชูเซี่ยไปข้างหน้าเพื่อจีบชีพจรให้ท่านยายแต่ว่าชีพจรของอีกฝ่ายอ่อนแรงเหลือเกิน หากว่านางคาดเดาไม่ผิดสุขภาพของท่านยายพวกนี้เดิมทีก็อ่อนแอ ต่อให้นางไม่ได้วิ่งเอาหัวโขกประตูเมืองชีวิตนางก็ริบหรี่ราวกับแสงเทียนที่ใกล้ดับอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...