ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 357

ตอนที่ 357 เริ่มใช้สายลับ

“ให้คนจับตาดูเหลียงกวางเสียงเอาไว้ วันนี้ข้ารู้สึกว่าเขามีท่าทีแปลกๆ...” ชูเซี่ยพูดกับเชียนซานโดยไม่ละสายตาไปจากเบื้องหลังของเหลียงกวางเสียง ในใจของนางรู้สึกสับสนวุ่นวายไปหมด ท่าทางเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ายทหารเมืองเก้อโจวจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้วเพราะดูจากสีหน้าที่เคร่งเครียดของเหลียงกวางเสียงแล้วนางก็ไม่อาจประมาทได้

“ส่งข่าวไปที่วังด้วยและสั่งคนของเราให้คุ้มครองเหลียงกุ้ยไท่เฟยและกุยเอ๋อให้ดี”

“นายหญิงต่อให้เราจะปกป้องหรือไม่ปกป้องสองคนนั้น เหลียงกวางเสียงก็...” เชียนซานไม่อยากให้คนของตนเองต้องเสียเวลาไปให้ความคุ้มครองเหลียงกุ้ยไท่เฟยสองแม่ลูก เพราะไม่ว่าคนของพรรคจะให้การคุ้มครองหรือไม่เหลียงกวางเสียงก็ไม่ใช่คนที่พวกนางควรให้ความไว้วางใจอยู่ดี

“หากว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเหลียงกุ้ยไท่เฟยและลูกในวังหลวงจริงๆเราก็จะต้องกลายเป็นศัตรูกับเหลียงกวางเสียงอย่างแท้จริง” คำพูดของชูเซี่ยทำให้เชียนซานอดไม่ได้ที่จะตื่นกลัวขึ้นมา

“นายหญิง……”

“นายหญิง...”

“ข้าเชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะต้องมีคนในวังพยายามที่จะลงมือกับเหลียงกุ้ยไท่เฟยเพื่อบีบบังคับให้เหลียงกวางเสียงเข้าเป็นพวก ยามนี้เหลียงกวางเสียงยังลังเลสองจิตสองใจไม่รู้จะเข้าร่วมกับฝั่งใด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ายทหารกับข้า” นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของชูเซี่ยเท่านั้น นางไม่กล้าประมาทเรื่องนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ค่ายทหารเก้อโจวมีนายทหารอยู่ร่วมห้าหมื่นนายทั้งยังเป็นเมืองที่ไกล้กับเมืองหลวงมากที่สุดอีกด้วย กองทัพในค่ายทหารเก้อโจวเป็นกองทัพที่เป็นกำลังหนุนสำคัญของหลี่เฉินเย่น นางจะสูญเสียมันไปไม่ได้เป็นอันขาด

“ข้าจะสั่งการไปทันที นายหญิงไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” แม้ในใจลึกๆของเชียนซานจะไม่ชอบเหลียงกุ้ยไท่เฟยแต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนส่วนมาก เชียนซานรู้ดีว่าควรวางตัวเช่นไร

“ให้คนที่รับผิดชอบในการสืบข่าวเมืองเก้อโจวมาพบข้าที” ชูเซี่ยกล่าวจบก็เริ่มหันมาสนใจกับสมุนไพรที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะต่อ

เมื่อเห็นสายตาของชูเซี่ยยามที่ตรวจสอบรายละเอียดสมุนไพรบนโต๊ะเชียนซานก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ย “นายหญิงจะให้คนของเรานำสมุนไพรพวกนี้ไปต้มเลยหรือไม่ ข้าคิดว่าสมุนไพรเหล่านี้คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกเจ้าค่ะ”

“เกรงว่าจะมีปัญหายามที่ขนย้ายนี่สิ ข้าว่าพวกเราเดินทางไปที่ตำบลอวี๋นจี๋กันอีกสักครั้งเถิด” ใบหน้าของชูเซี่ยยามที่พูดประโยคนี้ออกมาดูเศร้าหมองลงหลายส่วน เมื่อครู่ยามที่พูดคุยกับเหลียงกวางเสียง อีกฝ่ายบอกกับนางว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตำบลอวี๋นจี๋ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเช่นที่นางคิด นางยิ่งคิดไปถึงยามที่นางตรวจชีพจรให้แก่ว่านเหลียงขึ้นมา แม้ว่าลักษณะพิษจะเหมือนกับพิษที่นางคิดว่าใช้แต่เมื่อย้อนคิดให้ดีมันกลับมีบางอย่างที่ต่างออกไป

“เดินทางคืนนี้เลยก็แล้วกัน พรุ่งนี้บ่ายเราจะได้กลับมาถึงเมืองนี้ได้ทัน” ชูเซี่ยบอกกับเชียนซานอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับและรีบวิ่งออกไปสั่งคนอีกต่อหนึ่งทันที

ก่อนที่จะเดินทางออกนอกเมืองเก้อโจวชูเซี่ยก็ได้พบกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบสืบข่าวในเมืองเก้อโจวนั่นก็คือ ว่านอัน

“นายหญิง ระยะนี้เหลียงกวางเสียงมักจะพบปะกับเหล่าแม่ทัพอยู่บ่อยครั้งแต่ด้วยเรื่องใดพวกเราก็ไม่ทราบเพราะไม่อาจแฝงตัวเข้าไปสืบได้จริงๆขอรับ แต่ข้าเชื่อว่าย่อมไม่ใช่การสนทนาผิวเผินแน่ ท่าทางของเหลียงกวางเสียงในระยะนี้แปลกมากขอรับ”

“เจ้าคิดว่าพวกเขากำลังทำอะไร” ชูเซี่ยถามความเห็นของว่านอันเพราะนางเห็นด้วยที่ว่าท่าทางของเหลียงกวางเสียงแปลกมากจริงๆ

“ไม่ทราบขอรับ ข้าเพียงแค่คิดว่าหากพวกเขาคิดจะซื้อใจกองทัพจริงก็สมควรคุยกับพวกทหารในกองทัพแทนที่จะเป็นเหล่าแม่ทัพยังจะดีเสียกว่า เพราะที่นายทหารต่อต้านไม่ฟังคำสั่งของราชสำนักก็เป็นเพราะครึ่งปีมานี้ทางราชสำนักไม่มีการจ่ายเงินเดือนให้แก่คนในกองทัพเลยต่างหากขอรับ”

“เป็นเพราะไม่มีการจ่ายเงินให้ทหาร?” ชูเซี่ยมองมาที่ว่านอันอย่างประหลาดใจ นางคิดว่านางรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการต่อต้านภายในกองทัพดีแล้ว แต่เรื่องที่หลี่เฉินเย่นบอกกับนางคือเรื่องที่เหล่านายทหารไม่พอใจในตัวแม่ทัพไม่ใช่หรือ นางคิดมาตลอดว่าสายของเชียนไม่มีวันให้ข้อมูลผิด แต่เรื่องที่นางรู้นี่มัน...

ตอนนี้ชูเซี่ยรู้ชัดแล้วว่าความรู้สึกแปลกๆที่นางรู้สึกคืออะไร จากที่ว่านอันกล่าวมาหากว่าปัญหาคือการจ่ายเงินเดือนทหารจริง เช่นนั้นเหลียงกวางเสียงก็ควรแจ้งข่าวแก่ราชสำนักให้พวกเขาส่งเงินมาไม่ใช่หรือ หรือหากว่าเหล่าทหารในกองทัพไม่พอใจในตัวแม่ทัพตามข่าวที่เชียนได้รับจริง ที่เหลียงกวางเสียงเข้าพบเหล่าแม่ทัพก็เพื่อปรึกษาหารือวิธีการแก้ไขปัญหาในกองทัพใช่หรือไม่นะ

ถ้าหากทหารเริ่มก่อการกบฎเพราะเรื่องปัญหาการจ่ายเงินเดือนของราชสำนักจริงวังหลวงจะต้องวุ่นวายมากเป็นแน่ อีกหนึ่งส่วนสำคัญของการจัดการปัญหานี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการของแม่ทัพในค่ายทหารด้วยเช่นกัน

“ปัญหาที่เกิดขึ้นในกองทัพมาจากการจ่ายเงินเดือนให้นายทหารจริงๆขอรับ คนของเราที่แฝงตัวอยู่ในค่ายเก้อโจวไม่มีทางสืบข่าวมาพลาดแน่ขอรับ” ว่านอันยืนกรานว่าข่าวที่คนของเขาสืบมาไม่ผิดแน่นอน

“เชียนซาน รีบส่งคนของเราไปแจ้งข่าวแก่ฝ่าบาทเดี๋นวนี้ บอกเขาว่าการก่อกบฎในค่ายเกิดจากปัญหาเรื่องการเงิน แล้วก็ให้อาหมั่นจัดการนำเงินของพรรคมาแจกจ่ายพวกเขาเพื่อแก้ปัญหาชั่วคราวก่อนแล้วกัน”

หากปัญหาคือเรื่องเงินจริงๆเช่นนั้นจะชักช้าไม่ได้แล้ว นางต้องรีบแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเสียก่อนเพราะนับตั้งแต่ที่มีข่าวเรื่องการก่อกบฎในกองทัพนี่ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ผ่านมานานขนาดนี้หากว่ายังไม่มีเงินให้พวกทหารอีกย่อมต้องเกิดการก่อกบฎในค่ายทหารขึ้นมาอีกแน่

“หากว่าทหารหลายหมื่นนายเกิดโทสะก่อจราจลขึ้นมาในค่ายทหารจริง ลำพังเหลียงกวางเสียงแค่คนเดียวย่อมต้องคุมไม่อยู่แน่”

ดังนั้นนางจำเป็นต้องเอานำเงินทุนของพรรคมาแจกจ่ายแก่เหล่าทหารในค่ายเก้อโจวเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเสียก่อน

เหลียงกวางเสียง สามคำนี้ยามที่ชูเซี่ยกล่าวออกมาน้ำเสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเย็นชา

เหลียงกวางเสียงรู้ว่ากองทัพเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับนายทหารห้าหมื่นนายแต่ไม่คิดจะบอกนางสักคำ เขาต้องการทำอะไรกันแน่

“สั่งคนของเราให้จับตามองเหลียงกวางเสียงเอาไว้ หาให้พบว่าเขากำลังตั้งใจจะทำอะไรกันแน่” ชูเซี่ยสั่งว่านอันด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดชัดเจน

ใบหน้าของว่านอันบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ เหลียงกวางเสียงเป็นคนของพรรคมังกรเหิน วิธีการทำงานและเรื่องราวภายในพรรคเขาย่อมรู้ดีที่สุด ดังนั้นการสั่งให้พวกเขาคอยจับตาดูเหลียงกวางเสียงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย

“นายหญิง หรือว่าพวกเราจะใช้เงามังกรดีเจ้าคะ” เชียนซานเอ่ยเสนอความคิดเห็นของตนเองออกมา

เงามังกรคือคนที่คอยรับใช้หัวหน้าพรรคมังกรเหินโดยตรง แม้กระทั่งคนในพรรคก็ไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขามีหน้าที่รับคำสั่งโดยตรงจากนายหญิงและหัวหน้ากลุ่มเงามังกรเท่านั้น

เงามังกร มักจะมีหน้าที่ในการเสาะหาและแฝงตัวอยู่ข้างตัวผู้ทรยศในพรรค หากว่าไม่ใช่ช่วงเวลาสำคัญจริงๆเงามังกรก็จะไม่ปรากฎตัว เพราะหากว่าพวกเขาแสดงตัวออกมาก็มักจะถูกศัตรูกำจัดทิ้งทันที

เพราะพวกเขาเชื่อฟังเพียงแค่นายหญิงและหัวหน้าของตนดังนั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าพวกเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน เรื่องนี้แม้แต่เชียนซานที่เคยเป็นสาวใช้ข้างกายของนายหญิงรุ่นก่อนก็ไม่รู้

แต่ที่เชียนซานรู้ว่ามีกลุ่มเงามังกรอยู่ในพรรคเพราะว่ายามที่ไท่หวังไทเฮายังมีชีวิตอยู่เคยกล่าวถึงกลุ่มเงามังกรมาก่อน

ชูเซี่ยมองเชียนซานอย่างลังเล เพราะกลุ่มเงามังกรเป็นวิธีการสุดท้ายที่นางจะเลือกใช้มันกับเหลียงกวางเสียงและเพราะนางรู้ว่ามีกลุ่มคนพวกนี้อยู่นางจึงยังปล่อยให้เหลียงกวางเสียงทำตามใจชอบมาจนถึงบัดนี้ นางรู้ดีว่ายามนี้มีเงามังกรไปอยู่ข้างกายเหลียงกวางเสียงอยู่แล้ว หากเหลียงกวางเสียงรู้เข้าและกำจัดเงามังกรคนนั้นขึ้นมานางก็ไม่สามารถทำอะไรได้

แต่มาจนถึงบัดนี้ดูเหมือนว่าหากนางไม่ใช้คนของเงามังกรนางก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว

เพราะนี้มันเกี่ยวกันถึงกองทัพทั้งกองทัพ เกี่ยวพันถึงชีวิตของทหารนับหมื่น

“เช่นนั้นก็ให้ว่านสู่นติดต่อกับเงามังกรคนนั้นก็แล้วกัน ให้เวลาในการเตรียมความพร้อมสักพัก หากว่าได้ความว่าอย่างไรรีบกลับมารายงานข้า”

“บอกว่านสู่นให้หาคนปกป้องเงามังกรคนนั้นด้วย พยายามหลีกเลี่ยงให้คนของเราบาดเจ็บให้น้อยที่สุด” ชูเซี่ยกล่าวสำทับอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง เชียนซานรับคำก่อนจะออกไปตามหาว่านสู่น หากไม่ใช่ว่าชูเซี่ยเปิดปากพูดออกมาเองนางก็คงไม่มีวันรู้ว่าแท้จริงแล้วว่านสู่นนี่เองที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเงามังกร

“พวกเราจะทำอะไรต่อไปดีเจ้าคะนายหญิง” เชียนซานจับน้ำเสียงความไม่สบายใจและความเป็นห่วงของชูเซี่ยได้จึงตั้งใจจะเปลี่ยนเรื่องเพื่อดึงความสนใจของชูเซี่ยไปทางอื่น

“ไปตำบลอวี๋นจี๋กัน” ชูเซี่ยหันมายิ้มให้เชียนซาน นางย่อมรู้อยู่แล้วว่าเชียนซานกำลังหันเหความาสนใจของนางเพราะเห็นว่านางกำลังกลุ้ม แต่หญิงสาวก็อดไม่ได้จริงๆเพราะนางไม่อยากให้เรื่องเป็นเช่นนี้ต่อไป หากเกิดการต่อต้านขึ้นในค่ายเก้อโจวจริงๆ มันก็จะกลับกลายเป็นการปล่อยให้หลี่อวิ่นลี่กลายเป็นเฒ่าประมงตกปลาน่ะสิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า