สรุปตอน ตอนที่ 359 เอาตัวให้รอดได้ – จากเรื่อง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
ตอน ตอนที่ 359 เอาตัวให้รอดได้ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 359 เอาตัวให้รอดได้
ชูเซี่ยมองว่านเหลียงอย่างอ้ำอึ้งอยู่นาน
“พิษชนิดนี้ข้าถอนได้แต่ขั้นตอนมันค่อนข้างยุ่งยาก จำเป็นต้องใช้เวลา ยาที่พวกเขาใช้เป็นเหมือนยาเสพติดพวกเขาจะทำให้เจ้า...”
ชูเซี่ยรู้ว่าว่านเหลียงจะถูกส่งตัวไปทำอะไร หากว่าว่านเหลียงต่อต้านขัดขืนสิ่งที่รอคอยนางอยู่ก็คือความตาย แต่หากนางยินยอมเพื่อจะเอาชีวิตรอด นางก็ต้อง...
“นายหญิงเจ้าคะ เรื่องชายหนุ่มที่เอารัดเอาเปรียบหรือขืนใจหญิงสาวข้าทนได้เจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นอะไร ท่านวางใจเถิด ข้าไม่คิดมากหรอก” ว่านเหลียงเข้าใจความหมายของชูเซี่ย ตอนแรกที่นางได้ยินใบหน้านางก็ถอดสีแต่เพียงพริบตาเดียวนางก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติและทำเหมือนไม่ได้ตกใจอะไร
“ว่านเหลียง ข้า...” น้ำเสียงของชูเซี่ยแหบพร่า นางจะเอ่ยปลอบใจอีกฝ่าย แต่นางพูดไม่ออก
ความรู้สึกผิดในใจของชูเซี่ยท่วมท้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นางสามารถหยุดเรื่องพวกนี้ได้ นางสามารถช่วยว่านเหลียงออกมาได้ แต่ทำไมนางถึงไม่...
“นายหญิง ข้ามีเรื่องจะขอร้องท่าน หากว่าในการทำภารกิจครั้งนี้ข้าได้พบชายในดวงใจขึ้นมาพวกท่านก็ละเว้นชีวิตเขาไว้สักคนเถิดนะเจ้าคะ แล้วถ้าหกาข้าตั้งครรภ์ขึ้นมาพวกท่านก็ช่วยข้าเลี้ยงด้วยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้า...” ว่านเหลียงพูดติดตลกออกมา ชูเซี่ยได้แต่พยักหน้ารับคำขอของนางทุกข้อแต่สุดท้ายน้ำตาของนางก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
หากว่าว่านเหลียงไม่รู้ความ หากว่านางเอ่ยปากด่าทอออกมา เงวินอี้ก็อาจจะยังแสร้งโกรธและหนีออกไปจากที่นี่ได้ หากว่าว่านเหลียงเลือกที่จะหนี นางก็จะทำสุดความสามารถเพื่อให้ว่านเหลียงหนีออกมาให้ได้ นางเชื่อว่าตราบใดที่นางอยู่ใกล้ตัวว่านเหลียงนางจะต้องหาทางควบคุมพิษให้อีกฝ่ายได้
“นายหญิง ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆเจ้าค่ะ ท่านกับฝ่าบาทเองก็มีลูกด้วยกันตั้งสองคนไม่ใช่หรือเจ้าคะ ข้าเองก็เป็นลูกน้องที่แสนจะเชื่อฟังนายหญิง ข้าเรียนรู้จากท่านนะเจ้าคะ ข้า...” ว่านเหลียงเห็นชูเซี่ยร้องไห้นางก็รีบร้อนเอ่ยแก้ตัวพัลวัน นางไม่อยากให้ชูเซี่ยรู้สึกผิดเรื่องของนาง เห็นชูเซี่ยร้องไห้เพื่อนางเช่นนี้แล้วนางถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว นางอยากปลอบใจนายหญิงของตนเองแต่ก็พูดอะไรไม่ถูกเสียแล้ว เชียนซานเห็นเข้าก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขัด
“ว่านเหลียง หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว นายหญิงของพวกเราเมื่อก่อนนางเป็นถึงพระชายาหนิงอานนะ เรื่องนี้...” เชียนซานเอ่ยแก้ตัวแทนชูเซี่ย ว่านเหลียงเพิ่งมาติดตามนายหญิงเมื่อไม่นานมานี้อาจจะไม่รู้ว่าชูเซี่ยเองก็ผ่านเรื่องทุกข์ทรมานมาไม่น้อยเช่นกัน ระยะเวลาที่ชูเซี่ยใช้ร่วมกันมาไม่ใช่น้อยๆอย่างที่ผู้อื่นรับรู้ ชูเซี่ยและหลี่เฉินเย่นใช้เวลาอยู่ร่วมกันมานานมากแล้ว
อีกอย่าง แม้ว่านายหญิงและฮ่องเต้จะไม่ได้แต่งงานกันแต่พวกเขาก็รักใคร่กันอย่างลึกซึ้งจึงมีบุตรด้วยกัน แต่ว่านเหลียงที่โง่งมผู้นี้ไม่รู้ว่าจะถูกส่งตัวไปให้ใครก็มาพูดจาไร้สาระอยู่ได้ จริงๆเลย...
หลังจากที่เชียนซานพูดจบว่านเหลียงก็รู้ได้ทันทีว่าตนเองเผลอพูดจาไม่ดีไปเสียแล้ว จริงๆนางเองก็พอรู้เรื่องระหว่างนายหญิงและฝ่าบาทมาบ้างจึงก้มหน้ารู้สึกผิดก่อนจะเอ่ยอุบอิบ “นายหญิง ข้าไม่ได้ตั้งใจนะเจ้าคะ ข้าแค่เห็นท่านกำลังเศร้าเลยต้องการปลอบใจท่านเท่านั้น ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆเจ้าค่ะ ท่านวางใจเถิด”
ชูเซี่ยไม่พูดอะไรแต่หยิบยาออกมาจากสาบเสื้อสองเม็ดมอบมันให้ว่านเหลียง “หากว่าเกินกำลังตนเองแล้วจริงๆก็ใช้เจ้านี่นะ”
“นี่คืออะไรเจ้าคะ” ว่านเหลียงมองเม็ดยาอย่างประหลาดใจ
“มันจะทำให้คนที่กินเข้าไปเจ็บปวดราวกับจะตายให้ได้ ขอเพียงกินเข้าไป คนที่ได้รับจะเจ็บปวดทรมานอยากอยู่ไม่สู้ตายได้เลย เจ้าสามารถใช้มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนยาระงับพิษในกายเจ้าชั่วคราวได้ เพียงแต่พิษในกายเจ้าผู้คุมคนนั้นก็คงไม่มียาแก้แต่ข้าเชื่อว่าเขาย่อมต้องมียาระงับชั่วคราวแน่ ขอเพียงถ่วงเวลาได้อีกสิบวัน สิบวันก็คงจะเพียงพอแล้ว” ยาตัวนี้เป็นยาที่จูเก๋อหมิงมอบให้นางเองไว้
เชียนซานและว่านสู่นเห็นสีหน้าท่าทางของว่านเหลียงก็รู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ หากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้พวกนางก็คงไม่ยอมมอบหน้าที่หนักอึ้งเช่นนี้ให้ว่านเหลียงรับไว้หรอก นางเป็นเพียงแค่แม่นางน้อยผู้หนึ่งแท้ๆ ตอนนี้นาง...
“ได้ รอให้เจ้าปลอดภัยกลับมา ข้าจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้เจ้าเอง” ชูเซี่ยพยายามอย่างยิ่งที่จะฉีกยิ้มให้คนตรงหน้าแต่หัวใจของนางกลับขมขื่นและตื้อไปหมดแล้ว
หลังจากออกจากรถม้ามาชูเซี่ย เชียนซานและว่านสู่นก็หลบออกมาดูเหตุการณ์อยู่ไกลๆ รอจนพวกผู้คุมและสารถีฟื้นขึ้นมา ท่าทางของพวกเขาเหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองหมดสติไป ชูเซี่ยและเชียนซานถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“เชียนซาน สั่งให้คนของเราคอยปกป้องว่านเหลียงให้ดีที่สุด” นี่เป็นสิ่งเดียวที่ชูเซี่ยทำให้ว่านเหลียงได้ เพราะนางรู้ดีว่าเส้นทางที่มีให้ว่านเหลียงถอยหลังกลับถูกปิดตายไปแล้ว
“นายหญิงไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ พวกเราจะจัดการเอง”
“จริงสิ อย่าลืมให้คนของเราเตรียมหน้ากากหนังเอาไว้ ว่านเหลียงนางเคยถูกคุมตัวที่หลางฟงติ่งหากว่ามีคนจำหน้านางได้ เกรงว่า...” น้ำเสียงของชูเซี่ยกระวนกระวาย ใบหน้าของนางฉายแววแตกตื่นน้อยๆ ร่างบอบบางชื้นเหงื่อทั้งร่างทั้งยังหอบหายใจถี่ๆ
“นายหญิงคิดว่าว่านเหลียงเป็นเพียงสาวน้อยธรรมดาหรือเจ้าคะ ท่านอย่าได้ลืมว่านางเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มสายลับเงาของพรรคเรา มีใครบ้างในกลุ่มสายลับเงาที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องการปลอมตัวบ้างล่ะเจ้าคะ ข้าว่าต่อให้นางพบคนที่เคยเห็นหน้านางเข้านางก็สามารถเอาตัวรอดได้แน่เจ้าค่ะ ว่านเหลียงเคยทำภารกิจมามากมาย อันตรายกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว ดังนั้นท่านวางใจได้ หายห่วงเจ้าค่ะ” ว่านสู่นเห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยว่านเหลียงของชูเซี่ยก็รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ นางจึงเอ่ยปลอบใจชูเซี่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้ชูเซี่ยจะไม่พูดว่าห่วงว่านเหลียงแค่ไหนแต่ดูจากท่าทางของนางก็รู้ว่ากำลังเป็นห่วงจนเสียจริตไปแล้ว
นายหญิง ทำไมข้าจึงรู้สึกว่าพิษสิบราตรีนี่มีบางอย่างแปลกๆ ข้ามีลางสังหรณ์ว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับทางเมืองเก้อโจวนะเจ้าคะ“ นับตั้งแต่ที่ชูเซี่ยบอกชื่อพิษสิบราตรีออกมา นางก็เริ่มเกิดลางสังหรณ์ที่รุนแรงขึ้นมา หากว่ายาพิษชนิดนี้เกี่ยวข้องกับการก่อกบฎในค่ายทหารขึ้นมาจะเป็นอย่างไรนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...