ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 376

ตอนที่ 376 เช่อฮุนมู่

แต่เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยทั้งสองคนนั้นไม่อยากที่จะถูกได้รับการปกป้องจากคนของพรรคมังกรเหิน พวกเขาเพิ่งล้อมเป็นวงเพื่อปกป้องขึ้นมาหนึ่งวง เด็กน้อยทั้งสองก็ยืนอยู่ด้านนอกของวงล้อมนั้น

“พวกเจ้าต้องการลงมือจับพวกเขาจริงๆ ใช่หรือไม่ พวกเราคือองค์ชายและองค์หญิง ข้าคือหลี่จิงโม่ เขาคือว่งฉองเหล่าน้องชายของข้า” สีหน้าของจิงโม่นั้นดูจริงจังอย่างมาก มีเรื่องสำคัญที่ต้องรีบทำเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ในอำเภอนี้จะบอกว่าเขานี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของบ้านตนทำให้นางไม่พอใจอย่างมาก แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่การถือสาพวกเขาเรื่องนี้เมื่อสักครู่แล้ว

“อย่าฟังพวกเขาพูดจาเหลวไหลพวกเขาจะเป็นองค์ชายและองค์หญิงได้อย่างไรกัน รีบพาตัวพวกเขามาเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องฟังคำพูดที่ไร้สาระของพวกเขา” อวี๋เจิ้งหมิ่นเห็นว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ของทางการได้ยินคำพูดของเด็กน้อยทั้งสองแล้วก้าวถอยออกมา ก็รีบเอ่ยตะโกนเสียงดังขึ้น

“จับกุมเด็กน้อยทั้งสองคนนี้ข้ามีรางวัลให้อย่างหนัก รางวัลคือเงินร้อยตำลึง” อวี๋เจิ้งหมิ่นไม่คิดว่าคำพูดของตนนั้นล้วนไม่สนว่าจะมีประโยน์แล้ว ถึงแม้หลังจากที่ตนรับปากจะให้หนึ่งร้อยตำลึงเงินแต่เจ้าหน้าที่ของทางการมุ่งหน้าเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวเมื่อครู่ก็ยังคงหวาดหวั่นไม่กล้าเดินเข้าไป

“พวกเจ้าหากแม้เด้กน้อยแค่สองคนก็ล้วนจับตัวมาไม่ได้ ยังจะมีหน้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการในอำเภอเก้อโจวอีก พวกเจ้า...” ในใจของอวี๋เจิ้งหมิ่นร้อนรนอย่างมาก หากให้เด็กน้อยทั้งสองคนนี้เปิดเขาออกจริงแล้วละก็เมื่อถึงตอนนั้นความลับเรื่องเหมืองเหล็กก็คงปิดเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป ถึงตอนนั้นคงถูกหลี่อวิ๋นลี่พูดโยนความผิดให้เป็นแน่ แล้วการอ้างถึงเฟิงชานหลิงที่ตนได้ทำขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน ฝ่าบาทล้วนไม่อาจให้อภัยเขาง่ายๆแน่

“แม้พวกเจ้าจะมาเพื่อจับพวกเรา ถึงตอนนั้นพวกเราก็อาจไม่ระมัดระวังทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนตัวสักเล็กน้อย ถึงตอนนั้นก็ดูว่าเสด็จพ่อของข้าจะต้องการชีวิตของพวกเจ้าหรือไม่” จิงโม่ก็ข่มขู่คนเหล่านี้อยู่เช่นกัน สำหรับกลุ่มคนโง่เขลาตอนนี้ที่ล้วนไม่เข้าใจถึงสถานการณ์นี้ นางจึงไม่เต็มใจที่จะใช้เงินมาติดสินบนพวกเขา ท่านแม่เคยพูดว่าเงินล้วนเป็นสิ่งที่หามาได้อย่างยากลำบาก ไม่อาจสิ้นเปลืองไปกับคนที่ไร้ประโยน์

หลังจากที่เอ่ยพูดจบ จิงโม่ก็จูงมือของฉองเหล่าเดินไปที่ด้านหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่ของทางการ แถมยังยื่นมือออกไปท่าทางยินยอมให้มัดมือจับกุม แต่เมื่อพวกเราเริ่มทำเช่นนี้เอง เหล่าเจ้าหน้าที่ของทางการก็ยิ่งไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป

แม้ว่าข่าวของพวกเขาจะสู้อวี๋เจิ้งหมิ่นไม่ได้ แต่พวกเขาก็ล้วนรู้จากคำเล่าลือว่าฝ่าบาททรงได้ตัวองค์ชายและองค์หญิงของตนกลับมาแล้ว ทรงโปรดปรานทะนุถนอมดั่งสิ่งล้ำค่า แม้ตอนนี้เด็กน้อยทั้งสองคนตรงหน้าจะดูเหมือนตกอยู่ในฐานะที่ลำบาก แต่กลับใจกว้างมากกว่าพวกเขาที่อยู่รอบๆตัวของเด็กน้อยไม่มีอย่างมาก โดยเฉพาะพวกเขาที่ปิดล้อมอยู่ตรงหน้า พวกเขาล้วนสงบอารมณืได้ดีกว่าพวกผู้ใหญ่เสียอีก

“ในภูเขาลูกนี้มีคนอยู่ ที่พวกเราทำเช่นนี้ก็เพื่อช่วยเหลือคน ดังนั้นทางที่ดีพวกท่านอย่าขัดขวางพวกเราจะดีกว่า” จิงโม่เห็นเหล่าเจ้าหน้าที่ของทางการไม่ขยับเขยื้อน เลยจูงมือของฉองเหล่าแล้วเดินเข้าใกล้พวกเขาที่ละนิด บีบให่พวกเขาก้าวถอยหลังไปทีละก้าว

เสียงที่อ่อนหวานนุ่มนวลของจิงโม่กลับแฝงไปด้วยพลังที่พิเศษออกมา ทำให้พวกเขาเชื่อคำพูดของนางโดยปริยาย

“พวกเจ้าที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดทุกคน เรื่องราวนี้ข้าอาจทรงกราบทูลเสด็จพ่อว่าไม่ให้ตรวจสอบพวกเจ้า หากพวกเจ้ากล้ามาวุ่นวาย นั่นก็อย่าโทษว่าพวกเราไม่สามารถให้อภัยพวกเจ้าได้ ” จิงโม่เอ่ยพูดตักเตือนซึ่งเหล่าเจ้าหน้าที่ของทางการก็ล้วนไม่ลงมือทำอะไรจริงอย่างที่คาดคิดไว้

หลังจากนั้นญาติของเหล่าคนงานเหมืองแร่ที่ถูกกักตัวเอาไว้ที่ทำการอำเภอพวกเขาก็สงสัยถึงความยุติธรรมและสุจริตของท่านใต้เท้านายอำเภอขึ้น ตอนนี้ได้ฟังคำพูดที่เอาจริงเอาจังของเด็กน้อยทั้งสองคน พวกเขาก็ยิ่งกังวลหัวหน้าของตนอาจจะลงมือทำเรื่องที่ผิดอย่างใหญ่หลวงเป็นแน่ พวกเขากลัวว่าจะเป็นภัยถึงตัวเอง

ดังนั้นหากสามารถแลกกับคำพูดของเด็กสาวที่ว่าไม่ตำหนิเรื่องราวในอดีตได้ สิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นการเมตตาพวกเขาที่สุดแล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไปวุ่นวายอีก

เมื่อเห็นว่าข่มขู่เหล่าเจ้าหน้าที่ของทางการเอาไว้ได้แล้ว จิงโม่ก็ยิ้มแล้วเดินไปทางอวี๋เจิ้งหมิ่น เอ่ยขึ้นประโยคหนึ่งเบาๆว่า “ใต้เท้าอวี๋ช่างเป็นขุนนางที่มีอำนาจมากเสียจริง จึงกับคิดต้องการที่จะเอาชีวิตของพวกข้า ทั้งไม่ดูว่าตัวท่านเองอยู่ในระดับใด”

สำหรับอวี๋เจิ้งหมิ่นคนที่คิดอยากที่จะจับกุมตนเองนี้ เห็นได้ชัดว่าจิงโม่ไม่ได้มีความรูสึกที่ดีมอบให้เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว นางทั้งพูดทั้งยกเท้าเตะบนหัวเข่าของเขา นางได้ใช้แรงในร่างกายที่มีเตะออกไปอย่างแข็งแกร่ง แล้วก็ยกมือขึ้นตบลงใบหน้าของอวี๋เจิ้งหมิ่น

เห็นได้ชัดว่าอวี๋เจิ้งหมิ่นคิดไม่ถึงว่าเด็กตัวเล็กๆอย่างจิงโม่จะตบลงที่ใบหน้าของตน เขาโมโหถลึงตามองยังจิงโม่ที่พาตัวลงไปยืนบนพื้นอย่างปลอดภัย แล้วตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดังว่า “เจ้า.....”

“ทำไมหรือ เจ้าอยากจะตีข้าเช่นนั้นหรือ” จิงโม่เอ่ยถามเสียงเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม

อวี๋เจิ้งหมิ่นมองใบหน้าที่เหมือนคนไม่ได้ทำความผิดของเด็กสาว กำลังเตรียมที่จะเอ่ยปากพูด ฉองเหล่าก็เลียนแบบท่าทางของจิงโม่ใช้เท้าข้างหนึ่งเตะเข้าไปบนที่หัวเขาของอวี๋เจิ้งหมิ่น แล้วตบลงบนใบหน้าอีกด้านของเขาจนเห็นร่องรอยของฝ่ามือประทับเอาไว้

“พวกเจ้า....” ในเมื่อไม่ยอมที่จะสารภาพอีก ตอนนี้เขาก็ได้ถูกเด็กน้อยทั้งสองคนตบหน้าแล้วท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่จับจ้องอยู่

เขาโกรธเคืองด้วยความอับอายมองยังเด็กน้อยทั้งสองคนตรงหน้า อยากที่จะเข้าไปลงมือกับพวกเขา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะยกมือขึ้น บนหัวเข่าของเขาก็เจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง ตามมาด้วยบนใบหน้าที่มีรอยฝ่ามืออีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่เช่นนี้ ผ่านไปไม่นานใบหน้าของเขาก็บวมขึ้นมา

เขาสามารถบอกได้เลยว่าเด็กน้อยทั้งสองคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน น้ำหนักของฝ่ามือที่พวกเขาตบลงใบหน้าของตนนั้นไม่อาจเปรียบเทียบกับเด็กน้อยธรรมดาได้อย่างเด็ดขาด กิริยาท่างทางของพวกเขาดุจดั่งเมฆเหินน้ำไหลต่อเนื่องกัน ไม่ใช่สิ่งที่เด็กน้อยผู้หนึ่งจะสามารถทำออกมาได้อย่างเด็ดขาด

รอให้จิงโม่ตบจนพอใจแล้ว ฉองเหล่าก็เพิ่งจะหยุดมือลง ด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่าเขาสามารถหยุดมือลงได้แล้ว มองอวี๋เจิ้งหมิ่นที่ยังคนกลายเป็นคนที่โง่เขลาเช่นเดิม นางก็จงใจเอ่ยขึ้นว่า “นี่แค่เป็นการตักเตือนเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เจ้ารู้ว่าผู้ใดสามารถยั่วยุได้ ผู้ใดไม่สามารถยั่วยุได้ ส่วนที่ว่าความแค้นของคนด้านในเหล่านั้น เสด็จพ่อจะต้องตอบแทนให้กับเจ้าอย่างเหมาะสมแน่นอน”

อวี๋เจิ้งหมิ่นแทบที่จะไม่กล้าเชื่อหูของตนเอง เขาลูกนี้ถูกปิดเอาไว้ ไม่มีผู้ใดรู้ถึงสถานการณ์ภายในภูเขาด้านใน เมื่อเขาได้ยินมาว่ามีคนต้องการที่จะเปิดภูเขาจึงได้รีบร้อนเดินทางมาอย่างเร่งรีบ กลับคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะรู้ถึงสถานการณ์ด้านในภูเขาแล้ว

“นำตัวพวกเขาทั้งหมดไปสังหารแล้ว หลี่อวิ๋นลี่สามารถเลื่อนตำแหน่งให้กับพวกเจ้าได้ รีบลงมือเร็วเข้า” อวี๋เจิ้งหมิ่นแน่ใจแล้วว่าคนที่อยู่ที่นี่ได้รู้ถึงเรื่องราวด้านในแล้ว สีหน้าก็ล้วนเปลี่ยนไปแล้วเขาเอ่ยตะโกนเสียงดังขึ้น

อวี๋เจิ้งหมิ่นเข้าใจดีว่าการฆ่าคนเพื่อปิดปากนั้นเป็นเพียงเรื่องเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้แล้ว หากตอนนี้ไม่ฆ่าปิดปาก เรื่องราวด้านในภูเขาก็ล้วนที่จะถูกเปิดโปงออกมาเป็นแน่ ถึงตอนนั้นเขาก็ไม่มีทางรอดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่าบาทหรือหลี่อวิ๋นลี่ก็ล้วนไม่อาจให้อภัยตนได้แน่

เหล่าเจ้าหน้าที่ทางการที่เดิมทีก็ไม่กล้าเข้ามาวุ่นวาย พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าเพราะเหตุใดถึงเชื่อเด็กน้อยทั้งสองคนตรงหน้านี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าเช่อฮุนมู่

พวกเขาล้วนเชื่อฟังยืนอยู่ที่นั้น เหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของอวี๋เจิ้งหมิ่นอย่างไรอย่างนั้น อวี๋เจิ้งหมิ่นที่โมโหอย่างอับอายอยู่แล้วก็หยิบดาบในมือของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ตัวของตนเองขึ้นมา แล้วก็ฟันไปที่ทางจิงโม่และฉองเหล่า

เขาที่เดิมทีเป็นเพียงปัญญาชน แต่จิงโม่และฉองเหล่านั้นมีพลังพิเศษติดตัว เขาวิ่งไล่ฟันพวกเขาอยู่นานล้วนไม่ประสบความสำเร็จ ในสายตาของอวี๋เจิ้งหมิ่นจึงแดงก่ำขึ้นหลายส่วน

แต่เด็กน้อยทั้งสองคนเหมือนกับว่ากำลังเล่นสนุกกับอวี๋เจิ้งหมิ่น เมื่อถูกเขาไล่ตามก็วิ่งซุกซนไปมา แต่สุดท้ายแล้วคนที่เสียเปรียบกลับเหมือนว่าจะเป็นอวี๋เจิ้งหมิ่น

ตอนนี้ด้านบนกลีบเมฆ บุรุษชุดขาวที่ใบหน้างดงามดั่งหยกมองกระจกหลานเทียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างเกียจคร้าน มองเด็กสาวที่เหมือนแกล้งเล่นแมวจับหนูกับอวี๋เจิ้งหมิ่นอยู่ในกระจก ในใจของเขาก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมาหลายส่วนอย่างคาดไม่ถึง เขาเอ่ยเสียงต่ำกับข้าบริวารที่อยู่ด้านหลังว่า “กล้ารังแกคนของข้า พาตัวเขามาให้ข้าจัดการเดี๋ยวนี้”

“ท่านเซียน เด็กสาวผู้นี้ยังไม่ได้เป็นของท่านเลย ท่านลงไปจุติที่โลกมนุษย์แล้ว นางจึงจะเป็นของท่าน.....” ข้าบริวารที่หวังดีเอ่ยตักเตือน เพิ่งเอ่ยพูดจบท่านเซียนก็หมุนตัวกลับมามองที่เขา ทำให้ในใจของเขาเกิดความหวาดหวั่นขึ้นอย่างมาก

“นำพลังพิเศษของเด็กน้อยผู้นั้นกับคืนมาให้กับข้า” ท่านเซียนออกคำสั่งอย่างเอาจริงเอาจัง ข้าบรวารมองบุรุษผู้นั้นด้วยใบหน้าที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก

“ท่านเตรียมตัวที่จะให้ข้าเป็นคนที่เมื่อลงไปจุติแล้วสตรีของตนก็ล้วนจัดการไม่ได้ใช่หรือไม่”

“แต่ว่า....” ข้าบริวารยังอยากที่จะอธิบาย

“ให้นางมีร่างกายเป็นอมตะ นางคุ้มครองตนเองไม่ดีก็ไม่เกิดเรื่องใดขึ้นแล้ว” ท่านเซียนคล้ายกับเข้าใจคำพูดของข้าบริวาร พูดอธิบายเบาๆจบแล้วก็หมุนตัวจากไป

เพราะเด็กสาวตัวน้อยผู้นั้น เขาจึงรอคอยเรื่องการไปจุติยังโลกมนุษย์นี้อย่างมาก....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า