ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 378

ตอนที่ 378 สมคบกับศัตรูก่อกบฏ

“จิงโม่ ไม่ต้องกลัว แม่และน้องชายก็อยู่ที่นี่แล้ว พวกเราจะปกป้องเจ้าเอง” ชูเซี่ยเข้าใจความหวาดกลัวและไร้กำลังในใจตอนนี้ของจิงโม่ดี และตอนนี้นอกจากนางจะโอบกอดและให้คำมั่นสัญญากับนางแล้ว ตนก็กลับทำเรื่องใดๆทั้งสิ้นไม่ได้เลย

นางคิดไม่ตกว่าจิงโม่หลุดไม่พ้นความสัมพันธ์ที่มีกับคนที่ทำให้ฝนตกผู้นั้นเช่นนี้ เพียงแต่จิงโม่เข้าใจคนผู้นั้นน้อยเกินไป และที่คนผู้นั้นทำเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเพียงต้องการปกป้องคุ้มครองจิงโม่

หลังจากประสบผ่านเรื่องราวมามากมาย ชูเซี่ยก็พบว่าพลังวิเศษที่ติดติดตัวมาเรื่องนี้อาจจะมีประโยชน์ต่อรักษาชีวิตให้พ้นจากอันตรายก็เป็นได้ แต่ในทางกลับกันก็สามารถนำมาซึ่งภัยพิบัติที่มากมายเช่นกัน

ดังนั้นผลลัพธ์เช่นนี้ แม้ว่าจิงโม่จะไม่ยอมรับ แต่กลับเป็นเรื่องที่ดี

“ท่านพี่ ต่อไปพวกเราสองคนจะไม่แยกจากกันไปที่ไหน ข้าจะผกผ้องคุ้มครองท่านอย่างดีเอง จะไม่ให้ผู้ใดรังแกท่าน” ฉองเหล่าเห็นจิงโม่ร้องไห้อย่างเสียใจก็รีบเอ่บปลอบใจ แต่จิงโม่ก็ยังมองออกจึงบางอย่างนอกจากการมีจิตใจที่ดีในการปลอบโยนนาง นางจึงจ้องมองฉองเหล่าแล้วเอ่ยพูดว่า “เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจของเจ้านั้นดีใจมากเพียงใด ต่อไปนี้มีเพียงเจ้าที่สามารถช่วยเหลือท่านแม่จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ต่อไปหมาล่าเสี่ยวหลงเซี่ย ของกินที่เลิศรสทั้งหมดล้วนเป็นของเจ้าแล้ว”

“ท่านพี่ ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก ต่อไปมีของกินที่เลิศรสข้าก็ล้วนแบ่งปันกับท่าน ข้าไม่ทำเช่นนั้นหรอก...”

จิงโม่จ้องยังฉองเหล่า ในที่สุดฉองเหล่าก็ยังคงกินปูนร้อนท้องก้มหน้าลง ตอนที่ของกินอยู่ตรงหน้า แต่ไหนแต่ไรเขาล้วนไม่เคยคิดที่จะแบ่งปันกับพี่สาวเลย แต่เหมือนกับว่าทุกครั้งพี่สาวล้วนแย่งของกินที่แสนอร่อยกับเขา

“จิงโม่ ต่อไปแม่ไม่อาจให้พวกเจ้าลงมือจัดการทำเรื่องอันใดแล้ว ต่อไปพวกเจ้าก็ไม่ต้องไปทำโดยที่ไม่ถามความเห็นของผู้อื่น มิฉะนั้นแม่จะโกรธพวกเจ้าแน่” ชูเซี่ยยืนยันกับเด็กน้อยทั้งสองคนอย่างจริงจัง ตอนนี้คนมากมายของพรรคมังกรเหินล้วนรู้ถึงเรื่องการมีพลังวิเศษติดตัวของพวกเขาแล้ว นางยังต้องปิดเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี มิฉะนั้นไม่อาจรู้ว่าจะนำภัยพิบัติอย่างไรมาสู่ตัวเด็กน้อยทั้งสองคน

“ท่านแม่ทำเช่นนี้ไม่ได้เพคะ เพราะต่อไปน้องสามารถช่วยเหลือท่านได้แล้ว ท่านก็มอบของกินแสนอร่อยทั้งหมดให้แก่เขา ท่านแม่จะลำเอียงไม่ได้นะเพคะ” จิงโม่ยังยึดติดกับของกินไม่เปลี่ยน ชูเซี่ยมองนางอย่างจนใจ เอ่ยรับปากเบาๆ

จิงโม่รู้ดว่าคำพูดที่ท่านแม่พูดออกมานั้นคือพูดเช่นนั้นจริงๆ ความกังวลและความเสียใจที่มีอยู่ในใจก็ค่อยๆ สงบลง และเชียนซานที่เห็นสามคนแม่ลูก แล้ว ก็รีบเข้าไปเอ่ยถามว่า “นายท่าน ข้าจะนำตัวคนเหล่านี้ไปที่เมืองเก้อโจวก่อนนะเจ้าคะ ให้พวกเขาและคนในครอบครัวได้พบเจอหน้ากัน สองวันนี้พวกเราไม่อยู่ คนกลุ่มนั้นยังไม่รู้ว่าจะอาละวาดจนเป็นเช่นไรแล้ว”

“ในพวกเขาคนใดที่เป็นประโยชน์ล้วนให้อยู่ที่นี่ก่อน ข้ายังมีเรื่องที่ต้องการจะถาม” ชูเซี่ยเอ่ยเตือนเสียงเบา ตอนที่อยู่ด้านในภูเขาพวกเขาล้วนคิดว่าจะออกมาได้เช่นไร ตอนนี้ออกมาแล้ว นางก็จะตรวจสอบถึงเรื่องราวการหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่อยู่ด้านใน

“พวกเขาได้รออยู่ที่นั้นแล้วเจ้าคะ เช่นนั้นข้าจะพาเด็กน้อยทั้งสองคนและเหล่าคนงานเหมืองแร่กลับไปก่อนนะเจ้าคะ ข้าให้ว่านอันอยู่กับท่านที่นี่” เชียนซานเอ่ยเสียงเบาๆขึ้น

“ดี เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูดก็แล้วกัน” เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก ชูเซี่ยจึงไม่วางใจที่จะนำเรื่องนี้ไปมอบให้แก่ผู้อื่นดำเนินการ ดังนั้นแผนการของเชียนซานจึงดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

เชียนชานพาเด็กน้อยทั้งสองคนแยกตัวจากไป เวลาไม่นานด้านล่างของเขาเฟลหลงก็เหลือเพียงคนของพรรคมังกรเหินและคนที่เป็นประโยชน์เพียงไม่กี่คนที่อยู่ด้านใน

“ผู้มีบุญคุณ ข้ามีใบแสดงรายการสิ่งของการหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นี่ของพวกเขาขอรับ ทุกครั้งข้าล้วนจดจำได้ เดิมทีข้าอยากที่จะหยิบสิ่งนี้ออกมาบีบพวกเขาให้พวกเขาปล่อยตัวข้าออกมา แต่ข้ากลับไม่มีความกล้า ข้ากลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าตัวข้านั้นทราบเรื่องเหล่านี้ อาจจะต้องมาเอาชีวิตข้าโดยตรง” บุรุษวัยกลางคนที่สวมใส่เสื้อผ้าที่ขาดกะรุ่งกะริ่งเดินมาที่ด้านหน้าของชูเซี่ย แล้วนำสมุดบัญชีส่งให้ถึงมือของชูเซี่ย

“ผู้มีพระคุณ ตัวข้านั้นแม้จะไม่ได้เก็บใบแสดงรายการสิ่งของใดเอาไว้ แต่ลักษณะของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่หลอมขึ้นของพวกเราข้าล้วนสามารถวาดออกมาได้ ขอเพียงท่านมอบกระดาษและพู่กันให้กับข้า ข้าก็จะวาดทันทีขอรับ ”

“ผู้มีพระคุณ อาวุธยุทโธปกรณ์ที่พวกเราให้พวกเขาหลอมขึ้นมา คล้ายกับว่าไม่เพียงแต่เป็นรูปแบบของพวกเรา มีมีดลูกโซ่ของหนานจ้าว ยังมีหอกด้ามยาวของแคว้นจื่อซุย”

“เจ้าว่าอะไรนะ” ชูเซี่ยแทบไม่เชื่อหูของตนเอง การหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เขาเฟลหลงนี้ ไม่เพียงแต่มีแคว้นของพวกเขา ยังมีหนานจ้าว และแคว้นจื่อซุยอีก

หรือว่าหลี่อวิ๋นลี่จะหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับแคว้นอื่น เพื่อทรัพย์สินเงินทองหรือว่าเพื่อผลประโยชน์กันแน่

“ว่านอัน เจ้าให้เหล่าพี่ชายหลายท่านเมื่อสักครู่นั้นวาดลักษณะของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พวกเขาทำในช่วงหลายปีมานี้ออกมา แล้วสำรวจให้ระเอียดตามใบแสดงรายการสิ่งของทีละอย่าง แล้วคิดหาวิธีตามหาว่าสุดท้ายแล้วอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ไปตกอยู่ในมือของผู้ใด ทางที่ดีทุกช่องทางที่ผ่านไปล้วนต้องตรวจสอบให้ละเอียด”

“ขอรับนายท่าน ข้าจะจัดเตรียมคนไปตรวจสอบทันที” ว่านอันได้ฟังแล้วในใจก็ยังหวาดหวั่นอย่างมาก

“ว่านอัน ครั้งนี้ที่ข้าต้องการให้เจ้าไปตรวจสอบก็คือหลักฐานที่หลี่อวิ๋นลี่สบคบกับศัตรูทรยศต่อแคว้นเจ้ารู้ใช่หรือไม่” คำพูดของชูเซี่ยยิ่งจริงจังมากขึ้น

ถ้าหากตรวจหาหลักฐานได้แล้วว่าหลี่อวิ๋นลี่สบคบกับศัตรูทรยศต่อแคว้น ข่าวลือที่พูดคุยกันระหว่างประชาชนและราชสำนักก็อาจจะทำให้หลี่อวิ๋นลี่นั้นดูแย่ลง เขาอยากที่จะยึดครองบัลลังก์จึงไม่อาจขาดการสนับสนุนจากประชาชนได้

ถึงตอนนั้นถึงแม้เขาจะเล่นกับใจของคนอีก เขาก็ล้วนไม่มีทางที่จะทำให้ประชาชนยอมสวามิภักดิ์ยอมอยู่ใต้อำนาจได้แน่

“นายท่าน ข้าทราบแล้วขอรับ” เห็นได้ว่าว่านอันก็ตื่นเต้นเช่นกัน ครั้งนี้พวกเขารอดตายมาอย่างหวุดหวิด ถ้าหากสามารถจับข้อบกพร่องของหลี่อวิ๋นลี่ได้ ภัยอันตรายในครั้งนี้ก็คุ้มค่าจริงๆเสียแล้ว

“พวกเราเข้าไปด้ายในภูเขาตรวจดูอีกรอบ ดูว่าเขาทิ้งร่องรอยของเบาะแสไว้หรือไม่” แม้ว่าจะประสบผ่านเพลิงไหม้ขนาดใหญ่มาแล้ว แต่ชูเซี่ยก็ยังหวังว่ายังสามารถหาร่องรอยเบาะแสได้สักเล็กน้อยจากด้านใน ช่วยให้พวกเขาไปตรวจสอบผลลัพธ์ของเรื่องราวนี้

“ข้าจะติดตามท่านเข้าไปเองขอรับ” ว่านอันเอ่ยพูดจบก็เดินตามหลังชูเซี่ยเข้าไป แม้ว่าพวกเราจะออกมาแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่วางใจ กลัวว่าหลังจากที่พวกเขาเข้าไปแล้ว ภูเขาอาจจะปิดอีกรอบได้ เขาจะต้องปกป้องนายท่าน

“ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน เจ้าวางใจเถอะ” ชูเซี่ยมองออกถึงความตึงเครียดของว่านอัน แต่ทางออกในครั้งนี้เป็นเด็กน้อยทั้งสองคนรวบรวมพลังพยายามอย่างสุดชีวิตเปิดออกมา หากหลี่อวิ๋นลี่คิดที่จะจัดการกลไกให้เรียบร้อยก็ย่อมจำเป็นต้องใช้เวลา

ว่านอันจึงไม่มีสิ่งใดจะพูด เพียงแต่ตามชูเซี่ยเข้าไปด้านในภูเขา ออกตามหาอยู่ในภูเขาที่ทั้งหมดแทบที่จะโดนเผาไหม้จนกลายเป็นขี้เถ้า จนสุดท้ายก็พบกับภาพโคร่งร่างของอาวุธยุทโธปกรณ์ และภาพโครงร่างอาวุธยุทโธปกรณ์ของแคว้นหนานจ้าวและจื่อซุย ที่ด้านบนมีเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าคือตัวอักษรของหนานจ้าวและจื่อซุย

“นายท่าน นี่ก็คือหลักฐานว่าเขาสบคบกับศัตรูทรยศต่อแคว้น มีสิ่งของพวกนี้อยู่ หลี่อวิ๋นลี่คง....” ว่านอันพูดอย่างตื่นเต้น แต่พูดยังไม่จบ เขาก็เห็นว่าสีหน้าของชูเซี่ยดูเคร่งขรึมลงไปหลายส่วน เขามองชูเซี่ย แล้วเอ่ยถามเบาๆว่า “นายท่าน พวกเราจะพิสูจน์อย่างไรว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นของหลี่อวิ๋นลี่หรือขอรับ”

ชูเซี่ยไม่พูดสิ่งใดออกมา นี้ก็คือสิ่งที่นางกำลังปวดหัวที่สุดอยู่ตอนนี้ พวกเขาล้วนรู้ดีว่าเขาลูกนี้เป็นของหลี่อวิ๋นลี่ แต่คนที่หยิ่งยโสที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเปรียบเสมือนพี่ชายของหลี่อวิ๋นลี่ได้ตายไปแล้ว หลังจากที่เพลิงไหม่ครั้งใหญ่ในภูเขานั้นดับมอดลง หลักฐานที่สามารถพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับหลี่อวิ๋นลี่ล้วนสูญหายไปหมดแล้ว

ดังนั้น ถึงแม้พวกเขาจะหยิบเอาหลักฐานที่แน่ชัดเช่นนี้ไปบอกกับผู้อื่นว่าหลี่อวิ๋นลี่สบคบกับศัตรูทรยศต่อแคว้น เขาก็สามารถพูดอย่างคนที่ไม่ทำอะไรผิดว่าตนเองนั้นถูกใส่ร้าย

ถึงตอนนั้นคนที่ใส่ร้ายหลี่อวิ๋นลี่ก็จะเปลี่ยนเป็นมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์

“นายท่าน พวกเราจะทำเช่นไรกันดีขอรับ” ว่านอันมองชูเซี่ยด้วยสีหน้าที่อึดอัดใจ ความดีใจก่อนหน้านี้ทั้งหมดล้วนอันตรธานหายไป ในหัวของเขาก็คิดวิธีต่างๆขึ้นมาจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องขอความช่วยเหลือจากชูเซี่ย

“ตรวจเส้นทางการขนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ออกไปเถอะ ข้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องมีบางอย่างที่น่าสงสัยเป็นแน่ คิดว่าเขาหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้แล้วจะไม่ใช้งาน” ชูเซี่ยเอ่ยพูดเบาๆ แต่ในใจกลับหวาดหวั่นขึ้นทันที คิดว่าตนเองนั้นเคยผิดพลาดสิ่งใดไป...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า