ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 379

ตอนที่ 379 ลงโทษผู้ทรยศ

ตอนที่ชูเซี่ยกลับมาถึงที่พัก เด็กน้อยทั้งสองคนล้วนเข้านอนแล้ว เชียนซานเห็นสีหน้าที่อ่อนเพลียของชูเซี่ยที่เข้ามาในลานบ้าน จึงรีบเข้าไปรับ เอ่ยเสียงเบาว่า “นายท่าน ทางอาหมั่นนั้นได้ตรวจพบแล้วว่าเงินทั้งหมดล้วนไหลเข้าไปในมือของหลี่อวิ๋นลี่แล้วเจ้าคะ”

“อะไรนะ” ชูเซี่ยแทบจะไม่เชื่อหูของตนเอง นางล้วนไม่เคยคิดเลยว่าในพรรคมังกรเหินจะมีคนที่สมคบกับหลี่อวิ๋นลี่

“ช่างใจกล้าเสียจริง ช่างเป็น....” ชูเซี่ยพูดอะไรไม่ออกแล้ว สำนึกในความผิดของตนดั่งเช่นเมฆหนาสีดำทะมึนที่ปกคลุมไปทั่วในใจ ถ้าหากไม่ใช่หลายปีมานี้ตนไม่สนใจสิ่งของและเหตุการณ์ในพรรคมังกรเหินเลย เรื่องราวอาจจะไม่เป็นดังเช่นตอนนี้ก็เป็นได้ พรรคมังกรเหินของตนก็ได้กลายเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือกับหลี่อวิ๋นลี่เสียแล้ว

“อาหมั่นพูดว่าอย่างไรบ้าง” ชูเซี่ยเอ่ยถามเสียงเบา ตอนนี้รู้ถึงที่ไปของเงินแล้ว ไล่ตามกลับมาก็คงไม่ได้แล้ว ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือลดผลกระทบที่ไม่ดีลงให้ได้มากที่สุด

“อาหมั่นพูดว่าผู้ทรยศนั้นได้จับกุมตัวกลับมาแล้วเจ้าคะ รอดูว่าท่านจะลงโทษอย่างไร” เชียนซานเอ่ยพูดเสียงเบา พรรคมังกรเหินเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้น นางก็เสียใจเช่นกัน พรรคมังกรเหินที่ลือชื่อเรื่องความจงรักภักดีมีคนออกมาจงรักภักดีต่อหลี่อวิ๋นลี่

“โดยปรกติเมื่อพวกเขาทรยศแล้วต้องลงโทษอย่างไรหรือ” ชูเซี่ยเอ่ยถามขึ้นเบาๆ นางพลิกอ่านข้อมูลทั้งหมดของพรรคมังกรเหินแล้ว กลับจำไม่ได้ว่ามีบันทึกการลงโทษผู้ทรยศ

“ปรกติแล้วการลงโทษผู้ทรยศล้วนดูที่ความคิดเห็นของนายท่านเจ้าคะ แต่หลายปีมานี้คนทรยศในพรรคมังกรเหินน้อยมาก น้อยอย่างยิ่งเจ้าคะ ”

“เป็นข้าไร้ความสามารถ” ชูเซี่ยเอ่ยอย่างจริงจัง ถ้าหากตนเองที่เป็นนายท่านของพรรคมังกรเหินสามารถทำให้พวกเขาหวานหวั่นได้ ก็คงมีส่วนทำให้พวกเรามีใจที่คิดหักหลัง

“นายท่าน เป็นหลี่อวิ๋นลี่เก่งกาจเกินไปต่างหากเจ้าคะ เขาจับจุดอ่อนของคนเหล่านี้เอาไว้ได้ ตนที่หักหลังก็ล้วนเป็นคนที่มีสิ่งที่ต้องการกันอยู่แล้ว พรรคมังกรเหินของพวกเราไม่สามารถทำให้พวกเขาพอใจได้ ดังนั้น...” ตอนที่ชูเซี่ยยังไม่ได้มาเชียนซานได้ทำความเข้าใจคนที่หักหลังพวกนี้และเหตุผลในการหักหลัง พร้อมกันนั้นก็เคียดแค้นคนพวกนี้ที่ไม่มีความรักในศักดิ์ศรีของตน นางอดชมเชยหลี่อวิ๋นลี่ไม่ได้ที่รู้และใช้ใจของคนได้อย่างสุดยอด

มอบถ่านไม้กลางหิมะ นองตอบความต้องการของผู้อื่น ชักนำผลประโยชน์ นั่นล้วนเป็นเพียงแค่คนที่มีใจเช่นนั้น ถ้าหากในใจนั้นหนักแน่น จะสามารถหักหลังความศรัทธาที่มีของตนได้อย่างไร

“ในเมื่อเป็นการเลือกของพวกเขา เช่นนั้นพวกเขาก็ควรที่จะรู้ดีถึงบทลงโทษ พรรคมังกรเหินจะไม่ไว้ชีวิตคนที่ไม่จงรักภักดี จัดการตัดทิ้งไปซะ” ชูเซี่ยไม่ได้เห็นด้วยกับการสังหารผู้คน แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เรื่องราวที่พวกเขาลงมือทำมีความผิดที่ร้ายแรงอีกด้วย เวลานี้ถ้าหากไม่เชือดไก่ให้ลิงดู ถึงตอนนั้นกลัวว่าอาจจะมีคนเอาเยี่ยงอย่างได้

“นายท่าน พวกเขา....” เชียนซานเอ่ยปากอยากที่จะขอความเมตตา แต่เมื่อเอ่ยปากพูดออกมานางกลับไม่รู้ว่าต้องพูดอย่างไรต่อไป

สาเหตุที่ผู้คุมกำลังพลในเก้อโจวหักหลังนั้น เป็นเพราะว่ามารดาที่แก่ชราป่วยหนักจำเป็นต้องรีบใช้โสมพันปีมายื้อชีวิต คนของหลี่อวิ๋นลี่จึงส่งโสมมาไม่หยุด จึงเป็นบุญคุณอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงซาบซึ้งใจขึ้น ไม่ใช่คิดที่จะหักหลังจริงๆ ตอนนี้เขาก็สำนึกผิดในสิ่งที่ตนได้ทำลงไปอย่างมาก จนคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่อาจตัดใจจากมารดาที่แก่ชราของตนได้

“เป็นผู้ใดที่มีค่าต่อการขอความเมตตาของเจ้ากันหรือ เป็นผู้คุมกำลังพลงั้นหรือ” ชูเซี่ยเอ่ยถามขึ้น เชียนซานตกใจอย่างมาก นางไม่คิดเลยว่าชูเซี่ยจะรู้อยู่ก่อนแล้ว

“ก่อนมาที่เก้อโจวข้าเพิ่งจะตรวจสอบสถานการณ์ของเขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะหักหลัง เขายังถือเป็นลูกที่กตัญญู” ชูเซี่ยเอ่ยพูดประเมินได้อย่างตรงจุด

“นายท่าน เขา.....”

“ไม่ต้องพูดแล้ว” ชูเซี่ยตอบใจเย็น เชียนซานมองชูเซี่ยอย่างงุนงง เห็นนางเอ่ยปากเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ครั้งนี้เขาทำให้ดกิดความเสียหายมากมายขนาดไหนเจ้ารู้หรือไม่ ไม่หยุดเพียงสองล้านตำลึงเงิน เงินเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อหลี่อวิ๋นลี่ นี่อาจจะนำภัยที่ใหญ่หลวงมาให้กับราชสำนักและพรรคมังกรเหินของพวกเราเจ้ารู้หรือไม่ ถ้าหากเงินพวกนี้ใช้มาเพื่อสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ ด้านในนั้นอาจจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายที่อาจสอดแทรกเข้ามาถึงร่างการของคนในพรรคมังกรเหิน การหักหลังเช่นนี้ เรียกได้ว่าอันตรายถึงแก่ชีวิต ไม่อาจให้อภัยได้”

ถ้าหากสามารถเลือกได้ ชูเซี่ยก็ยอมที่จะให้อภัยทุกคน แต่ผลลัพทธ์ของการให้อภัยกลับไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถยอมรับได้

“ผู้เฒ่าผู้นั้น.....” ความจริงนี่คือสิ่งสำคัญที่เชียนซานอยากที่จะขอความเมตตา ถ้าหากไม่มีลูกกตัญญูผู้นี้แล้ว ผู้เฒ่าต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

“ท่านผู้เฒ่าคือคนของพรรคมังกรเหินของพวกเรา พรรคมังกรเหินมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูรักษานางไปจนแก่” ชูเซี่ยพูดจบก็หมุนตัวเตรียมตัวจากไป นางไม่ยอมคุยเรื่องเช่นนี้อีก เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนอาจจะทำให้จิตใจของนางกระวนกระวายอึดอัดอย่างยิ่ง

เชียนซานก็เข้าใจดีว่า ที่ชูเซี่ยทำนี้เป็นการยอมสละผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว

หลังจากที่ชูเซี่ยจากไปไม่กี่ก้าว ก็พลันหันหน้ากลับมาเอ่ยพูดกับเชียนซานว่า “ตอนที่ลงโทษคนพวกนั้น ให้เหลียงกวางเสียงมาดูด้วยก็แล้วกัน”

“นายท่าน นี้......” เชือดไก่ให้ลิงดูความหมายก็ต้องชัดเจนเช่นนี้ใช่หรือไม่

“ให้อาหมั่นไปแจ้งก็แล้วกัน ผู้อาวุโสของพรรคมังเหินจำเป็นต้องออกโรง เช่นนี้ก็ไม่ดูราวกับตั้งใจเกินไปแล้ว” ประโยคสุดท้ายของชูเซี่ยดูเหมือนเป็นการพูดกับตัวเอง แต่เชียนซานกลับยังได้ยินเข้า จึงเอ่ยบอกกับชูเซี่ยอย่างเอาจริงเอาจังว่า “เพียงแต่เรียกตัวของเหลียงกวางเสียงมา ก็เป็นการตั้งใจแล้วเจ้าคะ”

ผู้ใดล้วนทราบดีว่าตอนนี้เหลียงกวางเสียงกำลังเหยียบเรือสองแคม ดังนั้นการตักเตือนเช่นนี้จะมีประโยชน์จริงๆหรือ

เชียนซานแสดงความสงสัยออกมา

“ก็ข้าตั้งใจ ก็อยากที่จะตักเตือนเขาสักหน่อยว่า ถ้าหากสักวันหนึ่งเขาคิดที่จะหักหลังพรรคมังกรเหินแล้วจริงๆ พรรคมังกรเหินก็ไม่อาจให้อภัยเขาได้” ชูเซี่ยเห็นเชียนซานมองมายังตน ก็เอ่ยขึ้นอย่างจริงจังอย่างมาก

“นายท่าน ตอนนี้ท่านไม่วางใจเหลียงกวางเสียงหรือเจ้าคะ” คำพูดของเชียนซานจี้ถูกใจดำทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของชูเซี่ย นางมองเชียนซาน ในสายตามีความตะขิดตะขวางใจขึ้นมาบางส่วน

“ที่ไหนได้หลิงกุ้ยท่ายเฟยก็....” เชียนซานไม่รู้ว่าชูเซี่ยนั้นไม่มั่นใจว่าตนเองนั้นมาจากที่ใด นางจึงเอ่ยเตือนชูเซี่ยเบาๆ ชูเซี่ยจึงหัวเราะแล้วพูดกับเชียนซานว่า “ถ้าหากเขาไม่อยากให้ข้าทราบ ให้หลิงกุ้ยท่ายเฟยออกจากวังหลวงนั้นก็เป็นเรื่องที่ทำได้อย่างง่ายดาย”

ในมือของเหลียงกวางเสียงนั้นมีอำนาจทางการทหาร ทั้งยังเคยประจำการอยู่ในวังหลวงอีกด้วย พระราชวังขนาดใหญ่เช่นนี้จะไม่มีคนของเขาได้อย่างไร ถ้าหากไม่สามารถคุ้มครองตัวของหลิงกุ้ยท่ายเฟยได้ ตอนนั้นกลัวว่าเขาคงไม่อาจให้หลิงกุ้ยท่ายเฟยนำตัวบุตรเข้าวังมาเป็นแน่

หลิงกุ้ยท่ายเฟยเข้าวัง ดูเหมือนเป็นการที่เขาแสดงออกให้เห็นถึงใจที่ภักดี ความจริงใจที่ภักดีนี้ ล้วนถูกเขาวางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

“พวกเราดูแลหลิงกุ้ยท่ายเฟยอย่างดี เหลียงกวางเสียงก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะนั้นคือสตรีและบุตรของเขา...” เมื่อพูดถึงคำพูดสุดท้าย เชียนซานก็เชื่อมั่นในตนเองแล้ว

“ถ้าหากเกิดเรื่องกับหลิงกุ้ยท่ายเฟยจริงๆ แล้ว นั่นก็ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อตัวเขา ที่สุดแล้วเขาอาจจะใช้เหตุผลนี้ในการหักหลังก็เป็นได้”

“นายท่าน เหลียงกวางเสียงนั้นชอบหลิงกุ้ยท่ายเฟยจริงๆนิเจ้าคะ มิฉะนั้นเขาก็คงไม่คำนึงถึงการต่อต้านของผู้อื่น อีกทั้งกุ้ยเฟยของฮ่องเต้องค์ก่อนล้วนกล้าที่จะใช้ประโยชน์” เชียนซานลองพูดหยั่งเชิงโน้มน้าวชูเซี่ย แล้วก็ให้ใจที่ตะขิดตะขวางของตนมั่นคงลง แต่นางยิ่งพูดก็ยิ่งไม่มั่นใจในตนเอง หลังจากพูดจบนางมองยังชูเซี่ย กลับไม่คิดว่าชูเซี่ยจะพูดเบาๆขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “เขาชอบหลิงกุ้ยท่ายเฟยจริงๆ แต่คนที่เขาชื่นชอบที่สุดกลับไม่ใช่หลิงกุ้ยท่ายเฟย”

เชียนชานมีความงงงันอยู่บางส่วน ชูเซี่ยก็ไม่คิดที่จะอธิบายต่อไป แต่ให้เชียนซานรอคอยด้วยความใจจดใจจ่อ ถ้าหากตนคาดเดาไม่ผิดละก็ ครั้งนี้เหลียงกวางเสียงไม่อาจที่จะยืนอยู่ข้างพรรคมังกรเหิน

แต่ชูเซี่ยก็ยังหวังว่า การคาดเดาของนางนั้นผิด นางไม่หวังว่าตนเองมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน โดยเฉพาะศัตรูผู้นี้ยังควรที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตน

แน่นอนว่านางก็ไม่ได้เกรงกลัวศัตรู ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน นางเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วตนเองนั้นสามารถเอาชนะพวกที่เห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจเหล่านั้นได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า