ตอนที่ 380 ตักเตือนเหลียงกวางเสียง – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาเกิดใหม่ของข้า
ตอนนี้ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 380 ตักเตือนเหลียงกวางเสียง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 380 ตักเตือนเหลียงกวางเสียง
ชูเซี่ยไม่อยากสังหารผู้คน และก็ไม่ชอบมองชีวิตของคนที่มีลมหายใจสูญหายไปต่อหน้าต่อตาของตน แต่เพื่อเหลียงกวางเสียง นางยังปรากฏตัวออกมาที่ลานลงโทษผู้ทรยศในตอนนี้
นางเพิ่งนั่งลง เหลียงกวางเสียงก็เดินทางมาถึง เขาจ้องชูเซี่ย แล้วเอ่นถามขึ้นเบาๆประโยคหนึ่งว่า “นายท่านนี้หมายความว่าอะไรกันหรือขอรับ”
ไม่แปลกที่เหลียงกวางเสียงจะมีความสงสัยเช่นนี้ ความตั้งใจของนางนั้นชัดเจนมากเกินไปว่าก็คือกำลังตักเตือนเหลียงกวางเสียง อย่างไม่ต้องมีเล่ห์เหลี่ยม
“ไม่มีความหมายอะไร ผู้อาวุโสเหลียงคิดมากเกินไปแล้ว ”
“ท่าน.....”
“ข้าเพียงคิดว่าหลายปีมานี้ภายในพรรคไม่เคยลงโทษผู้ทรยศเลย ดังนั้นจึงอาศัยเวลาที่ทุกคนรวมตัวกันนี้ ถือโอกาสหวังว่าให้ทุกท่านกลับไปแล้วดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตนให้อยู่ในกรอบให้ดี ต่อไปนี้ทุกการหักหลัง ล้วนไม่มีการให้อภัย” คำพูดที่ดังและหนักแน่นของชูเซี่ย ทำให้ผู้คนที่อยู่ในลานล้วนใจสั่นไหวไม่หยุด
ผู้คนทั้งหมดในลานล้วนมีความเข้าใจที่ใหม่ต่อชูเซี่ย ก่อนนี้พวกเราคิดเพียงว่าชูเซี่ยที่ทำหน้าที่เป็นนายท่านนี้อ่อนโยนเหลือเกิน ความกล้าหาญก็ไม่เพียงพอ แต่ตอนนี้ดูแล้วเหมือนกับว่าเป็นพวกเขาที่คิดผิดไป
เหลียงกวางเสียงจ้องมองชูเซี่ยโดยตลอด เขาหวังว่าจะสามารถมองเห็นบางอย่างบนใบหน้าของชูเซี่ย แต่ชูเซี่ยกลับมีสีหน้าที่ไม่พอใจมาโดยตลอด จนถึงจบเรื่องนางล้วนไม่พบความผิดปกติจากบนใบหน้าของชูเซี่ยสักนิดเดียว เบิกตากว้างตามองการสังหารผู้คนด้วยสายตาที่เย็นชา
เหลียงกวางเสียงแน่ใจอย่างมากว่า ชูเซี่ยในตอนนี้ต้องรู้ดีกว่าเขาเป็นแน่ ล้วนต้องเย็นชากว่าข่าวลือที่มีมากมาย
“นายท่าน ถ้าหากไม่มีเรื่องอันใด ข้าก็ต้องขอตัวกลับก่อนแล้วขอรับ” เหลียงกวางเสียงเห็นชูเซี่ยนั่งอยู่ที่ที่ประจำตำแหน่งอย่างเย็นมาตลอด ในที่สุดยังอดที่จะเปิดปากพูดขึ้นมาเบา ๆ ไม่ได้
“อืม ท่านอาวุโสเหลียงกลับไปก่อนเถิด” ชูเซี่ยใช้สายตาที่เย็นชาตวัดมองมาที่เหลียงกวางเสียงแวบหนึ่ง แล้วจงใจใช้คำพูดที่ดูอ่อนโยน
เหลียงกวางเสียงก็พลันมีความรู้สึกประเภทที่ว่าตนเองใช้มือตบลงบนต้นฝ้าย เขาคิดว่าอย่างน้อยชูเซี่ยต้องการที่จะพูดบางอย่างกับตนเป็นแน่ แต่นางล้วนกลับไม่พูดอะไร
“หรือว่านายท่านรู้เรื่องอะไรมาหรือขอรับ” ในที่สุดเหลียงกวางเสียงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา
ภายในสายตาที่มีความราบเรียบของเวนอี้ กวดมองเหลียงกวางเสียงแวบเดียว แล้วเอ่ยถามเสียงเบาว่า “หรือว่าผู้อาวุโสเหลียงมีเรื่องราวอันใดอยากที่จะบอกกับข้างั้นหรือ”
ในชั่วขณะนั้น เหลียงกวางเสียงแทบจะคิดว่าชูเซี่ยรับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่เพียงแค่ชั่วครู่ เขาก็มั่นใจว่าชูเซี่ยไม่อาจรู้เรื่องเรื่องได้แน่นอน
รอให้เขามองที่ใบหน้าของชูเซี่ยอีกครั้ง สายตาที่ร้อนรนของนางก็ยังมองตกอยู่ในสายตาของเขาพอดี
เหลียงกวางเสียงจึงสามารถมั่นใจได้ว่านางไม่รู้เรื่องราวที่ตนต้องทำแน่นอน ชูเซี่ยก็มองออกถึงอารมณ์และความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของเหลียงกวางเสียง แต่ผลลัพทธ์ที่ได้นางก็ยังคงสิ้นหวังเช่นเดิม
เห็นได้ชัดว่าเหลียงกวางเสียงไม่คิดให้นางรู้ถึงเรื่องที่ตนเองทำ
“ผู้อาวุโสเหลียง แม้พรรคมังกรเหินจะเข้มงวดกวดขันกับคนทรยศ แต่กับคนของตน เขาล้วนกางแขนออกมาปกป้องมาตลอด ถึงแม้จะเคยทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ เพียงไม่ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพียงเขายินยอมที่จะกลับมา” เสียงของชูเซี่ยนั้นอ่อนโยน ที่เหมือนกับการแนะนำและสั่งสอนของมาดาเมื่อหลายปีก่อน
“นายท่านยังเยาว์วัย ไม่เห็นต้องใช้คำพูดที่ดูโบราณคร่ำครึเช่นนี้เลยขอรับ” เหลียงกวางเสียงมีช่วงที่สูญเสียสติ แต่เขาก็พูดตักเตือนชูเซี่ยขึ้นมาทันที
ไม่ใช่ไม่สามารถพูดคำพูดเช่นนี้ได้ แต่ถ้าหากชูเซี่ยพูดเช่นนี้อีกครั้ง เขาอาจจะสะเทือนใจอย่างมากก็ได้
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าหลายปีที่ตนต้องดิ้นรนและอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากระหว่างพรรคมังกรเหินและหลี่อวิ๋นลี่นั้น เขาเพียงอยากได้ความรัก อยากได้อำนาจและอิทธิพล อยากให้ชีวิตของตนเต็มไปด้วยความสุขและความมั่นใจ
สิ่งเหล่านี้ พรรคมังกรเหินมอบให้กับเขาไม่ได้
แต่พรรคมังกรเหินกลับเป็นรากเหง้าของเขา ไม่มีพรรคมังกรเหิน ตอนนี้เขาอาจจะไม่มีอะไรเลย
“นายท่าน ข่าวที่ว่านเหลียงส่งมาก็คืออ๋องเก้าบุรุษผู้นี้มีประโยชน์มากเจ้าคะ หวังว่านายท่านจะสามารถมอบให้กับนางได้ นางจะปฏิบัติดีต่อเขาแน่นอนเจ้าคะ”
หลังจากพูดจบเชียนซานก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่ชูเซี่ยกลับตะลึงงัน ผ่านไปเนิ่นนานจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่นางเอ่ยมา โดยเฉพาะคำว่ามีประโยชน์สามคำนี้ ทำให้ชูเซี่ยจิตใจพะว้าพะวงไม่เป็นสุขบางส่วน
“นายท่าน ต้องการที่ตอบกลับนางหรือไม่ว่าเดิมทีแล้วอ๋องเก้านั้นไม่ใช่ของท่าน” เชียนชานอดที่จะเอ่ยถามชูเซี่ยไม่ได้ ชูเซี่ยมองเชียนซานแล้วเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังว่า “เจ้าบอกว่านเหลียง ใช้ประโยชน์ได้ดีก็ต้องใช้อย่างเหมาะสม ระวังฝนทั่งให้เป็นเข็ม”
เชียนซานเบิกตากว้างมองยังชูเซี่ย ถ้าหากไม่ใช่เป็นหูของตนเองที่ได้ยินคำพูดของชูเซี่ยแล้วละก็ นางคงต้องคิดว่าตนเองพบเจอกับนายท่านตัวปลอมจริงๆเป็นแน่ ก็ไม่รู้ว่านายท่านจะมีความคิดที่สกปรกเช่นนี้ ฝ่าบาทรู้หรือไม่
แต่เชียนซานก็ไม่อาจยอมรับว่า การตอบกลับของชูเซี่ยนั้นดูปราดเปรื่องกว่าตนมากมายนัก
“ถ้าหากสะดวก ก็ฝากจดหมายไปมอบให้กับอ๋องเก้า นำคำพูดของว่านเหลียงใส่ไปเช่นเดิมโดยที่ไม่ต้องแก้ไขบอกกับเขาไป”
ชูเซี่ยสามารถคิดถึงภาพสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอ๋องเก้าได้ ถูกสตรีของตนพูดว่ามีประโยนช์ เขาควรที่จะดีอกดีใจอย่างมากสินะ หรือควรที่จะโมโหขึ้นกันแน่
“นายท่าน อ้านทั่นเหมินของพวกเราส่งจดหมายไม่ได้ง่ายๆ ท่านไม่ควรพูดเรื่องที่เป็นทางการสักหน่อยหรือเจ้าคะ ถามเกี่ยวกับเรื่องแผนการของหลี่อวิ๋นลี่อะไรพวกนี้หรือไม่เจ้าคะ”
“เชียนซาน เจ้าคิดว่าถ้าหากอ๋องเก้ารู้แผนการของหลี่อวิ๋นลี่ เช่นนั้นแล้วเขาล้วนไม่พูดอะไรของมาอย่างไรหรือ ว่านเหลียงยังไม่ไม่สับสนถึงจุดที่ได้ข้อมูลแล้วไม่ส่งออกมา” ชูเซี่ยก็อยากรู้ถึงข่าวทางนั้นของหลี่อวิ๋นลี่ แต่เขาแน่ใจอย่างมากว่าหลี่อวิ๋นลี่ไม่อาจที่จะให้อ๋องเก้าได้รับรู้ถึงใจความสำคัญของข้อมูลเป็นแน่
“ดังนั้นว่านเหลียงเพียงใช้วิธีการอีกหนึ่งวิธีแสดงว่าพวกเขายังสบายดี กระทั่งสาเหตุที่ว่านเหลียงพูดเช่นนี้ ก็เพราะกังวลว่าหลี่อวิ๋นลี่อาจจะสกัดยึดข้อมูลของพวกเขาเอาไว้ดิ้ ”
ดังนั้นชูเซี่ยจึงจะตอบกลับว่านเหลียงด้วยข้อมูลที่เป็นเช่นนั้นไป ถึงแม้จะถูกสกัดยึดได้ ก็ไม่ได้มีส่วนทำให้อ๋องเก้านั้นถูกหลี่อวิ๋นลี่สงสัย
เมื่อเชียนซานได้รับคำสั่งแล้วเตรียมตัวจะจากไป ชูเซี่ยก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาทันทีว่า “ทางด้านตำบลอวี๋นจี๋ พวกเราควรที่จะเคลื่อนไหวได้แล้ว ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...