ตอนที่ 381คำขอของเฉินหยวนชิ่ง
“นายหญิง เรื่องทางนั้นไม่จำเป็นต้องร้อนใจไปหรอกเจ้าค่ะ อย่างไรเสียพวกเราก็ส่งคนของพรรคไปคุ้มครองแล้วนี่เจ้าคะ พวกนางไม่เป็นอะไรแน่”
ชูเซี่ยหันมามองเชียนซานทำท่าจะเอ่ยอะไรบางอย่างแต่จนแล้วจนรอดนางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป หลายวันมานี้นางเฝ้าคิดถึงแต่เรื่องของพิษสิบราตรีมาตลอด ความรู้สึกบางอย่างบอกนางว่าหลังจากผ่านไปสิบวันจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น บางอย่างที่ใหญ่โตมากแต่ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเพียงแค่สี่วันเท่านั้น นางเองก็ไม่รู้ว่าหากครบกำหนดสิบวันแล้วจะเป็นอย่างไร ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่นางทำได้ก็มีเพียงพยายามตัดปัญหาและความเป็นได้ต่างๆให้มันหมดไปเสียก่อน
นางไม่คิดจะสนคำเตือนของเหลียงกวางเสียงอีกต่อไปแล้ว ยามนี้สิ่งเดียวที่จะทำให้นางเลิกคิดฟุ้งซ่านต่างๆนาๆก็เห็นจะมีแต่การเดินทางไปยังตำบลอวี๋นจี๋ด้วยตัวเองเท่านั้น
“คนตั้งหลายสิบชีวิต ข้าว่าพวกเราเดินทางไปดูด้วยตาตนเองเถิด”
“แต่นายหญิงเจ้าคะ ข้าว่าท่านควรพักผ่อนสักหน่อยดีหรือไม่ หากว่าท่านไม่วางใจจริงๆล่ะก็ครั้งนี้ข้าจะเป็นคนเดินทางไปดูด้วยตาตนเองก็แล้วกันเจ้าค่ะ” เชียนซานกล่าวอย่างปวดใจยามที่ทอดมองไปยังใบหน้าอิดโรยของนายหญิง หลายวันมานี้นับตั้งแต่ที่ชูเซี่ยออกจากวังมานางก็พบเจอปัญหาตลอดจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนดีๆเลยสักคืน เดรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้เช่นนี้ปัญหายังไม่ทันได้คลี่คลายนายหญิงของนางคงล้มป่วยเข้าเสียก่อน
“แต่ถ้าหากว่าข้าไม่ไป ต่อให้คนของพรรคมังกรเหินบุกเข้าไปช่วยพวกนางจริงๆ พวกเด็กสาวเหล่านั้นก็คงไม่กล้าหนีออกมาด้วยกันหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ร่างกายของพวกนางถูกพิษสิบราตรีอยู่ด้วย หากว่าพวกนางอยากมีชีวิตรอดพวกนางก็คงไม่ยินยอมไปจากที่นั่นแน่ นอกเสียจากว่าข้าจะเดินทางไปด้วยตนเองและแสดงตราประจำตัวหัวหน้ามังกรเหินให้พวกนางเห็น พวกนางถึงจะยอมหนีออกมาจากถ้ำเสือบึงมังกรนั่น”
เชียนซานไม่พูดอะไรอีกเพราะนางรู้ดีว่าต่อให้นางอ้างเหตุผลขึ้นมาร้อยแปดพันข้อก็ไม่อาจเทียบกับเหตุผลเพียงข้อเดียวของชูเซี่ยได้อยู่แล้ว
อีกอย่างหากนายหญิงไม่ไปด้วยตนเองแล้วต่อให้พวกนางไปถล่มหอนางโลมเพื่อช่วยเหลือเด็กสาวพวกนั้นก็ไม่แน่ว่าพวกนางจะยินยอมตามพวกตนออกมาอยู่ดี
“นายหญิง หากว่าฝ่าบาททรงรู้ว่าท่านทุ่มเทและไม่ถนอมร่างกายตนเองเช่นนี้พระองค์จะต้องปวดพระทัยมาก” เชียนซานเอ่ยเสียงเบา ดวงตาของนางฉายชัดถึงความรักใคร่และทนุถนอมต่อนายหญิงของตน
นางเห็นมาตลอดว่านับตั้งแต่ที่ชูเซี่ยกลับมานางต้องพบเจอกับความลำบากมากเพียงใด เพื่อฝ่าบาทแล้วนายหญิงของนางทุ่มเททุกอย่างจนไม่คำนึงถึงร่างกายตนเองด้วยซ้ำ ตัวฝ่าบาทเองก็ไม่เคยปรารถนาให้นางทำเช่นนั้นแม้แต่น้อย พระองค์เพียงแค่หวังว่าชูเซี่ยจะไม่นำตนเองมาพัวพันเรื่องนี้เพราะเขาก็ไม่ต้องการเห็นนางต้องเหนื่อยล้าเพื่อเขา
“ไม่ต้องบอกเขาก็สิ้นเรื่อง จริงสิ เจ้าได้บอกเขาเรื่องที่พวกเราถูกขังอยู่ที่เขาเฟยหลงหรือไม่” หากว่าเชียนซานไม่ได้เอ่ยถึงหลี่เฉินเย่นขึ้นมานางก็คงลืมเขาไปเสียสนิท
“ข้าว่าเรื่องนี้อาจจะไปถึงพระองค์ตั้งแต่แรกแล้วเจ้าค่ะ ท่านคิดหรือว่าการที่ท่านเดินทางมาเมืองเก้อโจวพระองค์จะไม่แอบส่งคนมารอบติดตามท่าน เกรงว่าวันแรกที่ท่านถูกจับตัวไปพระองค์ก็คงรู้แล้ว”
ชูเซี่ยย่อมจะเดาได้อยู่แล้วว่าหลี่เฉินเย่นจะต้องแอบส่งคนมาคอยคุ้มครองนาง คนอย่างเขาเป็นพวกขี้ระแวงไม่ยอมวางใจง่ายๆถึงแม้ว่าข้างกายนางจะเต็มไปด้วยยอดฝีมืออยู่แล้วก็ตาม แต่หากว่าเขารู้เรื่องที่นางถูกจับไปขังที่เขาเฟยหลงแล้วล่ะก็...
“รีบส่งข่าวบอกเขาทันทีว่าตอนนี้พวกเราออกมาได้แล้ว เขาจะได้ไม่ต้องห่วง” ชูเซี่ยรีบออกคำสั่งอย่างร้อนรน ยามนี้นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดหากว่าเชียนรู้เรื่องที่นางถูกจับตัวไปขังที่เขาเฟยหลงจริงๆ เขาจะรู้สึกผิดและเป็นห่วงนางมากแค่ไหนนะ ป่านนี้เขาจะต้องลนลานและจิตตกมากเป็นแน่
แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดแล้วนางจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้นางต้องรีบแจ้งข่าวให้เขารู้ว่านางยังปลอดภัยดีให้เขารู้ให้ไวที่สุดเพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่นางจะสามารถทำให้เขาได้ในยามนี้
“นายหญิงไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าคนของฝ่าบาทที่แฝงตัวอยู่ข้างเราจะต้องนำข่าวส่งไปบอกพระองค์แล้วล่ะเจ้าค่ะ” ยามนี้ชูเซี่ยถูกความกังวลใจทำให้สับสนวุ่นวายไปหมด วุ่นวายเสียจนลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้นางเพิ่งจะพูดอะไรไปด้วยซ้ำ
“ข้าว่าข้าเขียนจดหมายให้เขาสักหน่อยดีกว่า ไม่เช่นนั้น...” เพียงแค่นึกถึงคนที่อยู่ในวังและกำลังร้อนใจเรื่องของนางจนนั่งไม่ติดบัลลังก์หัวใจของชูเซี่ยก็สงบลงและอุ่นวาบขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...