ตอนที่ 382 สายสัมพันธ์ที่แตกหัก
“ตอนนั้นไม่ใช่ว่าชูเซี่ยไม่ยอมถอนพิษให้เฉินอวี่จู๋เสียเมื่อไหร่ เป็นเจ้าเองที่...” นึกถึงสีหน้าของชูเซี่ยที่เต็มไปด้วยความผิดหวังเสียใจในวันนั้นแล้วต่อให้เป็นเพียงแค่การแสดงของเขาและนางก็เถิด หลี่เฉินเย่นก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารนางอยู่ดี
หากว่าตอนนั้นเฉินหยวนชิ่งไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นในงานเลี้ยง หากว่าเขาไม่ลงไม้ลงมือกับชูเซี่ย ชูเซี่ยก็คงไม่ออกจากวังไปเร็วถึงเพียงนั้น เฉินอวี่จู๋เองก็คงไม่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงมานานถึงเพียงนี้
“ถึงอย่างไรโหร่วยเฟยก็เป็นพระสนมของพระองค์ ยามนี้หญิงสาวที่รักพระองค์ถูกพิษนอนอยู่บนเตียงยังไม่ฟื้นคืนสติ ฝ่าบาทเองก็รู้อยู่แก่พระทัยว่าผู้ใดสามารถรักษานางได้แต่พระองค์ก็ไม่ยอมช่วยเหลือ ฝ่าบาทไม่ทรงรู้สึกผิดต่ออวี่จู๋บ้างเลยหรือพะย่ะค่ะ” เขารู้ดีว่าคืนนั้นตนเองอาจทำกับชูเซี่ยเกินไปอยู่บ้างแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นทุกอย่างก็ล้วนบ่งชี้ว่าเป็นฝีมือของชูเซี่ย ต่อให้ต่อมาจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ตามทีแต่เขาก็จงใจที่จะไม่เอ่ยถึงมันอีกและเลือกที่จะเอ่ยถึงความรู้สึกของเฉินอวี่จู๋ที่มีต่อหลี่เฉินเย่นเป็นข้ออ้างในการทำให้อีกฝ่ายจำยอมแทน
“แม่ทัพเฉินน่าจะรู้ดีว่านางอยู่ที่เก้อโจว เพียงระยะเวลาสั้นๆนางคงไม่อาจเดินทางกลับมาได้ในทันทีหรอกนะ” หลี่เฉินเย่นกล่าวพลางเอามือกุมหน้าอกของตนเองไว้ ภายในสาบเสื้อของเขามีจดหมายที่เขาเพิ่งได้รับจากหน่วยข่าวของเขามา จดหมายที่แจ้งว่าชูเซี่ยที่ถูกจับตัวไปยังเขาหลงซานถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว
ตอนที่หลี่เฉินเย่นได้รับจดหมายข่าวนั้นเขาเพิ่งแน่ใจกับตนเองตอนนั้นเองว่าชูเซี่ยโกหกเขาอีกแล้ว ตอนนั้นที่นางบอกเขาว่าจะไปยังเมืองเก้อโจวเพื่อจัดการเรื่องราวในพรรคมังกรเหินนิดหน่อย
ตอนนี้เมื่อดูไปดูมาเขาคาดว่าชูเซี่ยคงรู้ว่าปัญหาภายในพรรคมังกรเหินและหลี่อวิ่นลี่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแล้ว เป็นอีกครั้งที่นางเอาชีวิตของตนเองไปเสี่ยงโดยที่ตัวเขาไม่อาจไปช่วยเหลือนางได้อีกครั้ง
“หากพระองค์บอกให้นางกลับมามีหรือนางจะไม่กลับ แต่ไหนแต่ไรสุขภาพของโหรวเอ๋อก็ย่ำแย่อยู่แล้ว กระหม่อมเกรงว่าหากปล่อยให้นางล้มป่วยเช่นนี้ต่อไปนางจะ...” เฉินหยวนชิ่งกล่าวถึงตรงนี้ก็ไม่กล้าเอ่ยต่อไป เห็นสภาพของนางที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงทำให้เขานึกถึงภาพก่อนที่เฉินอวี่จู๋จะตายเมื่อครั้งก่อน ตอนนี้ในเมื่อรู้ว่ามีพิษในร่างกายนางสามารถถอนได้แล้วเหตุใดเขายังจะต้องรอต่อไปอีกเล่า
“ตอนนี้นางอยู่ที่เขาเฟยหลง เป้นตายร้ายดีอย่างไรยังไม่ทราบ” แม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่ายามนี้ชูเซี่ยถูกช่วยออกมาจากเขาเฟยหลงได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่คิดบอกความจริงกับเฉินหยวนชิ่งตอนนี้
“เขาเฟยหลง?” ใบหน้าของเฉินหยวนชิ่งเปลี่ยนสีแทบจะทันทีที่ได้ยินชื่อสถานที่ที่ชูเซี่ยอยู่ ณ ตอนนี้ ตัวเขาและหลี่อวิ่นลี่ก็มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่บ้าง จริงอยู่ที่เขาไม่รู้ว่าเฟยหลงเป็นสถานที่เช่นไรแต่ว่าเขาเฟยหลงมีความสำคัญต่อหลี่อวิ่นลี่มากเพียงใดข้อนี้เขาทราบดี
เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยกล่าวถึงพรรคมังกรเหินของชูเซี่ยกับหลี่อวิ่นลี่แต่อีกฝ่ายกลับบอกกับเขาว่าชูเซี่ยมีพรรคมังกรเหินตัวเขาเองก็มีเฟยหลงเช่นกัน
“ดังนั้นแล้วเรื่องนี้ข้าเองก็จนปัญญาเช่นกัน” น้ำเสียงของหลี่เฉินเย่นแหบพร่า ดวงตาฉายชัดถึงเจ็บปวดจนเฉินหยวนชิ่งไม่รู้จะทำเช่นไรต่อไปดี
เขาไม่อาจพูดคำพูดปลอบใจออกมาได้เพราะในใจลึกๆของเขาก็หวังว่าชูเซี่ยจะไม่อาจหนีออกมาจากเฟยหลงได้เช่นกัน มีเพียงวิธีนี้ที่จะทำให้หลี่เฉินเย่นตายใจและยอมให้โอกาสน้องสาวของเขาเสียที
“เช่นนั้นฝ่าบาทก็ทรงรับสั่งให้ท่านอานเหยียนมารักษาโหรวเอ๋อได้หรือไม่พะย่ะค่ะ” ในเมื่อไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไปเฉินหยวนชิ่งก็เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเลยจะดีกว่า
ใครจะเป็นใครจะตายล้วนไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเขา สิ่งที่เขาให้ความสนใจมีเพียงน้องสาวของเขาเท่านั้น
“เจ้ากับท่านอานเหยียนมีเรื่องผิดใจกัน เขาจะยอมช่วยเหลือเจ้าหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า ขึ้นอยู่กับเจ้าต่างหากเล่า” อานเหยียนเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของชูเซี่ย เขาติดตามและเรียนรู้วิชาการแพทย์ของชูเซี่ยมาตั้งแต่เด็ก นิสัยก็เปลี่ยนไปมากนัก ดังนั้นเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าอานเหยียนจะยอมรักษาโหร่วยเฟยหรือไม่และตัวเขาเองก็เป็นผู้อาวุโสจะให้ลดตัวลงไปปขอร้องเด็กได้อย่างไรกัน
“หากเป็นรับสั่งของฝ่าบาทเขาย่อมไม่อาจปฏิเสธได้” เฉินหยวนชิ่งนึกถึงอานเหยียนก็ปวดหัวขึ้นมา ชายหนุ่มยังจำสายตาของอานเหยียนในวันนั้นได้ดี แต่จะให้เขาไปหาท่านอานเหยียนและลงไม้ลงมือบังคับอีกฝ่ายก็เป็นไปไม่ได้
“แต่อานเหยียนเป็นเพียงเด็ก เจ้าจะให้เราไปบังคับให้เด็กทำในสิ่งที่ตัวเขาไม่อยากทำได้อย่างไรเล่า” ได้ยินคำพูดของเฉินหยวนชิ่งก็เกือบทำให้หลี่เฉินเย่นหลุดยิ้มออกมา โชคดีที่เขายังห้ามได้ทัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...