ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 389

ตอนที่ 389 ทำข้อตกลง

เด็กน้อยคนนั้นจ้องเขม็งไปที่หลิวเยนก่อนจะหันกลับมามองทางหลี่อวิ่นลี่แล้วจู่ๆก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาดังลั่นหลิวเยนที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกน้ำตาของนางก็ไหลลงมาอย่างปวดใจและวิ่งถลาเข้าไปหาลูก หญิงสาวกอดหนูน้อยไว้ในอ้อมกอดของตนเองแน่นโดยไม่สนว่าเด็กน้อยจะผลักไสนางแค่ไหน

เด็กน้อยในอ้อมแขนของนางก็เอาแต่ดิ้นร้นออกจากอ้อมกอดของนางส่วนหลิวเยนเองก็เริ่มปล่อยเสียงร้องไห้โฮเหมือนเด็กน้อยขึ้นมาด้วยอีกคน

“ตัวเขาสกปรกมากเลยให้ข้าได้อาบน้ำให้เขาด้วยเถิดเจ้าค่ะ ขอข้าได้นอนกับเขาสักคืนแล้วพรุ่งนี้ข้าจะไปตามหลี่ซี่ให้พวกท่าน เด็กคนนี้ไม่มีค่าอะไรในหัวใจของเขามากเท่ากับตัวของข้าเอง หากว่าข้าอยู่เขาจะต้องยอมเปลี่ยนมาอยู่ฝั่งเดียวกันกับท่านแน่นอนเจ้าค่ะ” แม้ดวงตาของหลิวเยนจะเอ่อคลอไปด้วยน้ำแต่สายตาของนางที่มองไปที่หลี่อวิ่นลี่กับมุ่งมั่นและหนักแน่น นางอยากให้หลี่อวิ่นลี่รู้ว่าที่นางกล่าวไปทั้งหมดคือคือความจริง มีเพียงนางผู้เดียวเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาบรรลุวัตถประสงค์นี้ได้

ในที่สุดหลี่อวิ่นลี่ก็ยอมพยักหน้า จริงอยู่ที่เสียงร้องไห้ของสองแม่ลูกจะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดรำคาญอยู่บ้างแต่ทว่าเมื่อมองดูสภาพตอนนี้ของหลิวเยนก็ทำให้หลี่อวิ่นลี่อดใจอ่อนไม่ได้

“จำคำพูดของเจ้าไว้ให้ดี วันพรุ่งนี้ก็อย่าได้เล่นลูกไม้อะไรก็แล้วกัน ขอเพียงแค่หลี่ซี่ว่าง่ายยอมเชื่อฟังคำสั่งของข้าพวกเจ้าก็จะยังได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา”

คำพูดของหลี่อวิ่นลี่ทำให้หัวใจของหลิวเยนรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา แม้ว่าในใจของนางจะรู้สึกรังเกียจหลี่อวิ่นลี่มากเพียงใดแต่ยามนี้ลูกน้อยของนางอยู่ในกำมือของเขาอีกทั้งตัวนางเองก็ปรารถนาที่จะได้ลูกน้อยกลับมาอยู่ข้างกาย แล้วถ้าถึงตอนนั้นหลี่ซี่ก็ได้กลับมาอยู่กับนาง เช่นนั้นครอบครัวของนางก็...

ทว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือหลิวเยนเองก็เริ่มไม่แน่ใจขึ้นมา หลังจากที่นางได้อยู่พร้อมหน้ากับลูกน้อยของนางแล้วนางกลับเพิ่งจะรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วความสุขของนางถ้าไม่มีหลี่ซี่อยู่ในนั้นก็ไม่อาจนับว่าสมบูรณ์ได้

หลิวเยนอุ้มเด็กเดินออกมาจากห้องโถงระหว่างทางก็มีคนเดินนำนางไปยังห้องรับรอง ตลอดทางนางเอาแต่โอบอุ้มลูกน้อยที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดเอาไว้ราวกับกำลังอุ้มสมบัติที่ลำค้าที่สุดในชีวิตของตนเอง เหล่าสาวใช้ก็เตรียมน้ำร้อนที่ใช้อาบและเสื้อผ้าชุดใหม่เอาไว้ให้นางแล้วหลิวเยนจึงค่อยๆปล่อยเด็กน้อยให้เป็นอิสระและค่อยๆถอดเสื้อผ้าเขาอย่างเบามือ

แต่ในทันทีที่นางถอดกางเกงให้เด็กน้อยนางก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป สีหน้าของหญิงสาวซีดเผือดไปหมดก็พยายามรวบรวมสติถอดเสื้อผ้าเด็กน้อยจนหมดแล้วอุ้มเขาไปที่อ่างไม้ นางล้างเนื้อล้างตัวให้เขาไปพลางร้องไห้ไปพลาง

เด็กน้อยที่อยู่ในอ่างไม้ก็เหมือนจะจับความรู้สึกเศร้าเสียใจของนางได้จึงเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดเช่นกัน

หลิวเยนอาบน้ำให้เด็กน้อยอย่างรวดเร็วก่อนจะอุ้มร่างของเขาขึ้นมาและใช้ผ้าสะอาดเช็ดจนแห้งจากนั้นก็อุ้มมาวางไว้บนเตียง ลูกน้อยของนางยังคงร้องไห้ไม่หยุด ร้องจนหัวใจของหลิวเยนกระวนกระวายไปหมด นางได้แต่โอบกอดเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งและร้องไห้อย่างสิ้นหวัง

คนที่อยู่ด้านนอกห้องต่างก็พากันคิดว่าที่นางร้องไห้เป็นเพราะดีใจที่ได้พบหน้าลูกอีกครั้งแต่ไม่มีใครรู้เลยว่ายามนี้ที่นางร่ำไห้เป็นเพราะหัวใจของนางกำลังสิ้นหวังและเจ็บปวดแสนสาหัสต่างหากเล่า

จนกระทั่งกลางดึกเสียงร้องไห้ที่ดังมาจากภายในห้องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด แม้เด็กน้อยคนนี้จะหลับไปแล้วแต่ก็ยังส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ ด้านหลิวเยนเองก็เอาแต่จ้องมองเด็กน้อยคนนี้แล้วร้องไห้ออกมา ดูเหมือนว่าผ่านมาหลายชั่วยามนับตั้งแต่พวกเขาได้พบหน้ากันก็ยังไม่มีทีท่าว่าคนใดคนหนึ่งจะหยุดร้องแต่อย่างใด

“แค่เห็นตัวปลอมเจ้ายังร้องไห้ถึงเพียงนี้แล้วถ้าหากว่าเจ้าเจอลูกแท้ๆไม่ร้องไห้จนเสียสติไปเลยหรือ” น้ำเสียงเย็นๆที่ดังขึ้นจากทางเข้าทำให้หลิวเยนถึงกับหยุดร้องไห้และหันมามองหญิงสาวในชุดดำที่ยืนยิ้มอยู่ต่างตื่นตะลึง

แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวอย่างปรานีตแต่ก็นับว่าเป็นหญิงงามผู้หนึ่งทีเดียวหลิวเยนเอาแต่จับจ้องไปที่นางไม่พูดไม่จา

แม้ว่าคำพูดของหญิงสาวผู้นี้จะไม่รื่นหูนักแต่ยามที่นางเอ่ยปากว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นตัวปลอมหลิวเยนก็รับรู้ได้ในทันทีว่าหญิงสาวคนนี้คงมาเพื่อช่วยนางแน่ ดวงตาของนางจึงเปล่งประกายคาดหวังออกมา

“เจ้านี่ก็โง่ดีนะ หลี่อวิ่นลี่ใช้ให้ทำอะไรก็ทำเสียหมด” หญิงสาวชุดดำกล่าวจบก็ถอนหายใจ ทั้งๆที่คำก่าวของนางดูเหมือนจะเป็นคำชมแต่สำหรับหลิวเยนแล้วมันเหมือนคำพูดประชดประชันนางมากกว่า

นางยิ้มให้หญิงสาวชุดดำอย่างขมขื่นก่อนกล่าวออกมาช้าๆ “วันหนึ่งหากว่าเจ้าได้เป็นแม่คน เจ้าก็จะได้รู้ว่ายามที่ลูกของตนเองตกอยู่ในอันตรายคนเป็นแม่ไม่มีทางที่จะไม่ยื่นมือมาช่วยเหลือ ต่อให้สิ่งที่ข้าทำลงไปจะดูเป็นเรื่องโง่แต่ข้าจะไม่มีวันนิ่งดูดายและปล่อยให้ลูกต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นอันขาด”

หญิงสาวชุดดำทำท่าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น “แต่เจ้าก็ยังไม่ได้พบลูกของตนเองอยู่ดี”

น้ำตาของหลิวเยนร่วงลงมาอีกครั้ง นางคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเด็กน้อยที่นางดั้นด้นตามหามาถึงที่นี่จะกลายเป็นตัวปลอมไปเสียได้

ลูกของนางมีปานอยู่ที่เอวแต่เด็กคนเมื่อครู่ที่นางถอดเสื้อผ้าช่วยเขาอาบน้ำไม่มี

นางเอาแต่คิดกังวลไปต่างๆนาๆว่าเหตุใดหลี่อวิ่นลี่จึงไม่ยอมให้นางพบกับลูก เป็นเพราะเขากำลังป่วยหรือเป็นเพราะว่าเขาไม่อยู่แล้ว...

นางไม่กล้าคิดต่อไปอีกแล้วแต่ในทันทีที่เด็กน้อยตัวปลอมคนนี้หลับไปหัวใจของนางก็เริ่มหวาดกลัวและคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่านางจะหาวิธีปลอบใจตนเองอย่างไรแต่ในหัวของนางก็อดคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกของนางไม่ได้อยู่ดี

“วันพรุ่งนี้ข้าจะต่อรองกับหลี่อวิ่นลี่ หากว่าเขาไม่ยอมให้ข้าพบกับลูกแท้ๆข้าก็จะไม่มีวันเกลี้ยกล่อมหลี่ซี่ให้เขาแน่” นี่เป็นความคิดที่หลิวเยนคิดเอาไว้แล้วแต่แรกและเป็นสิ่งเดียวที่นางสามารถทำได้เช่นกัน

“เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าสามารถชักจูงให้หลี่ซี่มาเข้าพวกกับหลี่อวิ่นลี่ได้” หญิงสาวชุดดำทำสีหน้าไม่เชื่อถือ จริงอยู่ที่ความสัมพันธ์ของหลี่ซี่และหลิวเยนไม่นับว่าแย่ แต่หลี่ซี่ผู้นั้นเพื่ออำนาจและอนาคตของตนเองก็ยอมส่งตัวลูกชายแท้ๆของตนเองมาไว้ในกำมือของหลี่อวิ่นลี่ไม่ใช่หรือไงกัน

“เขาเป็นสามีของข้าข้าย่อมเข้าใจนิสัยเขาดีที่สุด ยามนี้นอกจากที่เขาจะรักข้าในฐานะที่ข้าเป็นภรรยาแล้วเขาก็ยังรู้สึกผิดต่อข้ามากเช่นกัน”หลิวเยนกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ

“เช่นนั้นเจ้าก็คิดจะให้ชีวิตของเขาต่อจากนี้ต้องจบปลักอยู่กับคนอย่างหลี่อวิ่นลี่ร่วมก่อกบฏทำเรื่องชั่วช้าด้วยกัน ส่วนเจ้าและลูกก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นครอบครัวกบฏอย่างนั้นหรือ นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการจะให้เป็นงั้นหรือ”

คำพูดของหญิงสาวชุดดำทำให้หลิวเยนค่อยๆตาสว่างช้าๆ เรื่องเช่นนี้นางไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลย นางเพียงคิดจะช่วยเหลือลูกของนางเท่านั้น เรื่องในภายภาคหน้าจะเป็นเช่นไรนางไม่อยากจะคิดและไม่กล้าคิด

แต่หากว่าบทสรุปกลายเป็นอย่างที่หญิงสาวผู้นี้กล่าวมาเล่า นางจะทำเช่นไร

ตอนนี้นางไม่รู้จะทำต่อไปดีแล้ว หญิงสาวชุดดำผู้นี้กล่าวได้ถูกต้อง ดูท่าว่านางจะเผลอทำเรื่องที่โง่เขลาไปแล้วจริงๆ

“หากว่าพรุ่งนี้เจ้าได้เจอลูกแท้ๆของเจ้าแล้วอย่างไรเล่าหรือเจ้าคิดจะใช้พละกำลังอันน้อยนิดของเจ้าพาตัวเขาออกไปจากที่นี่ได้ ไม่น่าจะไหวนะ” หญิงสาวชุดดำกล่าวตรงๆไม่อ้อมค้อมและไม่คิดไว้หน้าแม้แต่น้อย

ท่ามกลางแสงเทียนที่ส่องสว่างอยู่ในห้องทำให้เห็นว่าใบหน้าของหลิวเยนยามนี้ซีดขาวเช่นไร ซีดอย่างกับกระดาษอย่างไรอย่างนั้น

หลิวเยนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี นางต้องการปกป้องลูกของตนเองและก็อยากปกป้องสามีที่ทำให้นางผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าคนนั้นเช่นกันแต่ความเป็นจริงแล้วนางไม่เพียงปกป้องพวกเขาไม่ได้ทั้งยังเป็นคนผลักพวกเขาไปเผชิญอันตรายมากกว่าเดิมเสียด้วย

“พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีหรือไม่” หญิงสาวชุดดำเห็นท่าทางจิตตกของหลิวเยนก็อดไม่ได้ที่จะยื่นโอกาสให้แก่นาง

หลิวเยนจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน นางรู้ดีว่าหญิงสาวคนนี้มาเพื่อช่วยเหลือนาง

“ข้าเป็นคนของพรรคมังกรเหินมีนามว่าว่านเหลียง ข้าเป็นสาวใช้คนสนิทข้างกายของหัวหน้าพรรคชูเซี่ย เรื่องระหว่างเจ้าและใต้เท้าหลี่นั้นข้ารู้หมดแล้ว ข้าเพียงแค่เห็นเจ้าเป็นเพียงหญิงสาวตัวคนเดียวแต่กลับยอมมาเข้าถ้ำเสือจึงได้มาแอบพบเจ้าโดยพลการหวังจะช่วยเหลือเจ้าได้บ้าง” แล้วทันใดนั้นในหัวของนางก็ได้ยินเสียงของอ๋องเก้าที่น่าชังผู้นั้นดังก้องอยู่ในหัว เขากล่าวกับนางว่ามันหวนาที่แบกอยู่บนหลังตนเองก็มากพออยู่แล้วยังจะเอามันของผู้อื่นมาแบกเพิ่มอีก

“ข้า...”หลิวเยนอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกแต่ก็มีท่าทีสงบลงมาก เรื่องของพรรคมังกรเหินนางก็พอได้ยินมาบ้างและนางก็รู้ว่าชูเซี่ยเป็นสตรีที่ครองพระทัยของฝ่าบาท นั่นแสดงว่าพวกเขาย่อมยืนคนละข้างกับหลี่อวิ่นลี่อย่างไม่ต้องสงสัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า