ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 391

ตอนที่ 391 ชูเซี่ยต้องตาย

หลังจากองครักษ์และผู้มีหน้าที่ดูแลเด็กถูกลากออกจากห้องโถงไปบรรยากาศเย็นยะเยือกก็ยังคงลอยอบอวลไม่จางหายไปไหน ใบหน้าหล่อเหลาของหลี่อวิ่นลี่ยังคงเย็นชาจนไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้

“พวกเขาต่างก็เป็นผู้บริสุทธิ์เหตุใดเจ้าจึงต้องระบายอารมณ์กับพวกเขาด้วยเล่า” น้ำเสียงเอือมระอาของอ๋องเก้าดังขึ้นมาจากบริเวณทางเข้าโถงหลัก หลี่อวิ่นลี่หันกลับไปมองทางประตูและยิ้มเย้ยหยันออกมา “หากเสด็จลุงเก้าจะมาที่นี่เพื่อพูดจาไร้สาระก็กลับไปก่อนเถิด”

“ปล่อยพวกเขาไปเถิด พวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะละเมิดคำสั่งของเจ้าเสียหน่อย” อ๋องเก้าไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายทั้งยังเอ่ยขอร้องแทนกลุ่มคนที่เพิ่งถูกลากออกไป

“ถ้าหากว่าข้าปฎิเสธเล่า แค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำไม่ได้จะให้ข้าปล่อยพวกมันไว้อีกทำไมกัน พวกมัน...” หลี่อวิ่นลี่ยิ่งคิดยิ่งคับแค้นใจจนใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเล็กน้อย

“อวิ่นลี่ พวกเราสายเลือดเดียวกัน ข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า” อ๋องเก้ากล่าวกับหลี่อวิ่นลี่เสียงอ่อน แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ายามนี้หลี่อวิ่นลี่เองก็ไม่สนใจเรื่องสายเลือดระหว่างพวกเขาอีกแล้วก็ตาม

“หากว่าวันหนึ่งข้าถูกหลี่เฉินเย่นจับกุมได้ ไม่ทราบว่าเสด็จลุงเก้าจะช่วยขอความเมตตาให้ข้าหรือไม่” หลี่อวิ่นลี่เอ่ยน้ำเสียงเนิบนาบ

“ไม่” อ๋องเก้าเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว คำพูดที่ตรงไปตรงมานั่นทำเอาหลี่อวิ่นลี่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมกว่าเดิมหลายส่วน “ข้าก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหัวใจท่านย่อมอยู่ฝั่งเดียวกันกับหลี่เฉินเย่นอยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาท่านก็เคยยืนอยู่ฝั่งข้าด้วยซ้ำ หลี่เฉินเย่นมีอะไรดีนักหรือ ก็แค่สวะคนหนึ่งเท่านั้น!”

“พวกเราก็เหมือนตั๊กแตนที่อยู่ฝูงเดียวกันหากว่าเจ้าโดนจับคิดหรือว่าข้าจะรอด แล้วข้ายังจะไปมีโอกาสร้องขอความเมตตาให้เจ้าได้อย่างไร”

ถึงอย่างไรเขาและหลี่อวิ่นลี่ก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว หากว่าหลี่เฉินเย่นจับหลี่อวิ่นลี่ก็ต้องจับเขาด้วยเช่นกัน ขอเพียงเขารวมตัวเองเป็นพวกเดียวกันกับหลี่อวิ่นลี่ ความเดือดดาลของเขาก็จะสงบลง

คำพูดของอ๋องเก้าสามารถทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของหลี่อวิ่นลี่คลายลงอย่างประหลาด เขาหันมายิ้มน้อยๆให้เสด็จลุงเก้า “เสด็จลุงพูดได้ถูกแล้ว พวกเราต่างก็กลายเป็นตั๊กแตนฝูงเดียวกัน ท่านเองก็ร่วมหลับนอนกับสาวใช้คนสนิทของชูเซี่ยแล้วก็คงไม่อาจกลับไปหาชูเซี่ยได้อย่างสนิทใจเช่นเมื่อก่อนได้อีกแล้วล่ะ”

หลี่อวิ่นลี่กล่าวยิ้มๆขณะทอดมองใบหน้าตื่นตะลึงของอ๋องเก้า “เจ้าว่าอะไรนะ หญิงสาวที่อยู่ในห้องของข้านางเป็นคนของชูเซี่ยงั้นหรือ เจ้า...”

หลี่อวิ่นลี่พออกพอใจกับสีหน้าของอ๋องเก้าในเวลานี้มาก เขาค่อยๆพยักหน้าช้าก่อนเอ่ย “จนถึงตอนนี้เสด็จลุงเก้าก็ยังคงคิดถึงแต่ชูเซี่ย ข้าเองก็อยากหาหนทางบรรเทาทุกข์ให้แก่ท่านบ้างจึงคิดจะหาสาวงามสักนางไว้คอยปรนนิบัตท่านแต่นึกไม่ถึงจริงๆว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นสาวใช้ข้างตัวของชูเซี่ย ตอนแรกข้าก็คิดจะสังหารนางอยู่หรอกนะแต่คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าไม่เลว หากมีนางท่านก็ไม่อาจจะกลับไปข้องเกี่ยวกับชูเซี่ยได้อีก ท่านจะได้ตายใจแล้วกลับมาอยู่ข้างกายข้าอย่างเต็มใจเสียที”

อ๋องเก้าแสร้งมองหน้าหลี่อวิ่นลี่อย่างเจ็บปวดก่อนถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ผู้หญิงคนนั้น คือคนที่อยู่ในห้องหวงห้ามวันนั้นหรือ ที่เจ้าสงสัยว่าข้าจะปล่อยนางหนีไปใช่หรือไม่ ยามนี้ข้ารู้สึกผิดเหลือเกินที่ไม่ยอมปล่อยให้นางหนีไปจริงๆ ไม่เช่นนั้นข้าก็ยังสามารถเผชิญหน้ากับชูเซี่ยได้อีกครั้ง ตอนนี้ทุกอย่างกลับกลายเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะกล้าแบกหน้าไปพบชูเซี่ยอีกครั้งได้อย่างไร”

หลี่อวิ่นลี่พออกพอใจกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของอ๋องเก้าอย่างยิ่ง ดูอย่างไรก็ไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำ “หากท่านลุงเก้ารู้ว่านางเป็นคนของชูเซี่ยวันนั้นต่อให้ท่านเห็นว่านางพิษกำเริบก็คงไม่คิดจะช่วยหรอก นิสัยของท่านข้ารู้ดียิ่งกว่าใคร ทั้งอ่อนโยนและขี้สงสาร ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเพราะเหตุใดในสมัยอดีตฮ่องเต้ท่านถึงรอดมาได้ทั้งๆที่ท่านอ่อนแอถึงเพียงนี้”

ใบหน้าหลี่อวิ่นลี่ดูมีความสุขอย่างมาก เขาย่างกรายเข้าไปใกล้อ๋องเก้าก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “หากว่าเสด็จลุงไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น ถ้าอย่างนั้นหลังจากที่ข้าทำการใหญ่สำเร็จแล้วข้าจะหาอีกคนมาเปลี่ยนให้ท่านดีหรือไม่ เอาคนที่สวยกว่าฉลาดกว่าชูเซี่ย ดีหรือไม่”

หลี่อวิ่นลี่พูดเองเออเองในขณะที่อ๋องเก้าเอาแต่นิ่งเงียบเหมือนกับยังไม่หายตื่นตกใจเรื่องที่ว่านเหลียงเป็นสาวใช้ข้างกายของชูเซี่ย

“เสด็จลุงเก้า เรื่องนี้ข้าผิดไปแล้ว ข้าเพียงแค่เห็นว่าท่านครองตัวอยู่เป็นโสดนานเกินไปจึงคิดจะหาหญิงสาวสักคนมาปรนนิบัตท่าน หญิงสาวคนนั้นรูปโฉมไม่เลว หากว่าไม่มอบให้แก่ท่านข้าก็คงเลือกเก็บไว้เองแล้ว” หลี่อวิ่นลี่กล่าวอย่างสาแก่ใจ สีหน้าดูมีความสุขจนทุกคนต่างก็ดูออกเพราะยามนี้เขากำลังมีความสุขอย่างมากที่สามารถสร้างความร้าวฉานระหว่างเสด็จลุงและชูเซี่ยได้ในที่สุด

“ในเมื่อเรื่องมาถึงตอนนี้แล้วก็ช่างมันเถิด เจ้าก็วางแผนการของเจ้าให้ดีๆก็แล้วกันข้าเองก็ยังไม่อยากตายตอนนี้หรอกนะ” อ๋องเก้าไม่อยากฟังคำพูดพล่ามของหลี่อวิ่นลี่อีกจึงตัดสินใจกล่าวตัดบทและหันหลังเดินจากไป

“เสด็จลุงไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีวันปล่อยให้หลี่เฉินเย่นจับกุมพวกเราได้หรอก ถึงอย่างไรอีกไม่กี่วันชูเซี่ยก็คงตายแล้ว เมื่อไม่มีพรรคมังกรเหินคอยหนุนหลังก็ไม่อาจชนะเราได้” หลี่อวิ่นลี่กล่าวอย่างยินดีปรีดา

“เจ้าคิดจะจัดการชูเซี่ย?” อ๋องเก้าหันกลับมาจ้องหลี่อวิ่นลี่เขม็ง

“เสด็จลุงเก้าจะช่วยร้องขอชีวิตแทนนางงั้นหรือ นางเป็นตัวขัดขวางแผนการของข้ามาตลอด แผนการที่หลางฟงติ่งของข้าก็ถูกนางทำเสีย ข้ามีเหตุผลอะไรที่ต้องปล่อยนางมีชีวิตอยู่ด้วยเล่า” หลี่อวิ่นลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมาเหมือนว่าสิ่งที่ชูเซี่ยทำกับเขาเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์จริงๆ

“เจ้าคิดจะทำอะไรกับนาง” อ๋องเก้าจ้องมองหลี่อวิ่นลี่อย่างค้นหา

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้าเสด็จลุงอย่ายุ่งเลย ท่านเพียงเตรียมสุราไว้เฉลิมฉลองชัยชนะให้ข้าก็พอ”

“เหตุใดจึงบอกข้าไม่ได้ ในเมื่อข้าเป็นลุงของเจ้า พวกเราเป็นสายเลือดเดียวกัน” เป็นไปตามที่เขาคาด หลี่อวิ่นลี่ย่อมไม่มีทางบอกแผนของตนเองให้เขารู้แน่ ดังนั้นอ๋องเก้าจึงแสร้งเอ่ยตัดพ้อออกมา

แม้จะพอรู้อยู่บ้างว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้แต่ว่าความรู้สึกที่ไม่อาจช่วยเหลือชูเซี่ยได้ ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เขาละอายใจยิ่งนัก

“เสด็จลุง รอให้ชูเซี่ยตายแล้วต่อจากนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรข้าก็ล้วนแต่บอกท่าน ถึงตอนนั้นพวกเราจะร่วมมือกันเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ของหลี่เฉินเย่นมาเป็นของเราเพราะอย่างไรบัลลังก์มันก็สมควรเป็นของเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” หลี่อวิ่นลี่กล่าวพร้อมกับเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของอ๋องเก้า แต่ทว่าคำพูดเช่นนี้อ๋องเก้าไม่ปรานรถนาจะฟังแม้แต่น้อย

อ๋องเก้าเดินจากไปแล้วเหลือทิ้งไว้หลี่อวิ่นลี่ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังยืนคับแค้นใจอยู่ที่เดิม “ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่เคยลืมชูเซี่ย นางสำคัญถึงเพียงนี้เชียวหรือ เมื่อก่อนข้ายังไม่เห็นว่าท่านจะรักนางถึงเพียงนี้เลยนี่ ผ่านมาหลายปีจึงเพิ่งจะมารู้จักรักหยกถนอมบุบผาหรืออย่างไร”

“ในเมื่อท่านคิดจะรักหยกถนอมบุบผาเช่นนั้นข้าก็จะช่วยส่งเสริมท่าน ข้าจะเหลือศพของนางไว้ให้ท่านตั้งป้ายวิญญาณไว้กราบไหว้ก็แล้วกัน!”

หลังจากสิ้นคำพูดเหี้ยมโหดนั้นแล้วหลี่อวิ่นลี่ก็เดินออกจากประตูไป นึกไม่ถึงว่าข้างนอกจะยังมีร่างของหลิวเยนที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่

หญิงสาวไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในห้องโถงกันแน่แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังร้อนใจอยากพบหน้าลูกอยู่ดี

“ข้าจะได้เจอกับลูกเมื่อไหร่เจ้าคะ”หลิวเยนเห็นหลี่อวิ่นลี่เดินออกมาก็ถามขึ้นอย่างร้อนใจ

“หากว่าข้าไม่ให้จบพบกับลูกเจ้าก็ไม่คิดจะเชื่อฟังคำสั่งของข้าสินะ” ดวงตาของหลี่อวิ่นลี่เปล่งประกายอำมหิต

“ใช่”หลิวเยนเองก็ตอบรวดเร็วทันควัน

“หากว่าเจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าข้าก็จะฆ่าเจ้าเสีย เจ้ายังยินดีจะช่วยข้าหรือไม่” หลี่อวิ่นลี่จ้องมองหลิวเยนและรอคอยคำตอบอย่างใจเย็น แม้จะฟังดูเป็นคำพูดที่ธรรมดาแต่สายตาของเขาบ่งบอกชัดถึงความหมายของมันอยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า