ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 404

สรุปบท ตอนที่404หลิงกุ้ยท่ายเฟยหายตัวไป: ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอนที่404หลิงกุ้ยท่ายเฟยหายตัวไป – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอนนี้ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่404หลิงกุ้ยท่ายเฟยหายตัวไป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่404หลิงกุ้ยท่ายเฟยหายตัวไป

ในขณะที่ชูเซี่ยกำลังพูดนั้นสายตามองออกไปนอกหน้าต่างเธอไม่รู้หรอกว่าตอนที่ตนกำลังพูดอยู่นั้นสีหน้าอ่อนโยนแค่ไหนใบหน้ามีชีวิตชีวาเพียงใดซูเหย่นมองหล่อนจนชะงักไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเขาได้สติอีกครั้งก็เข้าใจในทันใดว่าทำไมฝ่าบาทถึงหยั่งรากลึกในความรักของผู้หญิงคนนี้

ในใจของทุกคนนั้นฝ่าบาทเป็นกษัตริย์เป็นเทพที่สูงส่งมีแต่ชูเซี่ยเท่านั้นที่คิดว่าเขาเป็นเพียงสวามีของตนเขาไม่ได้แข็งแกร่งเกรียงไกรขนาดนั้นเขาก็ต้องกันคนปกป้องเหมือนกัน

“กองทัพเก้อโจวก็คือบ้านของข้าที่นั่นมีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขของข้าข้าต้องสู้เพื่อพวกเขา”ซูเหย่นเรียนแบบท่าทีของชูเซี่ยและพูดอย่างสงบแต่ในขณะที่พูดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความฮึกเหิมในใจลึกๆ

ชูเซี่ยมองดูซูเหย่นแล้วโน้มตัวลงหยิบเข็มทองขึ้นอีกครั้งปักไปที่จุดสำคัญบนแขนของซูเหย่น

ความเจ็บปวดก่อนหน้านี้หายไปในพริบตาเหลือเพียงความชาในแผล

“ข้าช่วยหยุดเลือดได้เพียงสามชั่วยามหลังจากนั้นต้องรีบรักษาทันทีไม่เช่นนั้นแขนของเจ้าจะใช้การไม่ได้ต่อไปจริงๆ”เมื่อได้ยินซูเหย่นบอกว่ากองทัพเก้อโจวก็คือบ้านของเขานั้นชูเซี่ยรู้สึกซาบซึ้งใจและพลันเข้าใจแล้วว่าก็เหมือนตนที่ไม่มีใครสามารถห้ามได้ยังไงซูเหย่นก็ต้องเข้าสนามรบอย่างแน่นอน

ดังนั้นหล่อนใช้เทคนิคเข็มทองหยุดเลือดของเขาเพื่อชะลอเวลาการรักษาของเขาให้ช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“ขอบใจหากกองทัพเก้อโจวสามารถรอดพ้นจากความหายนะในครั้งนี้ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้า”ซูเหย่นคิดไม่ถึงว่าชูเซี่ยจะเซอร์ไพร์สตนอย่างนี้เขาดีใจจนลืมสถานะของตนไปในใจคิดกับเธอเพียงแค่สหายที่จะสามารถดื่มฉลองด้วยกัน

แต่เพิ่งพูดจบซูเหย่นพลันชะงักเขามองชูเซี่ยอย่างเคอะเขินพลันกล้มหน้าและพูดขึ้นว่า“ข้าดีใจเกินไปดังนั้น......”

“อื้มข้าหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ดื่มกับแม่ทัพซู”คำพูดของชูเซี่ยยังคงความนุ่มนวลแต่ก็ช่วยสลายความเคอะเขินของชูเซี่ยไปมากซูเหย่นเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นเต้นแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ตอนนี้เขาไม่กล้าพูดอะไรแล้วยิ่งพูดมากยิ่งผิดมากแม้ในใจลึกๆของเขาได้ยอมรับชูเซี่ยแล้ว

ใช่แล้วยอมรับระหว่างคนก็ประหลาดอย่างนี้แหละเพราะคำพูดไม่กี่คำเรื่องราวสองเรื่องศัตรูที่ไม่อยากอยู่ร่วมโลกเดียวกันก็กลายเป็นเพื่อนกันได้

“ฝ่าบาททรงมีภรรยาอย่างเจ้าเป็นบุญจริงๆเลย”เนื่องจากซูเหย่นไม่กล้าพูดต่อบรรยากาศในรถม้าเคอะเขินอย่างยิ่ง

ซูเหย่นมองดูชูเซี่ยแม้ไม่มีอะไรจะพูดก็พยายามหาประเด็นคุยกันในที่สุดก็ได้รับสายตาเหยียดหยามจากว่านสู่นผู้ซึ่งนั่งข้างชูเซี่ยหล่อนมองซูเหย่นอย่างรังเกียจหนึ่งทีพลันพูดขึ้นว่า“แต่ไม่นานมานี้เจ้ายังรู้สึกอยู่ว่าท่านนายหญิงของพวกข้าเป็นผู้หญิงกาลกิณีทำสเน่ห์ใส่ฝ่าบาทชมควรถูกประหาร”

“ว่านสู่นก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าเจ้าคุยเล่นไม่เป็นแบบนี้”เดิมทีสถานการณ์ไม่ดีนักชูเซี่ยก็พลันรู้สึกกังวลดังนั้นเมื่อครู่เธอได้พยายามหาข้อหัวสบายๆมาคุยกันเพื่อสลายความเคอะเขินและปรับเปลี่ยนความสนใจของตนแต่คิดไม่ถึงว่าหัวข้อคุยเล่นที่ดีขนาดนี้กลับถูกตัดบทด้วยประโยคเดียวของว่านสู่น

“ท่านนายหญิงข้าเพียงแต่รู้สึกโมโหเท่านั้นพวกเขารังแกคนอื่นเกินไป”ว่านสู่นรีบอธิบายกับชูเซี่ยหล่อนเองก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันทำไมเมื่อเห็นคนตรงหน้าก็รู้สึกโมโหโดยเฉพาะความซื่อตรงที่ปรากฏบนใบหน้าของเขานั้นทำให้หล่อนรู้สึกว่าเขากำลังเสแสร้งจึงอดไม่ได้ที่อยากจะฉีกหน้ากากของเขาออก

“เขาก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกันเจ้าอย่ายกตนข่มท่านอย่างนี้”ชูเซี่ยถลึงตาอย่างโมโหใส่ว่านสู่นหนึ่งทีจากนั้นยิ้มพลันพูดกับซูเหย่นว่า“หลังจากที่เขารู้จักกับข้าแล้วก็ได้กลายเป็นคนที่ไม่มีบุญวาสนาที่สุดในโลกใบนี้”

คำพูดของชูเซี่ยมาพร้อมการถอนหายใจเบาๆแต่ก็พูดออกมาจากใจซูเหย่นมองดูความเศร้าจางๆบนใบหน้าของชูเซี่ยรู้สึกอยากปลอบใจแต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี

หล่อนยิ้มให้ซูเหย่นอย่างเคอะเขินและพูดขึ้นว่า“วันนี้มีเรื่องมากเกินไปข้าค่อนข้างเบลอค่อนข้าง......ทำให้เจ้ารู้สึกขบขันแล้วล่ะ”

ซูเหย่นเห็นแววตาของชูเซี่ยกลับไปสดใสเหมือนเดิมความกังวลในใจก็ได้สลายลงเขาลุกขึ้นเตรียมลาว่านสู่นโบกมือกับเขาด้วยท่าทีรำคาญเต็มทนเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารีบๆออกไปสำหรับว่านสู่นแล้วซูเหย่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชูเซี่ยหดหู่

“ท่านนายหญิงมีอีกเรื่องที่ข้าน้อยลืมทูลท่าน”ซูเหย่นเพิ่งจะออกไปเสียงของหลี่ฉางอันก็ดังมาจากนอกหน้าต่าง

“ฝ่าบาททรงฝากข้ามาทูลท่านหนึ่งวันก่อนที่ข้าจะมาหลิงกุ้ยท่ายเฟยได้พาลูกออกไปจากพระราชวังแล้ว”

“ข้ารู้แล้ว”ชูเซี่ยตอบด้วยเสียงเบาจากนั้นก็คิดถึงเรื่องตนเองต่อแต่ว่านสู่นกลับมองเธออย่างไม่เข้าใจและถามขึ้นว่า“ออกไปในตอนที่มีทหารอารักขาของพรรคมังกรเหินเราเยอะแยะมากมายขนาดนี้หลิงกุ้ยท่ายเฟยไม่ธรรมดาจริงๆ”

“เป็นสิ่งที่ตามความคาดหมายอยู่แล้วแต่สงสารเด็กคนนั้น”คำพูดของชูเซี่ยมาพร้อมความเสียดายจางๆว่านสู่นมองชูเซี่ยอย่างไม่เข้าใจนักชูเซี่ยมองดูว่านสู่นและพูดขึ้นว่า“การรักษาเด็กคนนั้นอยู่ในช่วงสำคัญพอดีหากขาดการรักษากลางคันอย่างนี้การรักษาก็จะเสียเปล่า”

“เหลียงกวางเสียงนี่มันบาปกรรมจริงๆเลยอยากทำลายกองทัพเก้อโจวก็ไม่ว่าอะไรแต่ทำไมกระทั่งลูกตนเองก็......”

“สายลับทางเหลียงกวางเสียงนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้ามาโดยตลอดทำไมข่าวมาส่งช้าอย่างนี้ล่ะ”ชั่วขณะที่รู้ว่าถูกเหลียงกวางเสียงหักหลังชูเซี่ยก็รู้แล้วว่าหลิงกุ้ยท่ายเฟยไม่อยู่ในวังต่ออย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับข่าวของหลิงกุ้ยท่ายเฟยแล้วเธอข้องใจกับสายลับข้างกายเหลียงกวางเสียงมากกว่าก่อนหน้านี้ว่านสู่นก็ได้ติดต่อไปแล้วแต่เรื่องถึงสุดขีดแล้วจึงจะส่งข่าวมา

พูดถึงสายลับที่มาส่งข่าวอย่างกะทันหันใบหน้าของว่านสู่นเต็มไปด้วยความลำบากใจเธอลังเลอยู่พักหนึ่งจึงพูดขึ้นว่า“ท่านนายหญิงสายลับครั้งนี้ไม่ใช่คนเดิม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า