ตอน ตอนที่406แม้จะชนะก็โศ้กเศร้าไม่แพ้กัน จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่406แม้จะชนะก็โศ้กเศร้าไม่แพ้กัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่406แม้จะชนะก็โศ้กเศร้าไม่แพ้กัน
นี่เป็นการประชันกันระหว่างเลือดเนื้อและมีดปืน
นี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินหน้าสู้อย่างเดียว
นี่เป็นสงครามที่ไม่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์แต่สลักในใจไม่มีวันลืม
ก่อนทำสงครามทหารเก้อโจวถูกสั่งให้วางอาวุธลงสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือการรอให้ถูกสังหาร
บางทีพวกเขาก็เคยคิดจะต่อต้านแต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถชนะความรักชาติเข้ากระดูกของตนได้
โชคดีที่ชูเซี่ยมาพอดีทำให้คนกลุ่มนี้ที่พร้อมจะสละชีวิตเพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของทหารเก้อโจวเหล่านี้ต้องตายด้วยการถูกกล่าวหาโชคดีที่ชูเซี่ยมาทันพวกเขาได้หยิบอาวุธออกมาอีกครั้งเล็งไปตรงอกของผู้ใช้เล่ห์ร้ายอย่างลับๆ
คนหนึ่งคนของพรรคมังกรเหินสู้กับสิบคนคนของกองทัพเก้อโจวเปลี่ยนความเศร้าและความโกรธแค้นเป็นพลังทั้งสองกองทัพรุกไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
คนของหลี่อวิ๋นลี่ถึงแม้อาวุธครบครันแต่ก็ไม่เคยเตรียมพร้อมในการทำสงครามเลยดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับคนของพรรคมังกรเหินที่รุกมาอย่างกะทันหันพวกเขาทำอะไรไม่ถูกและพ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว
แต่ยังไงเสียพวกเขาก็มีกว่าสี่หมื่นคนพวกเขาสู้กันจนดึกคนของพรรคมังกรเหินและคนของกองทัพเก้อโจวได้ล้อมพวกเขาไว้
มองดูเหล่าทหารกระหายเลือดตรงหน้าในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวในที่สุดก็มีคนยกอาวุธในมือขึ้นและทำท่ายอมแพ้
คนอื่นๆก็ไม่อยากอยู่ในสภาพจนตรอกต่างพากันยกปืนยาวในมือขึ้นอย่างว่าง่าย
คำสั่งของชูเซี่ยเหมือนมีดที่ยังคงปักอยู่กลางอกของพวกเขา:ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว
แต่ว่าตอนนี้พวกเขาต่างยอมแพ้แล้วพวกเขาจำเป็นต้องฆ่าให้หมดจริงๆรึ
ทหารเก้อโจวอย่างซูเหย่นและเกาเต๋อกวางเป็นต้นแม้ได้ระบายความโกรธในระหว่างการต่อสู้แล้วแต่เมื่อนึกถึงภาพที่พวกเขาเข่นฆ่าสหายผู้ไม่มีอาวุธติดมือของตนในตอนที่มาถึงแล้วแววตาของพวกเขายังคงแดงก่ำ
แม่ทัพของพรรคมังกรเหินต้องการไปปรึกษากับชูเซี่ยแต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขาเพิ่งออกมาเกาเต๋อกวางก็ได้ยกดาบในมือขึ้นเขาตะโกนเสียงดังว่า“เมื่อสักครู่พวกเขาก็ได้ฆ่าสหายของพวกเราอย่างนี้สหายของพวกเราตายไปแล้วข้าจะแก้แค้นพวกมัน”
ในสนามรบนั้นไม่สมารถทำอะไรกับคนที่วางอาวุธลงแล้วแต่ว่าตอนนี้เพียงแค่นึงถึงภาพนั้นเขาก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้สำหรับคนเหล่านี้ที่ต้องการฆ่าพวกเขาแล้วมาแทนที่พวกเขานั้นเขาไม่สามารถใจกว้างกับคนเหล่านั้นได้เขาเพียงต้องการฆ่าพวกเขาเท่านั้น
เกาเต๋อกวางพาเหล่าทหารของตนมั่งไปยังคนที่ยอมแพ้คนของพรรคมังกรเหินนั้นแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร
เพราะกฎทั้งหมดถูกกำหนดโดยผู้ชนะตอนนี้พวกเขากำลังได้เปรียบจึงสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ
เมื่อรถม้าของชูเซี่ยมาถึงเกาเต๋อกวางพวกเขากำลังสู้อย่างดุเดือดเมื่อทุกคนเห็นรถม้าต่างหยุดการเคลื่อนไหวและมองไปทางชูเซี่ย
คนฉลาดในหมู่พวกเขารู้ความจริงโดยรวมของเรื่องนี้แล้วมีบางคนที่ยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
และมีคนอีกจำนวนมากที่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีคนส่งพระราชโองการผิดๆมาบอกว่าทหารเก้อโจวอย่างพวกเขาฆ่าชูเซี่ยฝ่าบาททรงต้องการให้ทหารเก้อโจวทั้งกองทัพฝังไปกับชูเซี่ย
แต่ชูเซี่ยมาถึงอย่างกะทันหันทำให้ความผิดของพวกเขาเป็นโมฆะการมาถึงของชูเซี่ยทำให้พวกเขารู้ว่ามีคนต้องการกำจัดกองทัพเก้อโจวของพวกเขาให้สิ้นซาก
ดังนั้นตอนนี้พวกเขาไม่ยอมรับไม่ได้ว่าชูเซี่ยเป็นคนช่วยชีวิตพวกเขา
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยคั่งแค้นศัตรูเดียวกันอยากจะฆ่าหล่อนผู้เป็นกาลกิณีของประเทศชาติ
ทุกคนเพิ่งจะได้สติสิ่งที่พวกเขาควรทำที่สุดในตอนนี้ก็คือไม่ควรนั่งโศ้กเศร้าเสียใจตรงนี้ควรจะคุกเข่าขอบคุณบุญคุณในการช่วยชีวิตครั้งนี้ต่างหาก
“ซูเหย่นไปหาแพทย์ทหารต่อกระดูกของเจ้าหากช้ากว่านี้จะไม่ทันกาลได้นะ”ตอนนี้ชูเซี่ยแม้แต่แรงที่จะลุกยืนก็ไม่มีแล้วเธอพูดกับซูเหย่นด้วยเสียงเบา
ซูเหย่นมองไปทางชูเซี่ยในตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและตื้นตันเขาอ้าปาหลายครั้งแต่ก็พูดอะไรไม่ออก
ในตอนนี้สิ่งที่เขาอยากพูดมากที่สุดก็คือให้ชูเซี่ยกลับไปทุกอย่างได้บทสรุปแล้วอาการของชูเซี่ยหนักกว่าของตนเธอต้องการการรักษาและพักผ่อนมากกว่าเสียอีก
แต่เมื่อนึกถึงคำที่เธอพูดอย่างนิ่งๆระหว่างทางเธอบอกว่าทุกอย่างที่ทำไปเพราะทำเพื่อสามีและลูกซูเหย่นก็รู้ดีว่าการกล่อมเกลาของตนไม่น่าจะมีผลอะไรเธออาจยืนหยัดที่จะทำสิ่งที่ตนอยากทำเพื่อสามีของเธอลูกของเธอ
“เจ้ายังไม่ลุกอีกจะระให้ท่านนายหญิงของพวกข้าไปพยุงเจ้ารึเสียใจด้วยล่ะตอนนี้ท่านเจ้าสำของพวกข้าไม่มีแรงไปพยุงเจ้า”ว่านสู่นที่ยืนอยู่ข้างชูเซี่ยไม่ห่างเห็นซูเหย่นคุกเข่าอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีท่าทีที่จะลุกในใจพลันเต็มไปด้วยโทสะ
“คุณผู้หญิงท่านนี้ขอบคุณการช่วยชีวิตของเจ้าเมื่อสักครู่นี้”ซูเหย่นเงยหน้ามองว่านสู่นพลันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ใครช่วยชีวิตเจ้ากัน”ว่านสู่นพูดกับซูเหย่นด้วยท่าทีเหยียบหยามพูดจบหล่อนมองซูเหย่นด้วยท่าทีสอบสวนหล่อนยังไงก็คิดไม่ออกว่าตนได้ช่วยชีวิตซูเหย่นเมื่อหร่
“เมื่อกี้เจ้ามัวแต่ต่อสู้เจ้าเป็นคนบังหอกให้ข้า”ซูเหย่นอธิบายอย่างจริงจังแต่ว่านสู่นกลับขมวดคิ้วขึ้น
เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องพูดต่อหน้าท่านนายหญิงเสียหน่อย
แต่ซูเหย่นเห็นว่านสู่นยังคงอยู่ในความงุนงงจึงต้องการอธิบายต่อเพื่อทำให้ว่านสู่นนึกขึ้นได้
“ซูเหย่นหากเลือกได้ตอนนั้นข้าจะไม่ช่วยเจ้าแน่นอนหากเจ้ายังคงพูดเรื่องไร้สาระอยู่ที่นี่เชื่อไหมว่าข้าจะเสียบหอกนั้นเข้าตัวเจ้า”ในที่สุดว่านสู่นก็อดโมโหไม่ได้พลันพูดกับซูเหย่นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...