ตอนที่ 447 เหตุใดต้องเป็นหม่าฮวา
หลี่เฉินเย่นชอบความรู้สึกที่อยู่กับชูเซี่ย มันทั้งสุขสบาย ทำให้รู้สึกถึงค่ำคืนอันสงบเงียบ
แต่ยามอยู่กับเหลียงเฟยความรู้สึกเดียวก็คือเหนื่อยล้า ความออดอ้อนคือจุดมุ่งหมายเดี๋ยวของนาง วาจาที่เอ่ยก็เพียงแต่เพื่อผลประโยชน์
ดังนั้น ถึงแม้ว่ามาหาชูเซี่ยที่นี่ จะมิได้มีถ้อยคำอันใดพูดกันมากนักแต่เขาก็ชอบ แม้ว่าจะเป็นเพียงการจ้องมองชูเซี่ยง่วนหยู่กับงานอย่างเงียบเชียบ แต่ในใจของเขาก็สงบ ลมหายใจกลายเป็นความผ่อนคลาย
ในเพลาที่หลี่เฉินเย่นกำลังเสพสุขกับความเงียบสงบที่หายากในตำหนักฉ่ายเหว่ย แต่ตำหนักของโหรวเฟยกลับมีแขกที่มิได้รับเชิญมาอย่างกระทันหัน
นางเพิ่งจะเดินผ่านประตูตำหนักเข้าไปด้านใน ก็ถูกสาวใช้สกัดกั้นไว้
“องค์หญิงน้อยเพคะ ตำหนักโหรวหยีของพวกหม่อมฉันมิอนุญาตให้คนแปลกหน้าเข้า พระองค์กลับไปก่อนเถิด” เมื่อได้เห็นสาวน้อยที่ใบหน้าสวยงามและอ่อนโยน น้ำเสียงของบรรดาหญิงรับใช้ก็เปลี่ยนเป็นความนุ่มนวล
“เจ้ารู้ว่าข้าคือองค์หญิง ถ้าเช่นนั้นข้าก็มิใช่คนแปลกหน้ามิใช่หรือ? จิงโม่เอ่ยเสียงเบา ดวงตาของนางแวววาว ลูกตาดำขลับเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม
“องค์หญิงน้อยเพคะ ข้าน้อยรู้จักองค์หญิง แต่ทว่าสำหรับผู้คนในตำหนัก องค์หญิงก็ยังเป็นเพียงคนแปลกหน้า ดังนั้นพระองค์กลับไปก่อนเถิดเพคะ” หญิงรับใช้ค่อนข้างลำบากใจ ผู้ใดจะมีรู้ว่าหญิงที่เบื้องหน้านี้คือองค์หญิงน้อยที่ถูกฮ่องเต้เลี้ยงดูทะนุถนอมราวกับไข่มุก แต่ทว่าภายในตำหนักแห่งนี้ ท่านแม่ทัพเฉินคุ้มกันอย่างแน่นหนา เขาได้กำชับไว้ตั้งแต่แรกว่านอกจากฮ่องเต้ก็มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าไปบอกทุกคนในตำหนักว่าข้าจะเข้าไป” จิงโม่มิยอมถอยหลังกลับ นางเอ่ยขอร้อง ท่าทางที่วิงวอนขอทำให้ผู้พบเห็นโอนอ่อนตาม
“องค์หญิงน้อยเพคะ ตำหนักของพวกข้าน้อยคือของโหรวเฟย แต่เพลานี้โหรวเฟยล้มป่วยมิได้สติ ถึงข้าน้อยจะเข้าไปรายงานแต่นางก็ไม่สามารถมาพบพระองค์ได้ พระองค์กลับไปก่อนเถิดเพคะ” หญิงรับใช้ค่อนข้างเป็นกังวล นางเคยได้ยินมาว่าองค์หญิงน้อยท่านนี้ประหลาดพิกล แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมิรู้ว่านางจักดื้อรั้นเช่นนี้
“ถ้าเช่นนั้น ในตำหนักมีผู้ใดได้สติอยู่บ้าง ข้าเห็นเขาเข้ามา ดังนั้นเจ้ารีบไปทูลเขาว่าอยากจะพบเขา” เมื่อจิงโม่เห็นว่าหญิงรับใช้ยังคงดื้อดึง นางจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยสิ่งที่ตนเองรู้ออกไป
วาจาของนางเพิ่งจะเอ่ยจบ หญิงรับใช้ผู้นั้นก็เปลี่ยนสีหน้า
ตั้งแต่ที่เฉินหยวนชิ่งถูกฮ่องเต้ตำหนิต่อหน้า เขาก็มิได้กลับมาที่ตำหนักอย่างเปิดเผย แต่ทว่าเขาเป็นห่วงโหรวเฟย ดังนั้นจึงแอบกลับมาที่ตำหนักทุกวัน
เพียงแต่ว่าความลับนี้มีแค่เพียงผู้คนในตำหนักโหรวเฟยที่รู้ นางมิคิดว่าจิงโม่จะเอ่ยออกมา
แน่นอนว่าจิงโม่จักมิบอกหญิงรับใช้ผู้นี้ว่านางมิได้พบกับเฉินหยวนชิ่งจริงๆ แต่ที่นางรู้เรื่องที่เขาอยู่ในตำหนัก ก็เพราะฉองเหลาเป็นคนบอกนาง
“เจ้าพี่สาวไปบอกให้ข้าก็พอแล้ว ถ้าหากว่าเจ้ามิไป ข้าจะให้ท่านพ่อมาพาข้าเข้าไป ท่านพ่อรักใคร่ข้ากับน้องชายมากเท่าใดเจ้าคงจะเคยได้ยินมาบ้าง” ถึงแม้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมายังคงนุ่มนวล แต่ทว่าฟังแล้วคล้ายกับกำลังใช้อำนาจคุกคามผู้อื่น
ใบหน้าของหญิงรับใช้ผู้นั้นเปลี่ยนไปกับวาจาที่จิงโม่เอ่ยออกมาไม่หยุด ในที่สุดนางจึงก้มศีรษะลงพลางเอ่ยเสียงเบา “ถ้าเช่นนั้นพระองค์อย่าพึ่งเอ่ยอันใดมั่วซั่วนะเพคะ ข้าน้อยจะไปบอกนายท่านว่าพระองค์รออยู่ที่นี่”
หญิงรับใช้เข้าไปเพียงครู่เดียว เฉินหยวนชิ่งก็เดินออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เคร่งขรึม เมื่อยามที่หญิงรับใช้ผู้นั้นเข้าไป ใบหน้าของนางเป็นกังวล นางเพียงแค่เอ่ยว่ามีคนรู้ว่าเฉินหยวนชิ่งมาที่ตำหนัก เขาจึงกลัดกลุ้มใจว่าแม้แต่ตนเองก็มีผู้สะกดรอยตามหรือ? ดังนั้นเพลาที่เขาออกมาพบจิงโม่ ใบหน้าของเขาบึ้งตึงอย่างถึงที่สุด
โดยเฉพาะในเพลาที่เขามองไปยังประตูของตำหนักแล้วมีพบผู้ใดใบหน้าของเขาก็ยิ่งบึ้งตึง
ในเพลาที่กำลังจะหมุนตัวกลับไปตวาดใส่หญิงรับใช้ที่มารายงาน เขากลับมีความรู้สึกว่าชายอาภรณ์ของตนถูกดึงไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...