ตอนที่ 449 รักษาทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกัน
ท่าทางที่ยุ่งเหยิงของจิงโม่ทำให้ชูเซี่ยขำขัน นางเอ่ยกับจิงโม่อย่างอ่อนโยน “โหรวเฟยเหนียงมิเหมือนกับเฟยเหนียงอื่นๆในพระราชวัง แม่และท่านพ่อของเจ้ารู้สึกละอายใจต่อนาง ดังนั้นมิว่าท่านพี่ของนางเป็นเช่นไร แม่ก็จะรักษาและถอนพิษให้แก่นาง”
แต่ไหนแต่ไรมาชูเซี่ยมิเคยนำเรื่องยาพิษในร่างกายของโหรวอฟยมาเอ่ยต่อหน้าหลี่เฉินเย่น เพียงแต่ว่าเพลานั้นนางรีบร้อนที่จะออกไปจากวัง เพลานี้นางกลับมาแล้ว และเป็นเพลาที่ควรจะถอนพิษให้แก่โหรวเฟย
ถึงแม้ว่าในวังแห่งนี้จะวุ่นวาย แต่ทว่าการที่ปล่อยให้นางหลับใหลเป็นเวลานานเช่นนี้ มันจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
“เฉินเย่น ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้หม่อมฉันไปถอนพิษให้โหรวเฟยเลยนะเพคะ” ชูเซี่ยเอ่ยกับหลี่เฉินเย่นอย่างนุ่มนวล
“เจ้ากำลังปรึกษาหารือกับข้า หรือว่ากำลังทูลให้ข้าทราบ? ในเมื่อเจ้าแน่ใจแล้วก็ไปเถิด มิเช่นนั้นข้าจักมิแนะนำให้เจ้ารีบร้อนถอนพิษให้นางเช่นนี้ เหลียงเฟยกับฉ่ายเวินทำให้ผู้คนปวดศีรษะมามากพอ” หลี่เฉินเย่นเอ๋ยอย่างตั้งใจ เขามิชอบถูกนางสนมทั้งหลายในวังทำให้บรรยากาศเป็นพิษ การมีอยู่ของฉ่ายเวิน เหลียงเฟย รวมไปถึงเฉินอวี่โหรว ทำให้ในหัวใจของเขารู้สึกรำคาญใจ
ในหัวใจของเขาคิดอย่างหวาดระแวง ว่าผู้คนที่คอยขัดขวางตนเองและชูเซี่ยล้วนเป็นผู้ที่น่ารำคาญใจ
ชูเซี่ยจ้องมองผู้ที่หาได้ยากที่จะมีอารมณ์โกรธราวกับเด็กเช่นหลี่เฉินเย่น ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ถ้าหากมิถอนพิษ เกรงว่าเฉินหยวนชิ่งจะมีคำแนะนำต่อพระองค์ เมื่อถึงเพลานั้นเมื่อเขานอนกลิ้งไปกลิ้งมาที่เฉาถัง เช่นนั้นถึงจะเป็นความเกลียดชังเพคะ”
ก่อนที่หลี่เฉินเย่นจะกลับออกมาเขาให้หยวนชิ่งไตร่ตรองอีกครั้ง เพลานี้กลับมาแล้วก็จำเป็นจะต้องให้หยวนชิ่งกลับเข้ามารับราชการอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขามิใช่ตัวแทนของกองทัพก็ตาม แต่เขาก็เป็นผู้บัญชาการของพลทหารม้า”
“แต่ข้สรู้สึกว่าเฉินอวี่โหรว...” นึกถึงเพลาที่เขานั่งอยู่กับโหรวเฟย ในใจของเขามีแต่ความรู้สึกที่แปลกประหลาด
“นางคือผู้หนึ่งในพระราชวังแห่งนี้ที่มิคิดทำร้ายพระองค์ พระองค์กังวลอันใดหรือ?” ชูเซี่ยรู้ดีกว่าใครว่าโหรวเฟยมิมีทางยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามหลี่เฉินเย่นอย่างแน่นอน นี่ก็คือเหตุผลที่นางอยากถอนพิษให้โหรวเฟยในทันที เพลานี้โห้วกงแห่งนี้สับสนอลหม่านเกินไป การมีสหายเพิ่มอีกคน ดีกว่ามีศัตรูเพิ่มอีกคนเป็นไหนๆ
“ข้ากลัวว่านางจะทำร้ายเจ้า เรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่เฉินหยวนชิ่งกลับผูกมันไว้กับตัวเจ้า พวกเขาเป็นพี่น้องกัน นางมิมีทางมิเกลียดเจ้า” หลี่เฉินเย่นเอ่ยออกมาอย่างเป็นกังวล แม้ว่าเฉินอวี่โหรวเอาใจออกห่างจากหยวนชิ่ง แต่เขาก็มิเชื่อว่านางจักมิสนใจเลยแม้แต่น้อย อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน
“แต่ทว่าข้าเข้าใจโหรวเฟยมากกว่าพระองค์ นางชอบพอพระองค์ ดังนั้นรอให้นางฟื้นขึ้นมา นางจักสามารถช่วยพระองค์ควบคุมพี่ชายของนางได้ พระองค์ก็รู้ว่านางอยู่ในสถานะใดในหัวใจของเฉินหยวนชิ่ง ดังนั้นพระองค์ต้องปฏิบัติต่อนางให้ดีเพคะ” ชูเซี่ยเอ่ยกำชับเสียงเบา
ความรู้สึกของทุกคนล้วนมิควรถูกทำให้ผิดหวัง ถ้าหากว่ามิสามารถให้ความรักที่เหมาะสมได้ ถ้าเช่นนั้นก็ควรให้ความเคารพแก่นาง ให้อำนาจที่ทำให้ผู้คนอิจฉาแก่นาง บางทีนี่อาจจะเป็นวิธีการชดเชยได้ดีที่สุด
“เฉินหยวนชิ่งบ่นกับข้าเนิ่นนาน คาดว่านางคงจะไม่ฟังคำของเขา”
“ถ้าพระองค์ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรเพคะ? หม่อมฉันมักจะรู้สึกว่าเฉินหยวนชิ่งมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับนางมากเกินไป มันลึกซึ้งจนสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทุกอย่างของเฉินหยวนชิ่ง โดยเฉพาะครั้งนี้ เรื่องกองทัพเก้อโจวถ้าหากมิใช่เพราะโหรวเฟยได้รับยาพิษ เฉินหยวนชิ่งน่าจะเข้าร่วมมากกว่านี้” ชูเซี่ยพินิจพิเคราะห์ให้หลี่เฉินเย่นฟังอย่างจิงจัง แต่ทว่าใบหน้าของหลี่เฉินเย่นกลับเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องราวของกองทัพเก้อโจวได้กลายเป็นรอยแผลเป็นในใจของเขาแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่เคยมีส่วนร่วมกับเรื่องราวนี้ เขาก็จะไม่ปล่อยไป
เพราะผู้ที่พวกเขาตั้งเป้าหมายก็คือใจของตนเอง ชีวิตของตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...