ตอนที่ 453 ความบ้าของเฉินหยวนชิ่ง
“เฉินหยวนชิ่ง เจ้าบ้าพอหรือยัง?” หลี่เฉินเย่นจ้องเฉินหยวนชิ่งด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เฉินหยวนชิ่งกลับจ้องมองดูที่เสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของหลี่เฉินเย่น
ความคิดในใจเขาเหมือนกับได้รับการยืนยันก็ไม่ปาน สายตาที่มองไปทางหลี่เฉินเย่นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“แม่ทัพเฉินทางที่ดีควรจะหาเหตุผลหนึ่งที่บุกเข้าตำหนักฉ่ายเหว่ยให้ข้า ที่นี่เป็นสถานที่ที่หัวหน้าพรรคมังกรเหินอาศัยนะ” หลี่เฉินเย่นจงใจเน้นหนักว่าชูเซี่ยเป็นหัวหน้าพรรคมังกรเหิน เพราะว่าอำนาจบัญชาการในมือของเขาทำให้หลี่เฉินเย่นยังคงมีความกังวล แต่พรรคมังกรเหินกลับไม่จำเป็นต้องกังวล
เฉินหยวนชิ่งฟังคำของหลี่เฉินเย่น ความเยาะเย้ยบนใบหน้ายิ่งมากขึ้น เพียงแต่ว่าเขายังคงมีสติอยู่บ้าง รู้ดีว่าตัวเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดที่บุกเข้าตำหนักนอนของหัวหน้าพรรคมังกรเหินก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูก
“กระหม่อมไม่ควรบุกเข้าตำหนักนอนของหัวหน้าพรรคโดยพลการ กระหม่อมยินดีจะรับโทษทุกอย่าง เพียงแต่ว่าหัวหน้าพรรคมังกรเหินเคยรับปากว่าจะช่วยน้องสาวกระหม่อม บอกว่าตอนดึกจะส่งใบสั่งยาให้ แต่ก็ยังมาไม่ถึง ดังนั้นกระหม่อมจึงมารับด้วยตัวเอง ไม่คิดว่าจะไปรบกวนเรื่องดีของฝ่าบาทกับหัวหน้าพรรค”
คำพูดก่อนหน้านี้เป็นเพียงการพูดตามข้อเท็จจริง พูดจนถึงท้ายสุด คำพูดก็มีแต่การเยาะเย้ยแล้ว
“เขาคิดว่าน้องสาวตัวเองถูกละเลย? ดังนั้นจึงรู้สึกโกรธใช่หรือไม่?” หลี่เฉินเย่นรู้ดีว่าเฉินหยวนชิ่งโกรธเพราะอะไร ที่เขาใส่ใจมากที่สุดคือน้องสาวถูกดูถูก
“คนจะถูกเคารพไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นน้องสาวของใคร แต่ดูว่าเขาทำอะไรไป รวมถึงเจ้าด้วย แม่ทัพใหญ่เฉิน ตอนที่เจ้าเอาแต่ดูแคลนชูเซี่ยไม่ลองคิดดูว่าสิ่งที่ตัวเองทำ มีเหตุผลอะไรให้ชูเซี่ยปฏิบัติหมดใจด้วย” ตอนที่หลี่เฉินเย่นเดินออกมาชูเซี่ยตื่นแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาเองก็กำลังโกรธ โกรธที่เฉินหยวนชิ่งรบกวนการนอนหลับของชูเซี่ย
ถ้าหากเฉินหยวนชิ่งสามารถทบทวนตัวเองหน่อย ก็คงจะไม่ยิ่งอยู่ยิ่งห่างเหินกับหลี่เฉินเย่น ตอนนี้เขาคิดเพียงแต่ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของชูเซี่ย แม้กระทั่งความห่างเหินของตัวเองกับฮ่องเต้ ก็ล้วนเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของฮ่องเต้และชูเซี่ย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย
“กระหม่อมเพียงแต่รู้ว่านางรับปากแล้วว่าจะให้ใบสั่งยาของยาแก้พิษให้กระหม่อม ” คำพูดของหลี่เฉินเย่นแค่คิดเฉินหยวนชิ่งก็ไม่ได้คิดสักนิด เพียงแต่บอกอย่างดื้นรั้น
“เชียนซาน เจ้าเข้ามา เอาใบสั่งยาส่งให้แม่ทัพเฉิน” เสียงอันอ่อนแรงของชูเซี่ยดังออกมาจากในตำหนักนอน หลี่เฉินเย่นได้ฟังรู้สึกสารสารปวดใจ เฉินหยวนชิ่งฟังแล้วกลับขมวดคิ้ว
ในหูของคนที่รู้เรื่องคือความอ่อนแอและเหนื่อยล้าของชูเซี่ย แต่ในใจของเฉินหยวนชิ่ง โดยเฉพาะหลี่เฉินเย่นที่เพิ่งเดินออกมาจากตำหนักนอน เป็นธรรมดาที่เขาจะฟังเป็นความหมายอย่างอื่น
“ถ้าฝ่าบาทมีเวลาก็ไปเอ็นดูเหล่านางสนมของตัวเองดีกว่า กุ้ยเฟยของอดีตฮ่องเต้......” เฉินหยวนชิ่งหยุดพูด เพียงแต่ความเยาะเย้ยในคำพูดเข้มข้นมาก
“เฉินหยวนชิ่ง ระวังปากของเจ้าหน่อย ไม่อย่างนั้นข้า......” หลี่เฉินเย่นไม่คิดว่าเฉินหยวนชิ่งพูดตรงและน่าเกลียดอย่างนี้ โดยเฉพาะ ชูเซี่ยยังอยู่ในตำหนักนอนไม่ไกล คำพูดของเขา นางได้ยินแน่ ดังนั้นหลี่เฉินเย่นเองก็แสดงอาการไม่พอใจออกมา เฉินหยวนชิ่งคนนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งไม่รู้ว่าพูดอะไร ยิ่งอยู่ยิ่งใจกล้าเกินไปแล้ว
“ฝ่าบาทจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปทำไม กระหม่อมเพียงแต่พูดในเรื่องจริงไม่ใช่หรือ? โหรวเฟยเข้าวังมาจนถึงตอนนี้ฝ่าบาทไปยังพระตำหนัดโหรวหยีครั้งเดียวในวันที่สถาปนานาง หมดสติไปหลายวันฝ่าบาทก็ไม่ได้สนใจ แต่ที่อาศัยของกุ้ยเฟยของอดีตฮ่องเต้นี้ ฝ่าบาทกลับไปมาไม่ขาด” ในใจเฉินหยวนชิ่งมีแต่ไฟโกรธ เขาตะโกนใส่หลี่เฉินเย่นเสียงดัง
ที่เขาตะโกนออกมาไม่เพียงแต่เพราะไม่พอใจชูเซี่ย ยิ่งกว่านั้นคือความทุข์ของน้องสาวที่กลับเข้ามาใหม่แล้วยังคงถูกละเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...