เมื่อเทียบกับความเงียบเฉยของหลางฟงติ่งแล้วไม่เหมือนกัน ความวุ่นวายในราชวังแต่ละวันแล้ว โดยเฉพาะตำหนักของเหลียงเฟย
ในตอนนี้
พอหลี่เฉินเย่นมาถึงก็ให้หมอหลวงจับชีพจร และให้คนปรุงยา ป้อนยาให้นางด้วยตัวเอง พอนางรับประทานยาจนหมด ทั้งสองคนจึงเริ่มพูดคุยกันเป็นเวลานานถึงเดินจากไป
สำหรับการแสดงและสาวสวยที่เหลียงเฟยเตรียมไว้ หลี่เฉินเย่นไม่แม้แต่จะมอง ต่อหน้าเหลียงเฟย เขาเป็นเพียงสามีที่ดี เป็นห่วงลูก และเป็นบิดาที่เฝ้ารอการออกมาดูโลกของลูก
ฉะนั้นพอเห็นแผ่นหลังของหลี่เฉินเย่นเดินจากไปจากสายตาของตัวเอง ใบหน้าของเหลียงเฟยเต็มไปด้วยความพอใจ
“ดีแล้ว ฝ่าบาทเดินจากไปนานแล้ว เจ้าก็มองแบบนี้ไปตลอดแล้วกัน ฝ่าบาทจะไม่กลับมาอีก ”เสียงที่ดังทุ่มออกมาจากด้านหลังของเหลียงเฟย ทำให้เหลียงเฟยหันกลับไปมองผู้ชายวัยกลางคนในร่างผอม พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ท่านพ่อท่านน่าจะเชือคำพูดของลูกบ้าง ฝ่าบาทรักข้าจริงๆ ท่านก็ได้ยินชัดแล้ว ฝ่าบาทบอกว่า เขาไม่พอใจในตัวฉองเหลามาก เขารังเกลียดฉองเหลาที่ไม่มีกลิ่นไอของความเป็นเชื้อพระวงศ์ ลูกที่เจ้าชูเซี่ยผู้หญิงต่ำต้อยคลอดออกมานั้น เป็นได้แค่คนธรรมดาทั่วไป จะมีกลิ่นไอของความเป็นเชื้อพระวงศ์ ได้อย่างไร ลูกในท้องข้า มีพ่อเป็นฮ่องเต้ มีแม่เป็นเชื้อผู้ดีชั้นสูง เค้าเท่านั้นที่เป็นทายาทที่แท้จริง
คำพูดของเหลียงกุ้ยเฟยยิ่งพูดยิ่งได้ใจ พอพูดจบนางก็ร่าเริงหันไปมองบิดาของตน ในสายตานั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ท่านพ่อ ถ้าหากท่านสามารถช่วยฝ่าบาทในราชสำนัก พอถึงเวลาฝ่าบาทต้องรักลูกแน่นอน และยิ่งรักลูกในท้องของข้า เมื่อถึงเวลาที่ลูกของข้าเติมโตเป็นราชทายาท ข้าก็จะกลายเป็นฮ่องเฮา ท่านก็จะกลายเป็นบิดาของฮ่องเฮา อีกไม่นานสิ่งนี้ก็จะเป็นจริงแล้วท่านพ่อ”พอเห็นจางเซียนฮุยนิ่งไม่ออกเสียงอะไรตอนที่นางพูด เหลียงเฟยจึงรู้สึกใจร้อนแบบไม่รู้ตัว ถึงตอนนี้บางทีก็ทนไม่ไหวที่จะทำตัวเหมือนตัวเป็นเด็ก ดึงชายเสื้อของบิดาตน
“ท่านพ่อ ท่านฟังข้าพูดอยู่หรือเปล่า ฝ่าบาทจริงใจกับข้าหรือไม่ท่านยังดูไม่ออกหรือ?หากฝ่าบาทมีความคิดแบบนี้ ความฝันของท่านพ่อก็จะเป็นจริงแล้ว ถึงเวลานั้น ตระกูลจางก็จะยิ่งใหญ่เป็นที่หนึ่งในอาณาจักรนี้ เป็นแรงกำลังหลังที่ดี ถึงเวลานั้น……”เหลียงเฟยพูดไม่หยุดถึงการวาดฝันอนาคตของตนและบิดา แม้แต่เวลาพูดก็ตื่นเต้น เสพสุขกันการวาดฝันเหล่านี้ว่ามันจะเป็นจริงในไม่ช้านี้
พอจางเซียนฮุยเห็นความสุขที่ลูกแสดงออกมา จากเดิมที่กังวลใจมากมายจึงลดน้อยลง เขาประเมินความรู้สึกที่หลี่เฉินเย่นมีต่อชูเซี่ยมากไปเอง เห็นทีจะมองหลี่เฉินเย่นผิดไป หากไม่ใช่ได้ยินคำพูดที่เป็นห่วงเหล่านี้ด้วยหูของตัวเอง จางเซียนฮุยคงไม่มีทางเชื่อว่า ฮ่องเต้ที่เฝ้าดูแลอยู่ข้างกายชูเซี่ยมาห้าปีนี้ จะไปชอบผู้หญิงอื่นได้ ทั้งลูกสาวของตนและลูกสาวของเหลียงกุย……
จางเซียนฮุยค่อยๆเดินเข้าไปตรงหน้าเหลียงเฟย พูดเสียงเบาๆข้างหูของลูกสาวตนว่า“พรุ่งนี้เจ้าแวะไปหาชูเซี่ย หาโอกาสทะเลาะกับนาง”
“ท่านพ่อ ท่านเพิ่งพูดไปเองก่อนหน้านั้น ให้ข้าอย่าไปยุ่งกับนาง อีกอย่างฝ่าบาทเองก็ได้ลงราชองค์การแล้วว่าห้ามไม่ให้พวกข้าเข้าไปตำหนักฉ่ายเหว่ย ตอนนี้นางจะถูกทิ้ง จนต้องหลบอยู่ในตำหนักฉ่ายเหว่ยไม่กล้าออกมาแล้ว ถึงแม้ข้าจะอยากไปหาเรื่องนางก็ไม่ใช่ว่าจะหาตัวนางเจอ ข้า……”
เหลียงเฟยไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมท่านพ่อถึงให้ตนไปหาชูเซี่ย และต้องไปทะเลาะกับนางอีก
ถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะรักชูเซี่ยไม่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็แวะไปหานางอยู่บ้าง เพราะพวกเขาอย่างไรก็ยังมีเยื่อใยต่อกัน
นางกลัวว่าหากตนทะเลาะกับชูเซี่ยจริง ถึงตอนนั้นถ้าหลี่เฉินเย่นเข้าข้างชูเซี่ย จนถึงตอนนี้นางยังจำเหตุการณ์หลังจากที่เรียกชูเซี่ยเป็นหลกุ้ยท่ายเฟยครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี ถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปของฮ่องเต้
ตอนนั้นฮ่องเต้ไม่มีความรักอะไรต่อนางเลย นางสามารถสู้อีกตาได้ แต่ดูตอนนี้สิ นางไม่กล้าที่จะเอาความสุขของตัวเองไปเสี่ยง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...