ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 480

สรุปบท ตอนที่480พระตำหนักหลึงกงที่แสนน่ากลัว: ชายาเกิดใหม่ของข้า

อ่านสรุป ตอนที่480พระตำหนักหลึงกงที่แสนน่ากลัว จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่

บทที่ ตอนที่480พระตำหนักหลึงกงที่แสนน่ากลัว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่480พระตำหนักหลึงกงที่แสนน่ากลัว

คนเฝ้าประตูเห็นว่าตราประทับอันนั้นมีค่าไม่น้อยรีบรับมาและไปรายงานอีกครั้งส่วนจางเซียนฮุยก็รออยู่ข้างนอกอย่างร้อนรน

สิ่งที่ได้จากการรอคอยกลับเป็นจานใบหนึ่งที่มีตรงประทับวางอยู่สองอันหยกสีข้าวที่เหมือนกันอย่างกับแกะภายใต้การเรืองแสงมีตัวอักษรสี่ตัว:ถงเต้าถังยิ่น

“นายท่านมีคำสั่งว่าให้นำตราประทับนี้ไปคืนที่หลางฟงติ่งไม่ทราบว่าของใต้เท้าจางจะให้นำไปด้วยหรือไม่”คนเฝ้าประตูไม่รู้หรอกว่าประโยคนี้มีความหมายว่าอย่างไรเพียงแต่พฤติกรรมของเหลียงกุ้ยได้บอกจางเซียนฮุยแล้ว

ใบหน้าของจางเซียนฮุยเหลือเพียงความพ่ายแพ้เขามองดูคนเฝ้าประตูคนนั้นยื่นมือที่สั่นออกไปและหยิบตราประทับถงเต้าถังกลับมาไว้ในมือ

ความเย็นของตัวหยกทำให้จางเซียนฮุยค่อยๆเข้าใจแล้วว่าเหลียงกุยต้องการยุติการร่วมมือกับหลี่เฉินเย่นแล้ว

ความคิดนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากที่รู้ว่าเหลียงกุ้ยเฟยตั้งท้องเขาลังเลมาโดยตลอดแต่คิดไม่ถึงว่าเหลียงกุยจะตัดสินใจเร็วกว่าตัวเอง

ก็แน่อยู่แล้วตอนนี้หลันกุ้ยเฟยถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างมากไม่เพียงแต่เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทฝ่าบาทยังสัญญาอีกว่าจะมอบลูกของเหลียงกุ้ยเฟยให้หล่อนเลี้ยงถึงตอนนั้นแม่มีเกียรติเพราะลูก......

การร่วมมือกันระหว่างเขาและหลี่เฉินเย่นเดิมทีอยู่บนพื้นฐานที่ฝ่าบาททรงไม่สนใจในลูกสาวของพวกเขาทั้งคู่เลยหากลูกสาวของพวกเขาสามารถกำเนิดรัชทายาทถึงเวลานั้นตระกูลของพวกเขาจะมั่งคั่งอย่างแน่นอนอนาคตที่มีเหตุมีผลแบบนี้ต้องได้ใจคนมากกว่าการที่พวกเขาการที่พวกเขาลับๆล่อๆอย่างแน่นอน

ตอนนี้เหลียงกุยมีความมั่นใจในตนเองแต่เขา......เมื่อนึกถึงเด็กที่อยู่ในท้องเหลียงกุ้ยเฟยที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นรัชทายาทแล้วจางเซียนฮุยกำมือแน่นหินหยกในมือแทงมือของเขาจนเจ็บและทำให้เขามีสติมากกว่าเดิม

แม้ฝ่าบาทไม่ได้ทรงรักชูเซี่ยคนเดียวแล้วแต่คนที่จะเข้าไปอยู่ในสายตาของฝ่าบาทก็มีเพียงเหลียงกุ้ยเฟยและหลันกุ้ยเฟยสองคนเท่านั้นตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะฝึกคนที่เหมาะสมเข้าวังอีกดังนั้นเขาจำเป็นต้องช่วยเหลียงกุ้ยเฟย

เขาออกจาบ้านของเหลียงกุ้ยอย่างช้าๆก้าวเดินได้ประมาณสิบก้าวเขาหันกลับไปมองตำหนักเหลียงอย่างกะทันหันรอยยิ้มตรงมุมปากสะท้องความแปลกประหลาด

ในเมื่อไม่สามารถร่วมมือกันได้ถ้าอย่างนั้นก็เป็นได้แค่ศัตรูแล้วล่ะในแม้อย่างรับเลี้ยงหลานของเขาเขาก็อยากรอดูเหมือนกันเหลียงกุยมีข้อไหนที่เหมาะสม

หลังจากที่จางเซียนฮุยกลับตำหนักแล้วก็มอบหมายคนให้ไปส่งข่าวให้กับพรรคพวกของตนระหว่างนี้ก็มีคนที่มีฝีมือต่อสู้ยอดเยี่ยมหลายคนออกไปตามคำสั่งด้วยไม่มีใครรู้หรอกว่าจางเซียนฮุยจะใช้วิธีไหนช่วยแก้ต่างให้เหลียงกุ้ยเฟยและไม่มีใครรู้อีกว่าจางเซียนฮุยมีแผนอะไรกับเหลียงกุยอีก

พระตำหนักหลึงกงในตอนนี้ยังคงเงียบเหงาซึ่งต่างจากความกดดันในตำหนักของจางเซียนฮุยลมเย็นในต้นฤดูหนาวเข้ามาในห้องผ่านทางหน้าต่างบานเก่าและชำรุดพัดเป่าตะเกียงให้ดับลงเหลียงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างโต๊ะนั่งฟังเสียงลมพัดข้างนอกและสั่นไปทั้งตัว

หล่อนเป็นลูกสาวของจางเซียนฮุยถูกเลี้ยงดูอย่างดีมาตั้งแต่เด็กเข้าวังมาแม้จะไม่ได้รับความโปรดปรานแต่ก็เป็นสนมที่อยู่แนวหน้าเคยได้รับความหนาวเย็นและความคับข้องใจอย่างวันนี้ที่ไหนกัน

ตอนนี้ในใจของหล่อนเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเกลียดหลันกุ้ยเฟยผู้ที่ทำให้ตัวเธอเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

เห็นได้ชัดว่าหล่อนได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทแล้วยังไงตนก็สู้หล่อนไม่ได้แต่เธอก็ยังจะทำร้ายตนเอง......

หล่อนเชื่อว่าท่านพ่อต้องช่วยตนแน่นอนและเชื่อว่าตนจะสามารถออกจากพระตำหนักหลึงกงนี้ได้

หล่อนสาบานต่อฟ้าว่าหากตนออกไปจากพระตำหนักหลึงกงนี้ต้องทำให้หลันกุ้ยเฟยเห็นดีต้องทำให้หล่อนได้เข้ามาอยู่ในพระตำหนักหลึงกงนี้ด้วยมาลิ้มลองรสชาติแห่งความแห่งและความกลัวนี้

แต่ตอนที่หล่อนก้มหน้าลงนั้นหล่อนตกใจอย่างมากเพราะข้างนอกประตูมีเงาคลุมเครืองของคนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

“คิดไม่ถึงว่าเจ้าก็กลัวอะไรเป็นข้าคิดว่าเจ้าไม่กลัวอะไรเลยเสียอีก”เสียงของหลี่เฉินเย่นค่อยๆดังขึ้นพร้อมกับความเยือกเย็น

แต่เสียงนี้กลับทำให้เหลียงกุ้ยเฟยได้สติกลับคืนมาในทันทีเธอมีความสุขมากล้นเธอลุกขึ้นยืนด้วยความตื้นตันใจและโน้มไปทางหลี่เฉินเย่น

“ฝ่าบาทข้าน้อยรู้อยู่แล้วว่าท่านต้องเชื่อข้าท่านต้องมาอย่างแน่นอน”เหลียงกุ้ยเฟยพูดพลันกระโจนเข้าหาหลี่เฉินเย่นแต่คิดไม่ถึงว่าหลี่เฉินเย่นกลับหันข้างใส่เพื่อหลบร่างของหล่อน

เหลียงกุ้ยเฟยเสียแรงเปล่าดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังเธอมองไปทางหลี่เฉินเย่นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นมองหล่อนด้วยสายตาที่เย็นชา

“ฝ่าบาทข้าน้อยรู้ว่าท่านเชื่อใจข้าท่าน......”ขณะที่เหลียงกุ้ยเฟยพูดได้เข้าใกล้หลี่เฉินเย่นอีกครั้งแต่คิดไม่ถึงว่าหลี่เฉินเย่นจะหลบหนีอีก

“ฝ่าบาทท่าน......”เหลียงกุ้ยเฟยประหลาดใจเล็กน้อยฝ่าบาททรงมาในเวลานี้ไม่ใช่เพราะ......

“ข้าเพียงแต่มาบอกบางอย่างแก่เจ้า”

น้ำเสียงที่เย็นชานี้ทำให้ความอุ่นใจของเหลียงกุ้ยเฟยสลายไปไม่น้อยหล่อนมอดูหลี่เฉินเย่นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า“ฝ่าบาทมีอะไรจะทรงพูดรึข้าน้อยฟังอยู่”

เหลียงกุ้ยเฟยมองหลี่เฉินเย่นด้วยสายตาที่ลึกซึ้งรอให้หลี่เฉินเย่นเปิดปากพูดหล่อนรู้สึกดีใจมากนี่เป็นครั้งแรกที่หลี่เฉินเย่นเป็นฝ่ายเริ่มก่อนครั้งแรกที่ต้องการพูดอะไรกับตน

หลี่เฉินเย่นมองดูใบหน้าที่ดีใจออกหน้าออกตาด้วยความรังเกียจมุมปากมีรอยยิ้มจางๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า