ตอนที่483สองแฝดถูกลอบสังหาร
หลี่เฉินเย่นพักที่พระตำหนักฉ่ายเหว่ยเป็นเหมือนเช่นเคยการได้ผ่านคืนที่เงียบสงบไปกับชูเซี่ยคืนแล้วคืนแล้วเป็นความหวังที่ใหญ่ที่สุดของหลี่เฉินเย่น
แต่ความหวังนี้ก็ได้สูญเปล่าเพราะกลางดึกลู่กงกงมาเคาะห้องทรงพระบรรทม
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูชูเซี่ยกำลังต่อสู้กับฝันร้ายหลี่เฉินเย่นลุกขึ้นถึงได้เห็นเม็ดเหงื่อและความสับสนบนใบหน้าของชูเซี่ยเขาตบร่างกายของชูเซี่ยเบาๆให้หล่อนตื่นจากฝันร้าย
เมื่อเห็นหลี่เฉินเย่นที่อยู่ตรงหน้าชูเซี่ยเข้าไปกอดเขาทันทีไม่ได้พูดอะไรในใจมีแต่ความหวาดกลัว
“ใครมาเคาะประตู”เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งชูเซี่ยขนลุกเล็กน้อยเธอถามหลี่เฉินเย่นด้วยเสียงที่เบาพูดจบหลี่เฉินเย่นก็ตะโกนอย่างโมโหว่า“เคาะอะไรกันรออยู่ข้างนอกก่อน”
หลี่เฉินเย่นรู้สึกโมโหที่คนข้างนอกรบกวนการพักผ่อนของชูเซี่ยแต่ก็รู้ว่าหากไม่ใช่เรื่องรีบร้อนอะไรไม่น่าจะมีใครกล้ามารบกวนตอนนี้
หลี่เฉินเย่นจัดการกับความโกรธในใจพูดกับชูเซี่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า“เจ้ารออยู่ที่นี่ข้าจะออกไปดูเสียหน่อยน่าจะมีเรื่องด่วนอะไร”
ตั้งแต่กลับวังมาหลี่เฉินเย่นก็ได้แยกเธอกับรัฐสภาออกจากกันเขาไม่ต้องการให้ชูเซี่ยกังวลกับเรื่องในราชสำนักอีกแม้จะยังคงเป็นห่วงหลี่เฉินเย่นแต่ชูเซี่ยก็ได้ทำตามที่เขาบอก
เพียงแต่เมื่อมองดูเงาด้านหลังของหลี่เฉินเย่นที่เดินจากไปก็คิดถึงเรื่องที่ตนได้ฝันเมื่อครู่ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะเดินออกไปและได้ยินปลายเสียงของลู่กงกงพอดี
“เด็กทั้งสองต่างได้รับบาดเจ็บรึหนักหรือไม่แพทย์หลวงไปกันหรือยังไปหาจูเก๋อหรือยัง”
“องครักษ์ทางศิษย์พี่ก็ถือว่าดีนะทำไมจู่ๆ......”
“ช่างเถอะข้าไปดูเสียหน่อยเถอะ”หลังจากที่หลี่เฉินเย่นยิงคำถามยาวเหยียดอย่างร้อนรนพลันตัดสินใจเสียงเบา
“ถ้าอย่างนั้นทางหัวหน้าชูเซี่ยนี้พวกข้าจะพูดอย่างไรดี”ลู่กงกงมองหลี่เฉินเย่นอย่างลำบากใจ
หากตอนนี้ออกไปอย่างรีบร้อยทางชูเซี่ยก็จะไม่สามารถปิดบังอะไรได้แล้ว......
“ข้าไปกับพวกเจ้าด้วย”ชูเซี่ยที่ใบหน้าซีดเซียวเดินออกมาจากห้องทรงพระบรรทมหลี่เฉินเย่นเห็นเธอใส่เพียงเสื้อบางๆตัวเดียวรีบเดินไปข้างหน้าถอดเสื้อของตนให้ชูเซี่ยสวมใส่
“ดึกแล้วเจ้ารอข่าวในพระตำหนักเถอะข้าไปหรือเจ้าไปล้วนเหมือนกัน”หลี่เฉินเย่นเห็นว่าไม่สามารถปิดบังอะไรได้แล้วพลันถอนหายใจและพูดด้วยเสียงนุ่มนวล
“หลี่เฉินเย่นเราไม่ต้องไปกันทั้งสองคนหรือไม่ก็เราไปด้วยกันสองคน”ชูเซี่ยรู้ว่าหลี่เฉินเย่นเป็นห่วงสุขภาพของตนแต่เธอเป็นแม่ของสองแฝดพวกเขาเจอปัญหาตนควรรีบไปในวินาทีแรก
ตอนนี้เธอไม่มีวิธีโน้มน้าวหลี่เฉินเย่นให้พาตนไปด้วยหากต้องการให้เขาตอบตกลงก็ต้องใช้สองคน
เธอรู้ความละอายที่หลี่เฉินเย่นมีต่อเด็กทั้งสองและรู้อีกว่าพวกเขาเป็นสิ่งล้ำค่าของหลี่เฉินเย่นดังนั้นตอนนี้ไม่ให้เขาไปตำหนักของอ๋องแคว้นเจิ้นนั้นจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขา
เธอรู้ว่าเขารู้สึกเสียใจสำหรับเด็กทั้งสองและรู้ว่าพวกเขาเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาดังนั้นจึงเป็นวิธีเดียวที่จะประนีประนอมกับเขาสงบสติอารมณ์
“เฉินเย่นพวกเราเป็นพ่อแม่ของเด็กตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการเรามากที่สุด”เมื่อเห็นหลี่เฉินเย่นเริ่มหวั่นไหวชูเซี่ยเริ่มพูดอีกครั้งเธอมองหลี่เฉินเย่นด้วยสายตาวิงวอน
หล่อนน้ำตาคลอเบ้าเพียงแค่มองหน้าหลี่เฉินเย่นก็รู้สึกปวดใจยิ่งนักเขามองดูชูเซี่ยและถอนหายใจในใจซ้ำๆสุดท้ายก็พูดอย่างจนปัญญาว่า“ไปเปลี่ยนเสื้อที่หนากว่านี้เรารีบไปกัน”
ชูเซี่ยบรรลุวัตถุประสงค์ก็ไม่กล้าต่อรองอะไรกับหลี่เฉินเย่นอีกเธอรีบไปเปลี่ยนเสื้อเมื่อเธอออกมาจากห้องทรงพระบรรทมอีกครั้งเกี้ยวก็ได้จอดอยู่หน้าประตูพระตำหนักแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...